ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน คาดตลาด "Sideway" ต้าน 1709/1714จุด (03/11/60)


 “Upstream & Laggard Play” 

CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway” ต้าน 1709/1714จุด รับ 1695/1690จุด Trump เสนอชื่อ Jorome Powell ดำรงตำแหน่งประธาน FED ทำให้นโยบายการเงินน่าจะต่อเนื่องจาก Jenet Yellen ผสานสมาชิกพรรครีพับลิกันเผยจะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ 20% จาก 35% บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนปัจจัยภายใน การรายงานงบ 3Q17 PTTEP ที่ดีกว่าคาด และ ADVANC ตามตลาดคาด จะช่วยลดแรงขายทำกำไรก่อนงบออก วันนี้แนะนำ “Upstream & Laggard Play ”  : PTTEP, BANPU, MINT 

Nomura : Key Factors

  • (+) US: Trump เสนอชื่อ Jerome Powell ให้ดำรงตำแหน่งประธาน FED คนใหม่
  • (+) US: สมาชิกพรรครีพับลิกันเผยจะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ 20% จาก 35%
  • (+) TH: รมว.คมนาคมเผยเตรียมลงทุน8โครงการในปี2018 คิดเป็นมูลค่าราว 1.03แสนลบ.
  • (+) Currency: ค่าเงินดอลล่าร์ยังคงพักฐาน ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง
  • (*) Fund Flow: ล่าสุดขายหุ้น -1,584ลบ.,Long Future +3,722สัญญา,ขายBond-3,997ลบ.
  • (*) TH: งบ3Q17วานนี้ In-Line อาจทำให้แรงขายทำกำไรก่อนผลประกอบการเบาบางลงได้
  • (*) US: ติดตามการรายงานอัตราการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานสหรัฐฯ
  • Nomura Daily Top Picks: PTTEP, BANPU, MINT

Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway” แนวต้าน 1709/1714จุด แนวรับ 1695/1690จุด Trump เสนอชื่อ Jerome Powell ให้ดำรงตำแหน่งประธาน FED คนใหม่แทนนาง Janet Yellen จะหมดวาระลงในเดือนกพ.2018 ซึ่งมุมมองต่อนโยบายเศรษฐกิจที่ค่อนข้าง Dovish ของ Powell จะยังคงทำให้ตลาดการเงินมีเสถียรภาพ เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง ประกอบกับสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯเปิดเผยรายละเอียดของร่างกฏหมายปฏิรูปภาษี(GOP) โดยจะทำการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ 20% จาก 35% และปรับลดภาษีขั้นสูงสุดสำหรับธุรกิจขนาดย่อมและองค์กรที่ไม่ใช่ภาคธุรกิจลงสู่ระดับ 25% จาก 39.6% คาดเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกให้โตตามไป ส่วนประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติมในร่างปฎิรูปภาษีฉบับนี้ คือ การยกเลิก Tax Credit ของรถยนต์ EV 7,500เหรียญฯ ต่อคัน สำหรับโควต้า 2แสนคันต่อบริษัทออกไป(TESLA มียอดขาย 1.27แสนคันสำหรับ Model X และ S) น่าจะทำให้ธุรกิจยานยนต์ที่ใช้พลังงานดั้งเดิมได้ประโยชน์ บวกต่อราคาน้ำมัน ส่วนปัจจัยภายใน ระยะกลาง-ยาว เชิงบวก รมว.คมนาคมเผยเตรียมลงทุน 8 โครงการในปี 2018 คิดเป็นมูลค่าราว 1.03แสนล้านบาท เป็นอีกหนึ่งแรงที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ระยะสั้นตลาดยังคงกังวลการรายงานผลประกอบการ 3Q17 ของบมจ.ไทยที่ค่อนข้างผันผวน แต่อย่างไรก็ดี โดยรวมวานนี้รายงานออกมาค่อนข้าง In-Line กับที่ตลาดคาด อาจหนุนให้แรงขายทำกำไรก่อนผลประกอบการจะรายงานเบาบางลงได้  ส่วนปัจจัยอื่นๆที่น่าติดตาม คือการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ นำโดย อัตราการจ้างงานนอกภาคเกษตร คาดเติบโตสู่ 313,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงาน คาดทรงตัวที่ระดับ 4.2%

Asset allocation : หุ้น 60% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 22.5%

Daily Strategy :   แผนปฎิรูปภาษีสหรัฐบวกต่อ IVL และกลุ่มปิโตรเลียมขั้นต้น เนื่องจากในร่างมีแผนการยกเลิก Tax Credit ของรถยนต์ EV 7,500เหรียญฯ ต่อคัน สำหรับโควต้า 2แสนคันต่อบริษัทออกไป บวกต่อ(PTTEP, PTTม BANPU) Sectors Rotation :  ยังแนะนำ ลดน้ำหนัก 1)กลุ่มโรงกลั่น(TOP, BCP, ESSO, SPRC) และ 2) ขายกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์(KCE, DELTA) ที่ราคาหุ้นขึ้นมารับผลประกอบการ 3Q17 แล้ว +ค่าเงินบาทแข็งค่ากด switchไปสะสม Upstream(PTTEP) ที่น่าจะฟื้นตัวตามราคาน้ำมันขึ้น, กลุ่มธนาคาร(KBANK, BBL) ที่ได้ประโยชน์ช่วง Seasonal 4Q17 และเก็ง GDP 3Q17 มีสัญญาณฟื้นตัวจากภายใน และปิโตรเคมีกำไรเด่น(IVL)

