ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน SET INDEX เผชิญแรงขายทำกำไร (02/11/60)


 กลยุทธ์วันนี้

          SMID CAP

Smart Pick
1. สะสม LANNA : ราคาปิด 16.20 บาท ราคาเหมาะสม 20.00 บาท 
          a) Yuanta คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มถ่านหินใน 4Q60 เนื่องจากเชื่อว่าราคาถ่านหินจะไต่ระดับขึ้นต่อเนื่องจากการเข้าสู่ฤดูหนาว และมี Sentiment บวก จากราคาถ่านหินล่วงหน้าที่ปรับตัวขึ้นทั้ง 3 ตลาดเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่ราคา Spot ของถ่านหิน Newcastle ปรับตัวขึ้นวันที่ 7 ติดต่อกัน ปิดที่ US$100.00/ตัน
          b) เป็นหุ้นที่ยังถูกตลาดมองผ่าน ทั้งที่กำไรสุทธิ 1H60 ที่ 301 ล้านบาท มากกว่ากำไรทั้งปี 2559 ที่ 271 ล้านบาทแล้ว และจุดเด่นของบริษัทอยู่ที่ราคาขายถ่านหินเกือบทั้งหมดจะขายที่ราคา Spot ซึ่งแตกต่างจากบริษัทอื่นที่จะมีการขายแบบ Lock ราคาล่วงหน้า ดังนั้นจึงได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากการไต่ระดับขึ้นของราคาถ่านหินในตลาดโลก 
          c) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโตสูงถึง +193% YoY เป็น 594 ล้านบาท และต่อเนื่อง +11% YoY ในปี 2561 เป็น 711 ล้านบาท ขณะที่ Valuation โดย  PER2561 ต่ำเพียง 12.0 เท่า และให้ Dividend Yield สูงถึง 5.5% 
          d) มี Upside จากโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 200MW ในอินโดนีเซีย คาดได้ข้อสรุปภายในปีนี้ มูลค่าเพิ่มราว 3.00 บาท ยังไม่รวมในเป้าหมายของเรา

2. สะสม PLANB : ราคาปิด 7.00 บาท ราคาเหมาะสม 7.50 บาท 
          a) คาดกำไรสุทธิ 3Q60 จะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 152 ล้านบาท เติบโต +24% YoY และ +26% QoQ จากอัตราการเช่าป้ายที่เพิ่มขึ้นราว 10% YoY และรับรู้รายได้การบริหารลิขสิทธิ์สมาคมฟุตบอลไตรมาสละ 30 ล้านบาท 
          b) ผลประกอบการ 4Q60 อาจจะชะลอตัวลง QoQ จากผลกระทบของพระราชพิธีในเดือน ต.ค. แต่เป็นปัจจัยที่ตลาดรับรู้แล้ว และคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในเดือน พ.ย.-ธ.ค. และต่อเนื่องในปี 2561 จากกการฟื้นตัวของภาคบริโภคในประเทศและช่วงหนุนให้อุตสาหกรรมโฆษณากลับมาเติบโต 
          c) มีการเติบโตของกำไรที่ต่อเนื่อง โดยคาดการณ์กำไรปี 2560 เติบโต +44% YoY เป็น 505 ล้านบาท ต่อเนื่อง +15% YoY เป็น 582 ล้านบาทในปี 2561 และมี Upside จากการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ ขณะที่ Valuation ที่ระดับ EV/EBITDA ราว 22 เท่า ยังถูกกว่า VGI ที่ระดับ 30 เท่า

ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลงในช่วงบ่ายมาปิดที่ 1714.55 จุด ปรับตัวลดลง 6.82 จุด โดยหลักได้รับแรงกดดันจาก SCC (-2.04%) หลังจากที่รายงานกำไรออกมาต่ำกว่าที่ Consensus คาด ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องอีกราว 1.1 พันล้านบาท นับเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันราว 8.6 พันล้านบาท และสถาบันในประเทศขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการเล็กน้อยราว 675 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยราว 1.3 พันล้านบาท และสถาบันในประเทศซื้อสุทธิหุ้นไทยราว 6.7 หมื่นล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 3.8 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศ และบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิราว 3.5 พันสัญญา

กลยุทธ์วันนี้
          วานนี้ SET INDEX เผชิญแรงขายทำกำไร หลังจากติดแนวต้าน 1730 จุด และ SCC รายงานกำไรออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ SET INDEX อ่อนตัวลงมา 6.82 จุด คาดทิศทางวันนี้แกว่งทรงตัว 1710-1720 จุด ภายใต้กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัวด้วยการขายสุทธิมา 5 วันติดต่อกันและราคาน้ำมันดิบพักตัว
          การประชุมเฟด วานนี้ เรามีมุมมองเป็นกลาง เพราะเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.00-1.25% ตามคาด โดยตลาดประเมินเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ วันที่ 12-13 ธ.ค. ด้วยความน่าจะเป็นสูงถึง 87.5% ส่วนการแต่งตั้งประธานเฟดคนใหม่ เพื่อสืบทอดตำแหน่งต่อจาก Janet Yellen ที่จะหมดวาระในเดือน ก.พ.61 กระแสเทไปทางตัวเต็งอย่าง Jerome Powell เรามองว่า เป็นตัวเลือกที่ตลาดมองเป็น Neutral เพราะการสานต่อนโยบายจะไม่สะดุด เนื่องจาก Powell เป็นสมาชิกผู้มีสิทธิโหวตของเฟดอยู่แล้วในปัจจุบัน
          กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เลือกซื้อ (Selective Buy) หุ้นขนาดกลาง-เล็ก (SMID Cap) ที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว คือ แนวโน้มกำไรเติบโตเด่น และ Valuation น่าสนใจกว่าหุ้นอื่นในกลุ่ม

ปัจจัยสำคัญวันนี้

  • ผลการประชุม Fed วานนี้ส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในเดือน ธ.ค. ตลาดคาดความน่าจะเป็นอยู่ที่ 87.5%
  • กระทรวงพาณิชย์รายงานเงินเฟ้อไทยเดือน ต.ค. ขยายตัว 0.86% YoY ส่งผลให้ 10M60 ขยายตัวอยู่ที่ 0.62%
  • สหรัฐฯรายงานการจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 2.35 แสนตำแหน่งดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2 แสนตำแหน่ง
  • วันนี้ TITLE เข้าเทรดวันแรกในตลาด MAI ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ราคา IPO ที่ 2.2 บาท
  • ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) วันที่ 2 พ.ย.
  • ติดตามการรายงานดัชนีตลาดแรงงานของสหรัฐฯ วันที่ 3 พ.ย.
  • ติดตามการประกาศชื่อประธาน Fed คนต่อไป ภายในวันที่ 3 พ.ย. ตลาดคาด Trump อาจเสนอชื่อนาย Jerome Powell เป็นประธาน Fed คนถัดไป

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 02 พ.ย. 2560 เวลา : 11:58:01

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:16 am