จากหลายปัจจัยบวกลบคละกัน ทั้งต่างชาติขายหุ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 และคาดว่านักลงทุนจะขายลดความเสี่ยงก่อนทราบผลประธานเฟดคนใหม่พฤหัสฯ นี้ นอกจากนี้ ตลาดยังติดตามผลประชุมเฟดซึ่งเริ่มประชุมวันนี้ ประเมินกรอบเคลื่อนไหว 1,707-1,725 จุด
*ภาวะตลาดหุ้นไทย
วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,718.66 จุด เพิ่มขึ้น 2.63 จุด หรือ 0.15%มีมูลค่าการซื้อขาย 63,223.79 ล้านบาท
สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3192.61 ลบ. เป็นการขายสุทธิต่อเนื่องวันที่ 3
*ภาวะตลาดหุ้น-น้ำมันสหรัฐ
- ดาวโจนส์ร่วง 85.45 จุด หลังนลท.กังวลแผนปรับลดภาษีของทรัมป์ อาจล่าช้ากว่าคาด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดที่ 23,348.74 จุด ลดลง 85.45 จุด หรือ -0.36% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,572.83 จุด ลดลง 8.24 จุด หรือ -0.32% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,698.96 จุด ลดลง 2.30 จุด หรือ -0.03%
ตลาดมีปัจจัยลบหลังจากข่าว ที่สมาชิกพรรครีพับลิกันกำลังพิจารณาปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลอย่างค่อยเป็นค่อยไปในแผนการปฏิรูปโครงสร้างภาษี ซึ่งแผนดังกล่าวยังไม่ได้ข้อยุติ ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าอาอจจะล่าช้ากว่าที่คาดการณ์
- ราคาน้ำมันดิบไลท์ที่ตลาดนิวยอร์ก วันที่ 25 ต.ค. 60 ปิดที่ระดับ 54.15 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 25 เซ็นต์ หรือ 0.46%
* ประเด็นติดต่าม
- หุ้น IPO ในตลาด mai เข้าซื้อขายวันแรก 2 บริษัท ได้แก่ FLOYD (1 พ.ย.) และ TITLE (2 พ.ย.)
- การประชุมเฟด วันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย.
- การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ วันที่ 2 พ.ย.
- การรายงานดัชนีตลาดแรงงานของสหรัฐฯ วันที่ 3 พ.ย.
- การประกาศงบการเงินของ บจ.
*มุมมองโบรกฯ เช้านี้
บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Down หลังการปฎิรูปภาษีของสหรัฐฯ ที่จะดำเนินในอัตราที่ช้ากว่าคาด (ลดเหลือ 20% ในปี 2022) และตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือน ต.ค. ของจีนที่ออกมาต่ำกว่าคาด ขณะที่ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามหลายเรื่องทั้งการประชุมธนาคารกลางหลายประเทศ (ญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐฯ) การเลือกผู้ดำรงตำแหน่งประธาน FED คนใหม่ รวมถึงการประกาศผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ในไทยหลายตัว (PTTEP SCC ADVANC และ IRPC) ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องในตลาดหุ้นค่อนข้างหนาแน่น ทำให้ตลาดน่าจะอยู่ใน Mode ระมัดระวังมากขึ้น
บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยลบจากตลาดหุ้นสหรัฐสะท้อนความกังวลต่อมาตรการการปรับลดอัตราภาษี บจ. ของสหรัฐฯที่จะปรับใช้ช้ากว่าคาด ประกอบกับ fund flow ที่ยังผันผวน และค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า แต่ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันทรงตัวสูงเล็กน้อย คาดวันนี้ SET จะอ่อนตัวในกรอบ 1,707-1,725 จุด
บล.เอเอสแอล กล่าวว่า SET Index เริ่มผันผวนต่อเนื่องระหว่างวัน ระยะสั้น Fund Flow ทิศทางจากนักลงทุนต่างชาติยังเป็นลบต่อเนื่อง วานนี้ขายสุทธิกว่า 3 พันลบ. ทำให้ทั้งเดือนขายสุทธิรวมแล้วกว่า 5.1 พันลบ. MTD หลังค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่เกิดแรงขายตราสารหนี้ไทยออกมาระยะสั้น ทำให้กลุ่ม Global Plays มีมุมมองเป็นลบ ประเด็นสหรัฐยังมีความเสี่ยงหลายปัจจัย
ดังนั้น SET Index วันนี้หากปรับตัวลงมองว่ายังคงเป็นจังหวะเข้าซื้อเพื่อขายที่ระดับ 1,739 จุด อยู่ เน้น Domestic Play ระยะสั้นแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันเป็นตัวสนับสนุนดัชนี รายกลุ่ม กลุ่มธนาคารเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากการส่งสัญญาณเชิงบวกของ KBANK ขณะที่กลุ่มพลังงานยังคงมุมมองเชิงบวกหลังราคาน้ำมันยังดีดตัวต่อเนื่องหนุน PTTEP และ PTTGC ด้านราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นแรงราวๆ 0.7-2.0% ทั้งสามตลาดเป็นมุมมองบวกต่อ BANPU
ข่าวเด่น