“Oil & Consumption Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway Up” ต้าน 1720/1724จุด รับ 1711/1707จุด ราคาน้ำมันดิบ Brent ยืนเหนือ 60 เหรียญ/บาร์เรล ตอบรับแนวโน้มซาอุ-รัสเซียขยายระยะเวลาลดกำลังการผลิตไปจนถึงสิ้นปี 2018 หนุนกลุ่มพลังงานนำตลาดต่อเนื่อง ผสานตัวเลข GDP และ Personal Consumption ไตรมาส3 ของสหรัฐฯ เติบโตดีกว่าคาด ถือเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวเด่น บวกต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง สำหรับวันนี้ แนะนำ “Oil & Consumption Play” : PTTEP, TK, PM
Nomura : Key Factors
- (+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +2.39% สู่ $53.90/bbl / BRT +1.92% สู่ $60.44/bbl
- (+) OIL: ซาอุ-รัสเซียมีแนวโน้มที่จะขยายระยะเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบถึงสิ้นปี 2018
- (+) US: GDP 3Q17 ปรับตัวขึ้นถึง 3.0% ดีกว่าคาดที่ 2.6%
- (+) US: ดัชนี Personal Consumption 3Q17 ฟื้นตัว 3.3% ดีกว่าคาดที่ 2.1%
- (*) US: ติดตามการประกาศประธาน FED คนต่อไป ก่อนทรัมพ์เดินทางเยือนเอเชีย 3 พ.ย.นี้
- (*) Currency: ค่าเงินดอลล่าร์และค่าเงินเอเชียเริ่มทรงตัว
- (*) Fund Flow: ล่าสุดขายหุ้น -2,185ลบ., Long Future +220สัญญา, ซื้อ Bond +8ลบ.
- Nomura Daily Top Picks: PTTEP, TK, PM
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway Up” แนวต้าน 1720/1724จุด แนวรับ 1711/1707จุด ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียมีแนวโน้มที่จะขยายระยะเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบไปจนถึงสิ้นปี 2018 จากเดิมสิ้นสุดที่เดือนมีค.2018 คลายกังวลภาวะอุปทานส่วนเกิน หนุนราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเด่น โดย Brent ปรับตัวขึ้นกว่า 1.92% ยืนเหนือ 60 เหรียญต่อบาร์เรล คาดกระตุ้นกลุ่มพลังงานนำตลาดต่อเนื่อง ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เติบโตโดดเด่น นำโดย GDP 3Q17 ที่ปรับตัวขึ้นถึง 3.0% ดีกว่าคาดที่ 2.6% และดัชนี Personal Consumption 3Q17 ที่ฟื้นตัว 3.3% ดีกว่าคาดที่ 2.1% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวคาดเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว เพิ่มความน่าสนใจต่อการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง หนุนหุ้นอิง Global นำตลาดได้ ส่วนปัจจัยอื่นๆที่น่าติดตาม คือ การประกาศผู้ดำรงตำแหน่งประธาน FED คนต่อไป ก่อนประธานาธิบดีทรัมพ์จะเดินทางเยือนเอเชีย 3 พ.ย.นี้ โดยมีโอกาสสูงที่จะเป็น นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการเฟด ซึ่งมุมมองนโยบายการเงินค่อนข้าง Dovish คล้าย Jenet Yellen จะเป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง
Asset allocation : หุ้น 60% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 22.5%
Daily Strategy : 8 Theme เด่น วันนี้ เน้น “Oil & Consumption Play” เป็นหลัก
1. Commodity Play : ราคาน้ำมันดิบ BRENT ทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่ กค 2015 และยืนเหนือ 60เหรียญฯต่อบาร์เรล และประเมินแกว่งขึ้นต่อไปที่ 63/66เหรียญฯ แนะนำ PTTEP, PTT, BANPU เด่น
2. Tax Reform : พรรครีพับรีกันเตรียมเผยร่างมาตรการภาษี 1 พ.ย. นี้ บวกต่อ IVL(TP46+Upside risk vs Max Cons. 54-59)
3. Farm Income and Consumer Play : PM(TP17.4), TK(17.8), FN(TP7), S11(TP11.1), KAMART(TP11), JUBILE(TP27) ส่วน Big Cap เน้นถือลงทุน ROBINS, CPALL, HMPRO
4. ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยเสนอลดหย่อนการบริโภค บวกต่อ M, MM, MINT
5. Earning 3Q17F Play :แนะนำกลุ่มที่กำไรคาดจะโต y-y,q-q ได้แก่ RATCH(+85%y-y,931%q-q), MINT(32%,33%), SAWAD(28%,4%), ERW(25%,171%), GLOBAL(21%,26%), TK(9%,33%), SAPPE(9%,177%)
6. คาด MSCI นำ SAWAD เข้าคำนวณใน MSCI ประกาศ 13 พย 2017
7. Tourism & Season laggard Play : เน้น MINT, BDMS, ERW
