คำแนะนำ
  แนะนำติดตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิดโดยเน้นการเก็งกำไรในกรอบ 1,260-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังคงพยายามยืนเหนือโซนแนวรับแรกได้ ทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านอีกครั้ง

แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ  1,260  1,249  1,237
แนวต้าน  1,288  1,296  1,307

ปัจจัยพื้นฐาน
  ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น  5.87 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยแรงซื้อเก็งกำไรและแรงซื้อคืน(short covering)รวมถึงแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความตึงเครียดระหว่างสเปนและแคว้นกาตาลุญญา  หลังรัฐสภากาตาลุญญาประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้นายกรัฐมนตรีมาเรียโน ราโคยได้ตอบโต้ด้วยการยุบรัฐบาลกาตาลันและกำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 21 ธ.ค. เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนและพยุงราคาทองคำให้ฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์บริเวณ 1,263.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ตามการเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP)ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัว 3.0% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.5%ช่วยหนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าและเป็นปัจจัยที่สกัดช่วงบวกของราคาทองคำ  ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำในวันศุกร์ลง 1.18 ตัน  ขณะที่วันนี้ติดตามการเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลและดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล(PCE)ของสหรัฐซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของเฟด  รวมถึงจับตาสถานการณ์ในกาตาลุญญาและการเสนอชื่อประธานเฟดคนใหม่

ปัจจัยทางเทคนิค
  หากราคาทองคำพยายามสร้างฐานและสามารถทรงตัวยืนเหนือโซน 1,260-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้  อาจทำให้เห็นการดีดตัวขึ้นเพื่อพยายามทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,282-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยังไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านได้ อาจเห็นการย่อตัวของราคาลงเพื่อสร้างฐานราคาอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES  

  จับตาบริเวณ 1,260-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่หลุดสามารถเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น และรอขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,282-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาผ่านแนวต้านแรกไปได้ให้รอดูบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,296 ดอลลาร์ต่อออนซ์