ตลาด มีปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐประกาศรายชื่อประธานเฟดคนใหม่ตามที่ตลาดคาด แต่ประเด็นกดดันยังเป็นฟันด์โฟลว์ที่ผันผวน และตลาดลุ้นรัฐเคาะมาตรการช้อปช่วยชาติ วันนี้จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐ
*ภาวะตลาดหุ้นไทย
เมื่อวาน SET ปิดที่ 1,701.9 จุด (-12.6 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 6.2 หมื่นล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 6.8 หมื่นล้านบาท(มี Biglot BJC มูลค่า 2.1 พันล้านบาท)
นักลงทุนชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่องที่ 1,584 ลบ. แต่กลับมา Long สุทธิ SET50 Index Future ที่ 3,722 สัญญา ( 11 วันทำการที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายทำกำไรตลาดหุ้นไทยสูงกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท)
*ภาวะตลาดหุ้น-น้ำมันสหรัฐ
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,516.26 จุด เพิ่มขึ้น 81.25 จุด หรือ +0.35% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,579.85 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด หรือ +0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,714.94 จุด ลดลง 1.59 จุด หรือ -0.02%
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก ขานรับประธานเฟดคนใหม่ หลังนายทรัมป์ เสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ตามที่ตลาดคาด และตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เปิดเผยรายละเอียดของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี ซึ่งครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขจ้างงานอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้
- ราคาน้ำมันดิบไลท์ที่ตลาดนิวยอร์ก วันที่ 2 พ.ย. 60 ปิดที่ระดับ 54.54 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 24 เซ็นต์ หรือ 0.44%
* ประเด็นติดตาม
- 8 พ.ย.ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย (กนง.)
- การประกาศงบการเงินของ บจ.
*มุมมองโบรกฯ เช้านี้
บล.โกลเบล็ก ภาวะตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกหลังรายชื่อว่าที่ประธานเฟดคนใหม่มีนโยบายเดียวกับประธานเฟดคนปัจจุบัน ความคืบหน้าเกี่ยวกับร่างกฏหมายปฏิรูปภาษี แต่ยังมีปัจจัยกดดันจาก fund flow ที่ยังผันผวน และการที่ BoE ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี คาดวันนี้ SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,690-1,712 จุด
บล.เคทีบี คาดตลาดผันผวนแม้ชื่อประธาน Fed จะหนุนตลาดหุ้น การเสนอชื่อขายเพาเวล ขึ้นเป็นประธาน Fed คนใหม่ เป็นบวกต่อตลาดเพราะนโยบายการเงินคาดจะยังเอื้อต่อการลงทุน (ดอลล่าร์-ดอกเบี้ย ยังต่ำ) แต่ตลาดกำลังพิจารณาแผนลดภาษีของสหรัฐฯ ที่มีการเผยรายชื่อในคืนที่ผ่านมา (ไม่ต่างจากที่เผยมาก่อนหน้านี้) ว่าจะเป็นบวกหรือลบมากกว่ากัน อีกทั้งคืนนี้ สหรัฐฯจะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงานด้วย ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะเห็นได้ว่า ยังมีอีกบางประเด็นที่นักลงทุนต้องรอดูผลที่จะออกมา การซื้อขายของตลาดหุ้น (เอเซียและไทย) จึงยังไม่กระเตื้องขึ้นได้มากนัก เพราะนักลงทุนต่างประเทศก็คงชะลอการลงทุนอยู่ต่อไป
ปัจจัยในประเทศ มาตรการช้อปช่วยชาติ กำลังถูกพิจารณา เราประเมินขนาดจะไม่ใหญ่กว่าเดิม แต่จะครอบคลุมการใช้จ่ายในหลายธุรกิจและกระจายไปในต่างจังหวัดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นส่วนใหญ่ถูกเก็งกันมาก่อนหนี้น้แล้ว สำหรับการรายงานงบ 3Q ก็จะทยอยออกมามากขึ้น
บล.เอเอสแอล คาด SET ปรับตัวในเชิงบวกขึ้นได้แต่ยังคงเป็นแบบ Sideway Up หลังโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวลดำรงตำแหน่งประธาน FED คนใหม่ตามที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งเขามีนโยบายที่จะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เป็นมุมมองเชิงบวกต่อกระแสเงินทุนระยะสั้น (ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงคืนวานนี้ + Bond Yield สหรัฐ ปรับตัวลงราวๆ 3 Bps) ทำให้โอกาสที่ต่างชาติจะพลิกกลับมาซื้อสุทธิมีสูง MSCI reallocation กลางเดือน พ.ย.เป็นอีกปัจจัยหนุน
ในประเทศยังไม่มีประเด็นใหม่ ขณะที่กลุ่ม ICT มีแรงขายหนักจากประเด็นการประมูลคลื่นในปีหน้า กลุ่มโรงกลั่นคาดมี Sell on fact ตามงบ 3Q60 ที่จะออกมาดี ด้าน PTTEP ประกาศงบการเงิน Core Profit ยังแข็งแกร่ง ระยะสั้นกลุ่มหุ้นขนาดกลาง-ขนาดเล็กที่ยัง Laggard มีโอกาสปรับตัวขึ้นเชิง Switching จากกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นไปก่อนหน้านี้ หุ้นเด่นเชิงกลยุทธ์ฯแนะนำ FTE วันนี้จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐ คาดเดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้น 300,000 ตำแหน่ง
ข่าวเด่น