ส่วน  Theme 5 เด่น ที่ถือต่อหรือย่อสะสม ได้แก่
1.   MSCI Play : คาด SAWAD เข้ากระดานหลัก และน่าจะเพิ่มน้ำหนัก IVL(ประกาศ 13 พย)  
2.   Commodity Play : ราคาน้ำมันทรงตัวสูง แนะนำ PTTEP, PTT, BANPU เด่น
3.   Domestic Play : ธปท. คาด GDP ไทย 3Q17 แตะ 4% และทั้งปีนี้อาจแตะ 4% บวกการเร่งลงทุนภาครัฐ หนุนกลุ่มธนาคาร KBANK, BBL, TMB และอสังหาฯ  AP, SPALI, CK
4.   Consumer Play : PM(TP17.4), TK(17.8),  FN(TP7), S11(TP11.1), KAMART(TP11), JUBILE(TP27) ส่วน Big Cap เน้นถือลงทุน ROBINS, CPALL, HMPRO
5.   Tourism & Season laggard  Play : เน้น MINT, BDMS

Investment Theme:
4Q17F : Domestic Recovery: KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL, MINT, SCC
1) Consumer Recovery : KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL
2) Seasonal & Laggard : MINT
3) Infrastructure spending begins & High Yield : SCC

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :

PTTEP (TP18F 98*): Support: 87.0/86.0 Resistant: 89.25/90.0

  • Theme : Oil recovery
  • Earning Outlook : คาดกำไรปี 17F ฟื้นตัว 145% y-y จากราคาน้ำมันดิบผ่านจุดต่ำสุดในปีก่อน โดยงวด 4Q17F คาดจะฟื้นตัว จากด้านราคาเป็นหลัก โดยราคาน้ำมันยืนระดับสูง และจะมีการปรับราคาแหล่งบงกช รอบใหม่
  • Valuation : ราคาหุ้นอยู่ในจุดที่ซื้อสะสมรอบใหม่ได้อีกครั้ง หลังสิ้นสุดการตั้ง impairment รอบสุดท้ายแล้ว ประกอบกับ ราคาน้ำมันอยู่ในทิศทางฟื้นตัว  โดย Valuation ยังน่าสนใจ มี P/BV ปี 18F ที่ 0.83x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0.9x
  • Catalyst : ราคาน้ำมันยืนระดับสูง +0.44% อยุ่ที่ 54.54 เหรียญ/บาร์เรล จากโอเปกยังมีนโยบายควบคุม Demand – Supply คาดขยายเวลาลดกำลังการผลิตต่ออีก + มีการ upgrade จากโบรกต่างชาติ

BANPU (TP22.5*): Support: 17.0/16.6 Resistant: 17.7/18.1

  • Theme : Commodity Play
  • Earnings Outlook : คาดผลประกอบการ 3Q17F ประเมินกำไรสุทธิที่ 2,746 ล้านบาท +21% QoQ อาจเป็นระดับสูงสุดในปีนี้ คาดได้แรงหนุนจากปริมาณผลิตถ่านหินที่เพิ่มขึ้นจากปริมาณฝนในประเทศอินโดนีเซียที่ลดลง ขณะที่ราคาขายถ่านหินคาดว่าสูงขึ้นตามดัชนี NEX  แต่คาดจะอ่อนตัวลงใน 4Q17F ตามฤดูกาล เนื่องจากเป็นฤดูหนาว ส่งผลให้ความต้องการใช้ถ่านหินลดลง
  • Valuation : ราคาเป้าหมายปี18F ที่ 22.5 ซึ่งยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีในช่วงที่ราคาถ่านหินปรับตัวลดลง เทียบ implied PER ที่ 13 เท่า นอกจากนี้ potential upside จากการเข้าลงทุนธุรกิจก๊าซฯที่สหรัฐฯ (กำลังการผลิต 100 mmscfd) ราว +1.32 บาทต่อหุ้น
  • Catalyst : ราคาถ่านหินเพิ่มติดต่อกันเป็นวันที่ 4  โดยวานนี้อยู่ระดับ 100.0 เหรียญ/ตัน  ประกอบกับ มี Hidden value  จาก BPP ที่ราคา Outperform มากและมี Market cap กว่า 9 หมื่นลบ. โดย BANPU ถือหุ้นอยู่ 78% คิดเป็นมูลค่าหุ้น BANPU สูงถึง 13.8 บาทต่อหุ้น เหลือมูลค่าธุรกิจ BANPU เองซื้อขายเพียง 3.58 บาท

MINT (TP50.0*): Support: 42.25/41.5 Resistant: 43.75/45.0

  • Theme : Seasonal & Laggard
  • Earning Outlook : คาดกำไรปกติ 2017F จะกลับมาเติบโต 15%  จากการบริโภคและการท่องเที่ยวฟื้นตัว หนุนทุกธุรกิจที่กระจายความเสี่ยงที่ดี ทั้งโรงแรม, ร้านอาหารและ AVC ต่อเนื่องในปี 2018F อีก +16%y-y  
  • Valuation : ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER18F ระดับ 31x เท่า และยังเหมาะสมจากการเป็นผู้นำในกลุ่มฯที่มีรายได้กระจายตัวที่สุด Upside 15.6%
  • Catalyst : เข้าสู่ช่วง High Season ของกลุ่มโรงแรม คาด Earning Momentum เติบโตเด่นตั้งแต่ 3Q17F คาด +21%y-y, +63%q-q ต่อเนื่องถึง 4Q17F จากแรงหนุนธุรกิจโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ

Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura) 


บันทึกโดย : วันที่ : 03 พ.ย. 2560 เวลา : 10:33:37

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:22 am