คำแนะนำ
เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,263-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และทยอยปิดสถานะทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,282-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,260 1,249 1,237
แนวต้าน 1,288 1,296 1,307
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 4.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันหลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินคาดหลายรายการ อาทิ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐจาก Conference Board ที่ทะยานขึ้นสู่ระดับ 125.9 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 ปี ส่วนผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่าดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งเกินคาดถึง 6.1% ในเดือนส.ค. ด้านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเขตชิคาโกพุ่งขึ้นเกินคาดเช่นกันสู่ระดับ 66.2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี ทั้งนี้ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐช่วยหนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าและกดดันราคาทองคำ อย่างไรก็ดีการปรับตัวลงของราคาทองคำยังอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอดูสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินในระยะถัดๆไปของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจากมติการประชุมและแถลงการณ์หลังการประชุมเฟดในเวลาตี 1 ของคืนวันนี้ นอกจากนี้แนะนำติดตามเพิ่มเติมสำหรับการเปิดเผย ISM เปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค.และตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนต.ค. จาก ADP
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบและไม่สามารถสร้างระดับสูงสุดจากวันก่อนหน้า อาจเกิดแรงขายสลับออกมาอีกครั้ง แต่หากการอ่อนตัวลงค่อนข้างจำกัดแสดงถึงแรงขายในระยะสั้นไม่มาก ทั้งนี้ ทำให้ประเมินแนวรับระยะสั้นนั้นอยู่ในบริเวณ 1,263-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดยังคงมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,282-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เน้นการลงทุนระยะสั้นโดยเปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,263-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจทยอยแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,282-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านได้สามารถถือต่อ
ข่าวเด่น