คำแนะนำ
ยังมีลุ้นที่ราคาอาจไปทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,282-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,260-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,260 1,249 1,237
แนวต้าน 1,288 1,296 1,307
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์หลังมีรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์อาจเลือกนายเจอโรม พาวเวล ซึ่งมีแนวคิดสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงินน้อยกว่านายจอห์น เทย์เลอร์ที่เป็นตัวเต็งอีกท่านหนึ่งเป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดคนใหม่ต่อจากนางเยลเลน นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังมีการสั่งฟ้องนายพอล มานาฟอร์ทอดีตผู้จัดการทีมหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ในข้อหาเกี่ยวกับการสมรู้ร่วมคิดกับรัสเซียในการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2016 ประกอบกับบลูมเบิร์กรายงานว่าการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลของสหรัฐจะดำเนินไปในอัตราที่ล่าช้ากว่าที่คาดไว้ซึ่งสร้างความผิดหวังให้แก่นักลงทุน ประเด็นดังกล่าวกระตุ้นแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงและหนุนราคาทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย สำหรับวันนี้ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)คาดคงนโยบายการเงินตามเดิม และการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ ดัชนี PMI เขตชิคาโกและความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จาก CB
ปัจจัยทางเทคนิค
เห็นแรงซื้อแรงขายต่อสู้กันชัดเจนขึ้น หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,282-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถผ่านได้ ราคาทองคำอาจมีแรงขายออกมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากการอ่อนตัวลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,263-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้อ
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,282-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอเข้าซื้อเก็งกำไรจากการดีดตัวขึ้นอีกครั้งหากการอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือโซน 1,263-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น