8. Small Cap ที่พื้นฐานดี : Hidden Asset Play (NYT, PSTC, BLAND)
Investment Theme:
4Q17F : Domestic Recovery: KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL, MINT, SCC
1) Consumer Recovery : KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL
2) Seasonal & Laggard : MINT
3) Infrastructure spending begins & High Yield : SCC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
PTTEP (TP18F 98*): Support: 85.0/84.25 Resistant: 87.0/88.5
- Theme : Oil recovery
- Earnings outlook : คาดใน 3Q17F กำไรสุทธิจะลดลง จากตั้งสำรองเพิ่มขึ้นโครงการMOSP อย่างไรก็ดี เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น ซึ่งไม่กระทบต่อมูลค่าพื้นฐาน แนะมองข้ามไป ผลประกอบการ 4Q17F ที่คาดว่าฟื้นตัว QoQ จากแรงหนุนราคาน้ำมันดิบและราคาขายก๊าซฯที่คาดว่าฟื้นตัว ต่อเนื่องถึงปี2018F ที่ฐานกำไรกว่า 2.8 หมื่นลบ.หรือเพิ่มขึ้นกว่า +114% y-y
- Valuation : ราคาหุ้นตอบรับปัจจัยลบตั้งสำรองแล้วเสร็จ อยู่ในทิศทางฟื้นตัว และยังเป็นจุดน่าเข้าซื้อสะสมอีกครั้ง โดย Valuation ยังน่าสนใจ มี P/BV ปี 18F ที่ 0.89x ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0.9x
- Catalyst : ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ วานนี้ทำจุดสูงสุดในรอบ 27 เดือน BRT +1.9% สู่ $60.44/bbl จากคาดการณ์ ซาอุฯและรัสเซีย ได้ประเทศสนับสนุนต่ออายุข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือน ซึ่งจะมีประชุมอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 30 พ.ย.
TK (TP18F 17.80*): Support: 16.0/15.5 Resistant: 17.0/18.0
- Theme : Farm Income and Consumer Recovery
- Earning Outlook : คาดกำไร 2017F จะเติบโต +3.2%y-y ที่ 443 ลบ. จากเศรษฐกิจไทย 2H17 เร่งตัวรับ โดยได้รับแรงหนุนเศรษฐกิจโลกและรายได้เกษตรกรที่เพิ่มขึ้น หนุนการบริโภคภายในประเทศ ผสานทิศทาง spread ที่ทรงตัวในระดับสูงจาก yield เฉลี่ยของเงินให้สินเชื่อ + ต้นทุนดอกเบี้ยจ่าย 2017F-2019F ที่ลดลงหลังออกหุ้นกู้ชุดใหม่ที่มีต้นทุนต่ำกว่าทดแทนของเก่าที่ทยอยหมดอายุลง
- Valuation : ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ PBV18F ต่ำเพียง 1.65x ต่ำกว่ากลุ่มฯที่ 2.9x
- Catalyst : ผู้ประกอบการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ 1 ใน 3 ของประเทศ ที่จะได้รับอานิสงส์บวกจากการฟื้นตัวของยอดขายรถจักรยานยนต์ตามทิศทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว หนุนการบริโภคในประเทศ โดยใน 9 เดือนที่ผ่านมาดัชนีรายได้เกษตรกร(กลุ่มลูกค้าหลักของ TK) เพิ่มขึ้น 8.88% และคาดแนวโน้มทั้งปีเพิ่มขึ้น y-y นอกจากนี้ยังมี Potential Upside จากการรุกตลาดต่างประเทศ
PM (TP17F 17.40*): Support: 13.5/13.3 Resistant: 14.4/15.0
- Theme : Earnings Play
- Earnings Outlook : แนวโน้มกำไรปกติ 3Q17F ฟื้นตัวเด่น +22.4% q-q และเติบโตต่อเนื่องใน 4Q17F ซึ่งจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี ยังคงเป้าฐานกำไรสุทธิปี17F ที่ 535 ลบ.ต่อเนื่องถึง แนวโน้มกำไรช่วง 3 ปีนี้จะเข้าสู่ช่วงเติบโตรอบใหญ่เฉลี่ย CAGR 22% ต่อปี จากกลยุทธ์ที่เป็นเชิงรุกมากขึ้น เริ่มนำ Taro บุกตลาดต่างประเทศ
- Valuation : ภาพของบริษัทจะเปลี่ยนจาก Div play เป็น Growth stock + high div โดย Div yield 6.3% และมี Valuation น่าสนใจ โดยมี PER ปี 2017F เพียง 15.6x เท่า ซื้อขายถูกกว่า TKN กว่า -54% PER18F ของ TKN ที่ซื้อขายอยู่ที่ 34x จำกัด Downside เพิ่มจะเติบโตเด่นในช่วง 3 ปีข้างหน้า
- Catalyst : คาดกำไรปกติ 3Q17F ฟื้นตัวเด่น q-q จากผ่านพ้นช่วง Low season และบันทึกค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่แล้วเสร็จในไตรมาสก่อนหน้า และคาดเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายฐานรายในตลาดต่างประเทศใน 4 ประเทศหลัก เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
ข่าวเด่น