คำแนะนำ
แนะนำติดตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิดโดยเน้นการเก็งกำไรในกรอบ 1,263-1,279 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังคงพยายามยืนเหนือโซนแนวรับแรกได้ ทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านอีกครั้ง
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,263 1,254 1,245
แนวต้าน 1,279 1,288 1,296
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 6.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนตอบรับการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ทั้งนี้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้นต่ำกว่าคาดเพียง 261,000 ตำแหน่ง ทางด้านอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.1% ส่วนรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานลดลง 1 เซนต์/ชั่วโมง หรือ ทรงตัวเมื่อคิดเป็น% ส่งผลกดดันสกุลเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าและหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้น ก่อนที่ราคาทองคำจะถูกแรงเทหลังจากสกุลเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขานรับการเปิดเผยคำสั่งซื้อภาคโรงงานและตัวเลขในภาคบริการของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาดซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำในวันศุกร์ 0.29 ตัน สำหรับวันนี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ แต่แนะนำจับตาสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีที่อาจทวีความตึงเครียดขึ้นในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐเดินทางเยือนประเทศต่างๆในเอเชีย หลังเกาหลีใต้เปิดเผยว่าเกาหลีเหนือกำลังเตรียมทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้งเร็วนี้
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำปรับตัวลงมาพอเข้าใกล้โซนแนวรับ 1,263-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจมีแรงดีดกลับสั้นๆ เบื้องต้นอาจต้องระวังแรงขายกลับลงมาอีกครั้งหากราคายังไม่มีแรงซื้อมากพอหรือมีปัจจัยใหม่มาดันราคาขึ้น โดยประเมินแนวต้านที่ 1,279ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
ดูบริเวณ 1,263-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่หลุดสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น เพื่อขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,279 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาผ่านแนวต้านแรกได้ให้รอดูบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น