“Mid-Small Cap Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “ฟื้นตัว” แนวต้าน 1700/1708จุด แนวรับ 1687/1680จุด หุ้นรายตัวในวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดผันผวน จากการ Rebalance ETF ของ Wisdom Tree ราว 1.5พันล้านบาท ซึ่งไม่ได้เกิดจากภาพพื้นฐาน ดังนั้น หุ้นขนาดกลางที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวน่าจะฟื้นตัวในวันนี้ ผสานการบริโภคฟื้น รับนโยบายรัฐฯ 1) บัตรคนจน 2) ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยเสนอรัฐฯ ลดหย่อนการบริโภคเหมือนการท่องเที่ยว และ 3) แนวโน้มราคาข้าวฟื้นตัว แนะนำ “Mid-Small Cap Play” : BDMS, M, RATCH
Nomura : Key Factors
- (+) TH: คาดราคาข้าวหอมมะลิปรับขึ้นที่ 1.2-1.3 หมื่นบาท/ตัน จาก 9,000-1 หมื่นบาท/ตัน
- (-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +0.84% สู่ $51.90/bbl / BRT -0.66% สู่ $57.37/bbl
- (+) OIL: แท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 7 แท่นสู่ระดับ 736 แท่นลดลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน
- (*) Fund Flow: ล่าสุดขายหุ้น-3,275ลบ, Long Future +922สัญญา,ขายBond-4,646ลบ
- (+) US: ทำเนียบขาวคาด Trump จะตัดสินใจเลือกประธานเฟดภายในวันที่ 3 พ.ย. นี้
- (+)ExFactor:พรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซอาเบะได้รับชัยชนะเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
- (+) Currency: ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่า หนุนค่าเงินเอเชียและบาทแข็งค่าในเชิงเปรียบเทียบ
- Nomura Daily Top Picks: BDMS, M, RATCH
Equity Daily Outlook :
คาดดัชนีวันนี้ “ฟื้นตัว” แนวต้าน 1700/1708จุด แนวรับ 1687/1680จุด วันศุกร์ที่ผ่านมาช่วงท้ายการซื้อขายของตลาดหุ้นไทย มีการ Rebalance ETF ของ Wisdom Tree(ผู้ดูแล ETF ขนาดใหญ่ลำดับที่ 5ของสหรัฐฯ) ราว 45ล้านเหรียญฯ หรือ 1.5พันล้านบาท ทำให้มีหุ้นไทยรายตัวปิดผันผวน เช่น KTB, GLOW, TU, SCCC, RATCH, M, CENTEL, JAS, VGI, BAFS, QH, PLAT, VNG และ THCOM ดังนั้นหุ้นในกลุ่มนี้ที่พื้นฐานดี และย่อลงมาจากเหตุการณ์นี้ น่าจะฟื้นตัวขึ้นมาในวันนี้ เป็น Sentiment บวกต่อตลาด ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังมีแนวโน้มเชิงบวก จากสัญญาณการฟื้นตัวของการใช้จ่ายและรายได้กลุ่มฐานราก หลังบัตรคนจนที่เริ่มกระจายออกมา 1 ต.ค. 2017 รมช. กระทรวงพาณิชย์ ประเมินว่าเริ่มเห็นเงินหมุนเวียนเข้าเศรษฐกิจชุมชุนสะพัด 1.7พันล้านบาท ผสานตัวแทนโรงสีกลุ่มภาคอีสาน คาดราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในช่วงฤดูกาล 2560/2561 จะปรับตัวสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 1.2-1.3 หมื่นบาท/ตัน จาก 9,000-1 หมื่นบาท/ตันในช่วงปี 2559/2560 ประเด็นนี้น่าจะหนุนการบริโภคของกลุ่มฐานรากฟื้นตัว ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ มีแนวโน้มบวก หลังพรรครัฐบาลของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชนะการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่บ่งชี้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นยังคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย และเงินเยนอ่อนค่าต่อ เป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงเอเซีย ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามในช่วงนี้ 1) การประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนวันสุดท้าย และ 2) Trump จะตัดสินใจเกี่ยวกับผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ก่อนที่จะไปเยือนเอเชียในวันที่ 3 พ.ย. นี้ และได้ให้สัมภาษณ์ Fox Business Network ว่ากำลังพิจารณา นายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการเฟด และนางเจเน็ต เยลเลนประธานเฟดคนปัจจุบัน
Asset allocation : หุ้น 60% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 22.5%
Daily Strategy : 8 Theme เด่น วันนี้ เน้น “Mid-Small Cap Play” เป็นหลัก
1. หุ้นที่ถูกผลกระทบจากการ Rebalance ETF ของ Wisdom Tree น่าจะฟื้นตัววันนี้ KTB, GLOW, TU, SCCC, RATCH, M, CENTEL, JAS, VGI, BAFS, QH, PLAT, VNG และ THCOM แนะนำ RATCH, M เด่นสุด
2. ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยเสนอลดหย่อนการบริโภค บวกต่อ M, MM, MINT
3. Tax Reform : สภาบนและล่างสหรัฐฯ ผ่านร่างงบประมาณปี 2018 แล้ว จับตานโยบายปรับลดภาษี บวกต่อ IVL(TP46+Upside risk vs Max Cons. 54-59)
4. Earning 3Q17F Play :แนะนำกลุ่มที่กำไรคาดจะโต y-y,q-q ได้แก่ RATCH(+85%y-y,931%q-q), MINT(32%,33%), SAWAD(28%,4%), ERW(25%,171%), GLOBAL(21%,26%), TK(9%,33%), SAPPE(9%,177%)
5. คาด MSCI นำ SAWAD เข้าคำนวณใน MSCI ประกาศ 13 พย 2017
6. Tourism & Season laggard Play : เน้น MINT, BDMS, ERW
7. Small Cap ที่พื้นฐานดี : Hidden Asset Play (NYT, PSTC, BLAND)
Farm Income and Consumer Play : S11(TP11.1), TK(17.8), KAMART(TP11), FN(TP7), JUBILE(TP27), PM(TP17.4)
Investment Theme:
4Q17F : Domestic Recovery: KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL, MINT, SCC
1) Consumer Recovery : KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL
2) Seasonal & Laggard : MINT
3) Infrastructure spending begins & High Yield : SCC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
BDMS (TP18F 23.2*): Support: 21/20.8 Resistant: 21.9/22.1
- Theme : Season Change Play
- Earnings Outlook : ยังมีความสามารถในการแข่งขันระดับสูง จากชื่อเสียงดึงดูดทั้งลูกค้าระดับบนและแพทย์มือดี รวมถึง ได้ประโยชน์เรื่อง Economy of scale เป้าหมายจำนวนโรงพยาบาล 50 แห่งใน 3 ปี เทียบปัจจุบัน 45 แห่ง พร้อมๆกับ การเริ่มขยายเชิงลึก ไปสู่ศูนย์เฉพาะทาง, กลุ่ม Wellness (ป้องกันก่อนเกิดโรค) รับ Aging society หนุนการเติบโตระยะยาว สำหรับ กำไรระยะสั้น คาดเป็นจุด peak ที่ 2.2 พันลบ. (+1% y-y, +38% q-q) จากฝนมาไว และผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น ลดความกังวลของตลาดก่อนหน้านี้
