Today Selection >> PTTEP, SEAFCO, TNP
Stock S R Comment
PTTEP 87.00 88.50 ผลการดำเนินงานปกติดีกว่าคาด แนวโน้มราคาก๊าซปรับขึ้น
SEAFCO 9.00 9.45 อานิสงส์แผนเมกะโปรเจคปี 61 คาดหนุนกลุ่มฐานราก
TNP 2.80 2.90 ธกส.อัดเงินกู้รากหญ้า เพิ่มกำลังซื้อต่างจังหวัด
SET50/SET100 predictions
Fund flow : มองปัจจัยกดดันเงิน USD และ Bond yield สหรัฐฯในระยะสั้นได้แก่การที่นาย Jerome Powell ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประธาน Fed คนใหม่ ซึ่งนาย Powell นี้เป็นผู้ที่มีแนวคิด Dovish คล้ายคลึงกับประธาน Fed คนปัจจุบัน Janet Yellen อย่างมาก มองปัจจัยดังกล่าวอาจทำให้ Fund flow ในตลาดหุ้นไทยกลับมาพลิกฟื้นในระยะสั้น อย่างไรก็ดีหากมองไปอีก 1-2 เดือนข้างหน้า คาดว่ามีปัจจัยสนับสนุนเงิน USD และ Bond yield สหรัฐฯรออยู่ นั่นก็คือการออกกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯฉบับใหม่ ซึ่งล่าสุดมีความก้าวหน้าอีกครั้ง หลังส.ส.รีพับลิกันในสภาล่างได้เปิดเผยรายละเอียดร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อคืนนี้ หากสภา Congress เห็นชอบและผลักดันออกมาเป็นตัวบทกฎหมายได้เร็วเท่าไหร่ มองจะเป็นความเสี่ยงต่อ Fund flow ที่สำคัญที่สุดในช่วงถัดไป
SET50/SET100 : เราได้ทำการคำนวณล่าสุดสำหรับหุ้นที่มีโอกาสถูกนำเข้า/ตัดออกจากดัชนี SET50 และ SET100 ในรอบถัดไป ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 มกราคมปีหน้า โดยใช้ข้อมูลถึงวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา (ข้อมูลจริงต้องใช้ถึงวันที่ 30 พฤษจิกายน) มีผลดังนี้
1) หุ้นที่มีแนวโน้มถูกนำเข้าดัชนี SET50 ได้แก่ SAWAD, TPIPP, CENTEL
2) หุ้นที่แนวโน้มถูกตัดออกจากดัชนี SET50 ได้แก่ KCE*, PSH, TPIPL
โดยในส่วนของ SET50 นั้น KCE อาจจะยังมีลุ้นลึกๆที่จะไม่หลุดจากดัชนี หากราคาในกระดานขยับขึ้นมายืนแถว 105 บาทได้ แต่ถึงกระนั้นก็อาจจะยังยากอยู่ดี เนื่องจากล่าสุดราคาหุ้น CENTEL ปรับตัวขึ้นมาแรงแล้วเช่นกัน สำหรับทางฝั่งของดัชนี SET100 คาดมีผลดังนี้
1) หุ้นที่มีแนวโน้มถูกนำเข้าดัชนี SET100 ได้แก่ TPIPP, ESSO, TTW, HANA, ORI, WHAUP, PLAT, SPCG, KSL, UV*, VNG*
2) หุ้นที่แนวโน้มถูกตัดออกจากดัชนี SET100 ได้แก่ ANAN, TTA, THCOM, LPN, THANI, COM7, MONO, BIG, PTL, MALEE, STPI
สำหรับกรณีของ SET100 นั้น หากวิเคราะห์กันตามเกณฑ์แล้ว JAS กับ GL ควรต้องได้เข้า แต่ดูแล้วอาจจะยากหากทางตลาดฯใช้ปัจจัยเชิงคุณภาพเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินด้วย จึงทำให้เราประเมินว่า UV กับ VNG จะมีลุ้นเข้าแทน
Back-test : จากผลการศึกษาของเราในอดีตพบว่าการปรับตัวของราคาหุ้นที่ถูกนำเข้านี้มักจะมีนัยสำคัญเฉพาะในส่วนของ SET50 โดยมักมีการปรับตัว Outperform ตลาดราว 6% นับตั้งแต่ช่วง 10 สัปดาห์ก่อนวันมีผลบังคับใช้ ซึ่งตรงกับช่วงเวลานี้พอดี ไปจนถึงช่วง 1 สัปดาห์ก่อนวันมีผลบังคับใช้ ด้วยเหตุนี้นักลงทุนที่สนใจธีมการลงทุนดังกล่าว สามารถ Focus การลงทุนใน SAWAD, TPIPP และ CENTEL ได้ และถือครองไปขายในช่วงสัปดาห์ก่อนสุดท้ายของเดือนธันวาคม ในทางกลับกันสำหรับกลุ่มหุ้นที่ถูกตัดออกจากดัชนี SET50 พบว่าในช่วง 3 รอบการคำนวณหลังสุด มักปรับตัว Underperform ตลาดไม่มากนัก เฉลี่ยอยู่เพียงแค่ 2% ในช่วงเวลาเดียวกัน จึงมองว่าหากใครถือครองหุ้นกลุ่มดังกล่าวอยู่ ก็อาจจะถือครองต่อไปได้ โดยในกลุ่มนี้ เรายังคงชื่นชอบ KCE สำหรับการลงทุนระยะยาว แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 104 บาทเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน : คาดการณ์ SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1650-1750 ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ด้วยเหตุนี้จึงแนะนำกลยุทธ์ Selective ต่อไป โดยในระยะสั้นประเมินกลุ่มที่น่าสนใจได้แก่ กลุ่มธนาคารเช่าซื้อ ชิ้นส่วนยานยนต์ ค้าปลีก ส่วนกลุ่มที่น่าสนใจลงทุนระยะยาวได้แก่ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม
แนวรับ 1,692 แนวต้าน 1,721
บทวิเคราะห์วันนี้
- ADVANC (ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 189 บาท) ผลการดำเนินงานใกล้กับที่คาด ทว่าไส้ในยังต้องตามต่อว่าของจริงไหม
- PTTEP (ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 103.75 บาท) ผลการดำเนินงานปกติดีกว่าคาด ราคารับรู้ข่าวร้ายไปแล้ว
-
ข่าวเด่น