Market summary
  เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ แต่ยังคงมีแรงขายเด่นในกลุ่ม ICT   นำโดย ADVANC, DTAC, TRUE และ INTUCH จากหลายประเด็นกดดัน เช่นตลาดกังวลการประมูลคลื่นในเดือนมีนาคมปีหน้า ภายหลัง กสทช.ไม่ตัดสิทธิ์ JAS และอื่นๆ อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อเด่นใน PTTEP จากผลประกอบการจากการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด และ MINT ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่  1,701.4 จุด (-0.4 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.2 หมื่นล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 6.2 หมื่นล้านบาท 
  นักลงทุนชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่องที่  2,326 ลบ.และกลับมา Short สุทธิ SET50  Index Future ที่ 4,686 สัญญา ( 12 วันทำการที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายทำกำไรตลาดหุ้นไทยสูงกว่า 2.0 หมื่นล้านบาท )

Investment theme
  แรงซื้อสถาบันสวนทางฝรั่ง ส่งผลให้ SET เริ่มแกว่งตัวออกข้าง   :  ภายหลังความชัดเจนของ FED ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐ, การเริ่มลดขนาดงบดุลครั้งแรกประมาณ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และล่าสุดการเผยแผนปฎิรูปภาษีของ Trump โดยลดภาษีนิติบุคคลจาก 35 เหลือ 20% พร้อมทั้งลดหย่อนภาษี (Capital investment) และอื่นๆ สร้างแรงจูงใจให้บริษัทฯ ย้ายฐานการผลิตกลับสหรัฐ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ และ Bond yield สหรัฐปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยกดดันการลงทุนในภูมิภาค อีกทั้งเริ่มเห็นฝรั่งขายทำกำไรทั้งตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย ส่วนหนึ่งคาดเป็นการ Rotate กลับเอเชียเหนืออย่าง ไต้หวัน, เกาหลีใต้ เป็นผลมาจากการชนะการเลือกตั้งของ Abe และ Xi Jinping  (Election -rally) รวมถึงปัญหาคาบสมุทรเกาหลีเหนือเบาบางลง ถือเป็น Sentiment บวกต่อการลงทุน   
Investment theme: เราแนะนำนักลงทุนชะลอแรงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3 เพราะเรามองว่าหุ้นหลายกลุ่ม ณ.ปัจจุบันสะท้อนไปไม่มากก็น้อยแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มค่าปลีก ชะลอการเก็งกำไรหลัง Momentum เชิงบวกเริ่มเสีย 

Big issue 
  เมื่อคืนที่ผ่านมา  สหรัฐรายงานตัวเลข Nonfarm payroll ต่ำกว่าคาดที่ 261,000 ตำแหน่ง และรายงาน PMI ภาคบริการต่ำกว่าคาดที่ 55.3  และรายงานอัตราการว่างงานที่ 4.1% / เกิดเหตุก่อการร้ายที่รัฐ Texas สหรัฐ พบผู้เสียชีวิตสูงกว่า 26 คน / Brent ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 62.27 เหรียญ/บาร์เรล 
  TTCL, MACO ติด Cash Balance 
  IRPC รายงานผลประกอบการ In-line / SPRC ต่ำกว่าคาด

Stock pick : PTT
PTT :  ซื้อสะสม เป้าหมาย 477.0 บาท (Upgrade)
  คาดผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ 21,400 ล้านบาท (+20.7%YoY,-31.7%QoQ) จากผลกระทบการด้อยค่าของ PTTEP จำนวน 18,504ล้านบาท (ตลาดรับรู้ไปแล้ว) และคาดกำไรจากการดำเนินงานที่ 32,313 ล้านบาท +33.4%YoY, +13.7%QoQ) หนุนจากประมาณและราคาขายของ PTTEP อีกทั้งธุรกิจ โรงกลั่นและปิโตรของ PTTGC 
  เราปรับเพิ่มกำไรจากการดำเนินงานปี 60/61 เพิ่ม 27% และ 22% ตามลำดับเป็น 1.20 และ 1.23 แสนล้านบาท  พร้อมปรับเพิ่มราคาเหมาะสมเป็น 477.0 บาท เราชอบ PTT ที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานที่ผลตอบแทนมั่นคง และประโยชน์จากปรับขึ้นของราคาน้ำมัน
  Trading idea – – Stock pick สัปดาห์นี้ (LPN, PTTEP, CK) / ทยอยสะสมกลุ่มธนาคาร (KBANK,BBL)   / เก็งกำไร AP จากผลประกอบการ 3Q60 จะเด่นทั้ง YoY, QoQ

Technical View 
  หัวเลี้ยวหัวต่อ :  ดัชนีแกว่งตัวในลักษณะ Sideway Down ตลอดทั้งวัน แต่โดยภาพรวมพยายามหยุดลงที่แนวรับเส้น Uptrend ของกราฟ 120 นาที ประกอบกับ Modified Stochastic ในกราฟ 120 นาทีเริ่มเข้าเขต Oversold จึงมองว่าดัชนีจะเริ่มขะลอการลงและแกว่งตัวออกข้างมองกรอบการแกว่ง 1690-1710 แต่ระหว่างวันควรดูแรงขายกลุ่มสื่อสารประกอบการตัดสินใจหากหลุด 1690 จะมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อ
  กลยุทธ์การลงุทุน  (1)  มีหุ้น: ถือเพื่อรอเล่น Rebound สั้นๆ แต่หากหลุด 1690 แนะนำ ลดพอร์ต (2) ไม่มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1690-1710 โดยต้องกำหนดจุด Cut Loss ให้ชัดเจน
  แนวรับ : 1690, 1685  แนวต้าน : 1710, 1715

Eyes on 
  ปัจจัยต่างประเทศ :  Trump เดินทางเยือนเอเชีย (ญี่ปุ่น-จีน-เกาหลีใต้-เวียดนาม-ฟิลิปปินส์)  
  ปัจจัยในประเทศ :  8 พ.ย. ประขุมกนง.

หุ้นเทคนิค:
  IVL (B 47.50, Tp 50.50, Cut 46.75)

  PTTGC (B 78.00, Tp 81.00, Cut 77.00)