Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยเป็นแรงซื้อเด่นใน  AOT ภายหลังมีข่าวบริษัทฯ ยื่นหนังสือให้กระทรวงคมนาคมรับรองการเข้าบริหารและจัดการสนามบิน 29 แห่งในประเทศ อีกทั้งมีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มอสังหานำโดย SPALI, PSH, QH เช่นกัน   ส่งผลให้ ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่  1,721.3 จุด (+2.7 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.5 หมื่นล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 6.3 หมื่นล้านบาท (มี Biglot  AH ที่ราคา 29.0 มูลค่า 213 ล้านบาท )
  นักลงทุนชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่องที่  400 ลบ. และยังคง Long สุทธิ SET50  Index Future ที่ 3,851 สัญญา

Investment theme
  การกลับมาบริโภคของกลุ่มคนชั้นกลาง เป็นบวกต่อกลุ่มอสังหาฯ  :  เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ และมองว่าจะชัดเจนในกลุ่มคนชั้นกลาง ภายหลัง 1) หมดภาระการผ่อนรถยนต์คันแรกกว่า 1.0 ล้านคัน  2) Wealth effect จากตลาดหุ้น 3) ทิศทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้เราคาดว่าคนชั้นกลางพิจารณากลับมาบริโภคอีกครั้ง (ในอดีตกลุ่มคนชั้นกลาง มีกำลังซื้อแต่เลือกที่จะชะลอการบริโภคเพราะไม่มั่นใจในเศรษฐกิจ) ซึ่งเรามองว่ากลุ่มที่จะได้ประโยชน์โดยตรงจากการกลับมาบริโภคของกลุ่มคนชั้นกลางคือ กลุ่มอสังหา สำหรับภาพของ SET เรามองว่าปัจจุบันปรับตัวขึ้นรับการ Preview ผลประกอบการไตรมาส 3 ฟื้นตัวไปแล้วส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่นและค้าปลีก (ของคนกำลังซื้อต่ำ) 
  Investment theme: ระยะสั้นจับตาการรายงานผลประกอบของกลุ่ม Real Sector นำโดย SCC (ตัวแทนกลุ่มวัสดุก่อสร้าง) บ่ายนี้ และ PTTEP (ตัวแทนกลุ่มพลังงาน) ในวันที่ 2 พ.ย. ส่วนปัจจัยที่ยังคาดช่วยหนุนตลาดคือ เม็ดเงิน LTF เพื่อผลประโยชน์ทางภาษีในช่วงท้ายปี

Big issue
  เมื่อคืนที่ผ่านมา  เมื่อวานที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดเผยตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ออกมาเติบโตในหลายๆภาคส่วน นำโดยการส่งออกเดือนกันยายนเติบโต 13.4% (ไตรมาส 3 เติบโต 12.5%) , นักท่องเที่ยวเติบโต 5.7% ในขณะที่สศอ.ปรับเป้าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI)  ปีนี้ขึ้นเป็น 1-2% / นายกประยุทธ์สั่งกระทรวงการคลังศึกษามาตราการช็อปช่วยชาติ /   เกิดเหตุก่อการร้ายที่สหรัฐ พบผู้เสียชีวิต 8 ราย / สภา GOP สหรัฐเลื่อนการเปิดเผยแผนปฎิรูปภาษีสหรัฐ /  BPP เข้าทำสัญญา โรงไฟฟ้า Solar ในญี่ปุ่น  200 mw

SCC รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 วันนี้ 
คาด TTCL มีโอกาสติด Cash Balance 
FLOYD เข้าซื้อขายในตลาดวันนี้ 
GLOBAL งบ 3Q60 ตามคาด แต่ราคาเกินเป้า แนะ Take Profit

Stock pick : WICE
WICE :  เก็งกำไร เป้าหมาย 5.20 บาท
  เรามีมุมมอง บวก หลังบริษัทได้แจ้งตลาดฯ เตรียมเข้าซื้อหุ้น 80% ของ Universal Worldwide Transport (UWT) ภายในสิ้นปี 2560 เพื่อขยายโครงข่ายธุรกิจ Freight Forwarder เพิ่มอีก 1 เป็น 3 พื้นที่ (ไทย สิงคโปร์ และแห่งใหม่ ฮ่องกง/จีน)
นี่เป็นกลยุทธ์เติบโต 2 ทิศทาง (1) organic ตามภาวะนำเข้าส่งออกของทั้ง 3 พื้นที่ และ (2) inorganic จากการ M&A ธุรกิจเดียวกันในพื้นที่บริการแตกต่างกัน และได้ network กว้างใหญ่ขึ้น 
  การทยอยจ่ายเงิน 2 งวด (40 ลบ.ใน ธ.ค. 60 และ 75 ภายในปี 2565 ทำให้ WICE คงสถานะ net Cash ได้ต่อไป และเปิดโอกาสในการ upgrade

Trading idea – – Stock pick สัปดาห์นี้ (PM, VGI, PTTEP) , / เก็งกำไร SPALI (เราปรับเป้าราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 30.00 บาท)
  พยายามดีดตัวให้ผ่าน Neckline:  ดัชนีพยายามดีดตัวให้พ้นแนวต้าน Neckline ที่ 1730 แต่ยังคงผ่านไม่ได้ ระยะสั้นยังคงมองว่ามีโอกาสแกว่งพักตัวออกข้างในกรอบ 1712-1730 โดยหากไม่หลุด 1712 ระยะสั้นถึงกลางยังคงลุ้นการดีดตัวผ่าน Neckline ที่ 1730 ซึ่งจะเป็นการคอนเฟิร์มการกลับตัวขึ้นแบบ V-Shape และทำให้ Upside ด้านบนจะเปิดอีกมาก กรณีนี้ แนะนำ Let Profit Run หรือ Follow Buy 
กลยุทธ์การลงุทน (1) มีหุ้น: Trading กรอบ 1712-1730 เน้นขึ้นขาย-ลงซื้อ, หากผ่าน 1730 Let Profit Run (2) ไม่มีหุ้น: Trading กรอบ 1712-1730 เน้นรอซื้อเมื่ออ่อนตัว, ผ่าน 1730 Follow Buy 
แนวรับ : 1718, 1712  แนวต้าน : 1726, 1730

Eyes on
  ปัจจัยต่างประเทศ :  Trump อยู่ระหว่างการพิจารณาหาประธาน FED คนต่อไป / 31 ต.ค. ยุโรปรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ / สหรัฐเตรียมเผยร่างกฏหมายภาษี 1 พ.ย. คาดผ่านร่าง 23 พ.ย.  / FOMC Meeting 1 พย. /  BOE ประชุม 2 พ.ย. /  

ปัจจัยในประเทศ : -
หุ้นเทคนิค:
  AOT (B 58.50-59.00, Tp 61.00//64.00, Cut 57.50)
  BBL (B 191.50, Tp 196.50, Cut 190.00)