คำแนะนำ
เก็งกำไรระยะสั้นตามกรอบราคา โดยเปิดสถานะซื้อหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้และให้ทยอยขายทำกำไรหากราคายังไม่ยืนเหนือโซน 1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,272 1,263 1,254
แนวต้าน 1,288 1,296 1,307
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,284.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวันจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวลผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่แทนนางเจเน็ต เยลเลน ประกอบกับนักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันเสนอร่างกฎหมายปฏิรูประบบภาษีให้มีการปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลลงสู่ 20 % จาก 35 %โดยนักลงทุนมองว่าร่างกฏหมายดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะต้องเจรจาต่อรองกันต่อไปและอาจต้องเผชิญอุปสรรคอีกในอนาคต อย่างไรก็ดีสกุลเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นในภายหลังซึ่งเป็นปัจจัยลดช่วงบวกของราคาทองคำ ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำอีก 3.55 ตัน สำหรับวันนี้จับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงานและรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของสหรัฐในเวลา19.30 น. โดยโพลล์รอยเตอร์คาดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรอาจอยู่ที่ 310,000ตำแหน่งในเดือนต.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานอาจทรงตัวเท่าเดิมที่ 4.2%
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำปรับตัวลงมาพอเข้าใกล้โซนแนวรับ 1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจมีแรงดีดกลับสั้นๆ เบื้องต้นอาจต้องระวังแรงขายกลับลงมาอีกครั้งหากราคายังไม่มีแรงซื้อมากพอหรือมีปัจจัยใหม่มาดันราคาขึ้น โดยประเมินแนวต้านที่ 1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
การเข้าซื้อยังคงเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยเข้าซื้อเฉพาะเมื่อตลาดปรับตัวลงมาในบริเวณแนวรับ 1,272-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่การเปิดสถานะขายอาจเสี่ยงพิจารณาในโซน 1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากผ่าน 1,296 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
ข่าวเด่น