ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน วานนี้ SET INDEX แกว่งตัวผันผวน ลงไปติดลบเกือบ 12 จุด (31/10/60)


กลยุทธ์วันนี้
          Selective Buy

Smart Pick
1. สะสม MINT : ราคาปิด 43.25 บาท ราคาเหมาะสม 52.50 บาท 
          a) คาดกำไรปกติ 3Q60 ที่ 1.04 พันล้านบาท เติบโต +16% YoY และ +42% QoQ จากแรงหนุนของโรงแรมในต่างประเทศ หลังเสร็จสิ้นการ Renovate โรงแรม Tivoli ในโปรตุเกส จึงได้ประโยชน์เต็มที่จากการปรับขึ้นค่าห้องพัก และเข้าสู่ High Season ของโรงแรมในยุโรป
          b) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q60 จะขยายตัวทั้ง YoY และ QoQ เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2560 เนื่องจากธุรกิจโรงแรมในประเทศเข้าสู่ High Season และภาคบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวจะช่วยหนุนธุรกิจอาหารให้ SSG พลิกกลับเป็นบวกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส 
          c) ราคาหุ้นยัง Laggard โดย YTD ปรับตัวขึ้นเพียง +14% เทียบกับ ERW และ CENTEL ที่เพิ่มขึ้น +57% และ +18% ตามลำดับ และคาดว่าราคาหุ้น MINT จะกลับมา Outperform กลุ่มได้ หลังผ่านพ้นช่วงแปลงสภาพ MINT-W5 ที่จะครบกำหนดใช้สิทธิ์ครั้งสุดท้ายในวันที่ 3 พ.ย. ราคาแปลงสภาพ 36.36 บาท

2. สะสม IRPC : ราคาปิด 6.40 บาท ราคาเหมาะสม 6.70 บาท 
          a) Yuanta คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะ Outperform ตลาด เนื่องจากน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวขึ้นยืนเหนือ US$54.00/barrel ทำระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน จากความคาดหวังเชิงบวกว่ากลุ่ม OPEC จะขยายมาตรการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันออกไป จากเดิมที่จะสิ้นสุดลงใน มี.ค.2561 
          b) คาดกำไรปกติ 3Q60 ที่ 3.5 พันล้านบาท +169% YoY และ +94.7% QoQ จากแรงหนุนของ Spread ปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้นของโครงการ UHV นอกจากนั้น กำไรจากสต็อกน้ำมันจะช่วยผลักดันกำไรสุทธิ 3Q60 ให้เพิ่มขึ้นเป็น 3.8 พันล้านบาท +194% YoY และ +207% QoQ
          c) Valuation ยังไม่แพง ที่ระดับ PER2561 ราว 11.2 เท่า และคาดกำไรปกติปี 2561 จะเติบโตเด่น +18.5% YoY เป็น 1.16 หมื่นล้านบาท เติบโตสูงสุดในหุ้นกลุ่มโรงกลั่นจากอานิสงค์เต็มปีของโครงการ UHV และ Everest เป็นปัจจัยผลักดัน

ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          วานนี้ SET INDEX ลงไปทำจุดต่ำสุดระหว่างวันที่ 1704.17 จุด ก่อนดีดตัวกลับขึ้นมาปิดที่ 1718.66 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.63 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 6.3 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีกราว 3.2 พันล้านบาท รวมกว่า 7.1 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันอีกราว 2.7 พันล้านบาท รวมกว่า 7.5 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิ 2.7 พันสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศละบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิ 1 หมื่นสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 3.9 หมื่นสัญญา สถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิราว 2.2 หมื่นสัญญา

กลยุทธ์วันนี้
          วานนี้ SET INDEX แกว่งตัวผันผวน ลงไปติดลบเกือบ 12 จุดระหว่างชั่วโมงการซื้อขายก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมาปิดบวก 2.63 จุด ประเมินทิศทาง SET INDEX วันนี้แกว่งระหว่าง 1715-1725 จุด โดยกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี ยังช่วยหนุน SET INDEX เมื่อราคาน้ำมันดิบทรงตัวระดับสูง สะท้อนจาก Brent ยืนเหนือ 60 เหรียญฯ/บาร์เรล อย่างต่อเนื่อง สำหรับภาพระยะสัปดาห์ เราคาดหวังการขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิม 1730 จุด ภายในสัปดาห์นี้ หากการรายงานผลการดำเนินงาน 3Q60 ของหุ้นขนาดใหญ่ ออกมาเป็นบวก
          การประชุมธนาคารกลางสำคัญ 3 แห่งในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (วันนี้) และเฟด (1 พ.ย.) คาดไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบาย ส่วนธนาคารกลางอังกฤษ (2 พ.ย.) ตลาดคาดขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจาก 0.25% เป็น 0.50% ถือเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 10 ปี อย่างไรก็ดี เรามองว่า น่าจะไม่ได้กระทบ Sentiment ตลาดหุ้นมากนัก เพราะอยู่ในการคาดการณ์อยู่แล้ว
          กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เราแนะนำเก็งกำไรผลประกอบการ 3Q60 (Earnings Plays) เลือกหุ้นที่คาดว่ากำไร 3Q60 จะเติบโตเด่นทั้ง QoQ และ YoY โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน/ ท่องเที่ยว

ปัจจัยสำคัญวันนี้

  • แผนการลดภาษีนิติบุคคลเบื้องต้นออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด คือจะทะยอยลดภาษีลงจนเหลือ 20% ในปี 2565 ช้ากว่าที่ตลาดคาดว่าจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้
  • สศค. ปรับประมาณการ GDP ไทย ปี 60 ขึ้นเป็น 3.8% จากเดิมที่ 3.6%
  • หุ้น IPO ในตลาด mai ได้แก่ FLOYD (1 พ.ย.) และ TITLE (2 พ.ย.)
  • ติดตามการประชุม (BOJ) และ GDP 3Q60 ของยูโรโซน วันที่ 31 ต.ค.
  • ติดตามการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย วันที่ 31 ต.ค.
  • ติดตามการประชุมเฟด วันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย.
  • ติดตามการรายงานภาวะเงินเฟ้อไทย วันที่ 1 พ.ย.
  • ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) วันที่ 2 พ.ย.
  • ติดตามการรายงานดัชนีตลาดแรงงานของสหรัฐฯ วันที่ 3 พ.ย.
  • ติดตามการประกาศชื่อประธาน Fed คนต่อไป ภายในวันที่ 3 พ.ย. ตลาดคาด Trump อาจเสนอชื่อนาย Jerome Powell เป็นประธาน Fed คนถัดไป

 


บันทึกโดย : วันที่ : 31 ต.ค. 2560 เวลา : 10:42:11

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:17 am