- Valuation : ราคายัง Seasonal Laggard เทียบ BH โดยราคา BH ปรับตัวสูงขึ้น 25% ตั้งแต่เดือนมิ.ย. ในขณะที่ราคา BDMS เพิ่มขึ้นเพียง 15% โดยมี PER 18F ที่ 41 เท่า ยังใกล้เคียงกลุ่มฯ ต่างจากอดีตที่ซื้อขายมี Premium กว่ากลุ่มฯ
- Catalyst : Seasonal Laggard เทียบ BH โดยเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนจากฤดุฝนเป็นหนาว เจ็บป่วยง่าย + คาดกำไรพีค 3Q17F + จำนวนผู้ป่วยตะวันออกกลางเดือนล่าสุดส.ค. นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เพิ่มถึง 46% y-y เร่งตัวขึ้นจากก.ค. ที่เพิ่ม 5% y-y ช่วยลดความกังวลของตลาดลง ซึ่ง BDMS มีสัดส่วนผู้ป่วยกลุ่มตะวันออกกลาง 3.8%
M (TP18F *Consensus TP67.75 MaxTP75): Support: 64.75/64 Resistant: 67.25/68.25
- Theme : Consumer recovery
- Earnings outlook : คาดกำไรสุทธิ17F เติบโตได้ดี +9% y-y ต่อเนื่องถึงปี 2018F คาดกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยแตะ 2.66 พันลบ. ทำจุดสูงสุดใหม่ เติบโตสูงถึง +11.9% y-y จากคาดกำลังซื้อในประเทศเพิ่มปรับตัวดีขึ้น พร้อมนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ รวมถึงภาพในระยะยาว ยังคงเป็น Mega trend ที่คนเริ่มหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น สุกี้ MK เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดของการบริโภค
- Valuation : มูลค่าพื้นฐานปี18F อิงตาม Bloomberg consensus สูงสุดที่ 75 บาท จากฐานกำไรปี 18F จะทำจุดสูงสุดใหม่ ปัจจุบัน ซื้อขายที่ PER18F เพียง 22x นอกจากนี้ บริษัทยังมีเงินสดคงเหลือมากถึง 9.7 พันลบ. มี Potential ที่จะเกิดการเข้าซื้อกิจการหรือควบรวมในอนาคต
- Catalyst : คาดภาครัฐอยู่ระหว่างพิจารณา มาตรการลดหย่อนภาษีให้กับบริษัทและหน่วยงาน ที่จะจัดงานเลี้ยงรื่นเริงในช่วงปลายปีกับร้านอาหาร ที่จดทะเบียนในระบบ กระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ + ราคาหุ้นปิดโดดลงท้ายตลาดวันศุกร์จากการ Rebalance ETF ของ Wisdom Tree (ผู้ดูแล ETF ขนาดใหญ่ลำดับที่ 5ของสหรัฐฯ) ราว 45 ล้านเหรียญฯ หรือ 1.5 พันล้านบาท จึงเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนรอบใหม่
RATCH (TP18F *Consensus TP60.25 MaxTP62): Support: 54.25/54 Resistant: 55.75/56.25
- Theme : Rebound Play
- Earnings Outlook : ภาพกำไรกลับมาเติบโตชัดเจนตั้งแต่ปี 17F จากโรงไฟฟ้าหงสา ต่อเนื่องอีก 4 ปีข้างหน้า ตามโครงการที่มีอยู่ในมือ เริ่มจากปลาย 18F คาดรับรู้โครงการพลังงานลม Mount Emerald และโรงไฟฟ้าโซลาร์ Collinsville ในออสเตรเลีย
- Valuation : ซื้อขาย ณ PER ปี 2017F เพียง 12 เท่า และมี Div yield ระดับ 4.5% ขณะที่ ธุรกิจมีความมั่นคงสูง
- Catalyst : ราคาหุ้นปิดโดดลงท้ายตลาดวันศุกร์จากการ Rebalance ETF ของ Wisdom Tree (ผู้ดูแล ETF ขนาดใหญ่ลำดับที่ 5ของสหรัฐฯ) ราว 45 ล้านเหรียญฯ หรือ 1.5 พันล้านบาท ไม่เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานที่ยังคงเติบโต จึงเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนรอบใหม่
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
ข่าวเด่น