“Selective Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Rebound” ต้าน 1707/1713จุด รับ 1696/1692จุด ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรง จากความเสี่ยงทางการเมืองซาอุฯที่อาจกระทบต่อกำลังการผลิตน้ำมันดิบ หนุนกลุ่มปิโตรเลียมขั้นต้น ส่วนภายในดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากใน 3Q17 ของไทยเพิ่มขึ้น ผสานนักลงทุนต่างชาติที่ขายทำกำไรในเดือน พย 2017 ตามฤดูกาล เริ่มมีสถานะหุ้นไทยจำกัด รวมถึงแรงซื้อ LTF เพื่อผลประโยชน์ทางภาษี จะเริ่มหนุนตลาดรีบาวด์ วันนี้แนะนำ “Selective Play ” : PTTEP, SAWAD, PM
Nomura : Key Factors
- (+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +2.02% สู่ $55.64/bbl / BRT +2.39% สู่ $62.07/bbl
- (+) OIL: ความเสี่ยงทางการเมืองในซาอุดิอาระเบียเพิ่มมากขึ้นจาก Corruption ภายใน
- (+) TH: ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากใน 3Q17 ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 46.9
- (+) TH: ต่างชาติที่ขายทำกำไรในเดือน พย ตามฤดูกาล และเริ่มมีสถานะหุ้นไทยจำกัด
- (+) TH: แรงซื้อกองทุน LTF เพื่อผลประโยชน์ทางภาษีในช่วงสิ้นปี หนุนตลาดปรับตัวขึ้นได้
- (*) US: ตัวเลข ISM Non-Manf. ฟื้นตัว แต่ตัวเลขภาคการจ้างงานออกมาต่ำคาด
- (*) US: ติดตามถ้อยแถลง William Dudley ที่อาจจะมีการกล่าวถึงแผนการอำลาตำแหน่งได้
- (-) Fund Flow: ล่าสุดขายหุ้น -2,326ลบ.,Short Future -4,686สัญญา,ขายBond-2,882ลบ.
- Nomura Daily Top Picks: PTTEP, SAWAD, PM
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Rebound” แนวต้าน 1707/1713จุด แนวรับ 1696/1692จุด แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่พุงขึ้นแรง โดย BRENT ปรับตัวขึ้นกว่า 2.39% สู่ระดับ 62.07 เหรียญ/บาร์เรล หลังความเสี่ยงทางการเมืองในซาอุดิอาระเบียเพิ่มมากขึ้นจากปัญหา Corruption ภายใน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความไม่แน่นอนของกำลังการผลิตน้ำมันดิบ ผสานรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบลดลง 8 แท่น สู่ระดับ 729 แท่น เป็นปัจจัยกระตุ้นน้ำมันดิบ หนุนกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะปิโตรเลียมขั้นต้นฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดย 7 พย.นี้ ติดตามถ้อยแถลงของกลุ่ม OPEC เกี่ยวกับ World Oil Outlook อาจมีรายละเอียดต่อแนวโน้มน้ำมันดิบช่วงถัดไปเพิ่มเติม นอกจากนี้ ธนาคารออมสินเผยดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากใน 3Q17 จากกลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 46.9 เติบโตจาก 46.3ใน 2Q17 ซึ่งความเชื่อมั่นผุ้บริโภคที่ฟื้นตัว คาดจะกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มเติม หนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่องได้ อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติ ที่เริ่มขายทำกำไรในเดือน พย 2017 ตามฤดูกาล และเริ่มมีสถานะหุ้นไทยจำกัด ถ้าประเมินจากต้นปี 2017YTD -2598ล้านบาท และ 28 สค 2017-ปัจจุบัน เหลือ +2062ล้านบาท ทำให้แรงขายน่าจะเริ่มเบาบางลง ผสานแรงหนุนจากการซื้อกองทุน LTF เพื่อผลประโยชน์ทางภาษีในช่วงสิ้นปี เป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดรีบาวด์ได้ ส่วนปัจจัยอื่นๆที่น่าติดตาม คือ ถ้อยแถลงของนาย William Dudley ประธาน FED สาขานิวยอร์ก ที่อาจจะมีการกล่าวถึงแผนการอำลาตำแหน่งได้
Asset allocation : หุ้น 60% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 22.5%
Daily Strategy : กลยุทธ์วันนี้ยังแนะนำลดน้ำหนักกลุ่มโรงกลั่น และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไปกลุ่มปิโตรเลียมขั้นต้น ปิโตรเคมี และธนาคาร ผสาน 5 Theme เด่น ที่ถือต่อหรือย่อสะสม ได้แก่
1. Shop for Nation play: คาดสัปดาห์นี้เสนอ ครม.ช็อปช่วยชาติ + ROBINS, HMPRO, FN JUBILE, KAMART, MINT, ERW, CNETEL เน้น Laggard MINT, JUBILE, KAMART และกลุ่มผู้ขายสินค้าไอทีและบัตรเครดิต (เก็งกำไร COM7, JMART, KTC)
2. MSCI Play : คาด SAWAD เข้ากระดานหลัก และน่าจะเพิ่มน้ำหนัก IVL(ประกาศ 13 พย)
3. Commodity Play : ราคาน้ำมันทรงตัวสูง แนะนำ PTTEP, PTT, BANPU เด่น
4. Domestic Play : ธปท คาด GDP ไทย 3Q17 แตะ 4% และทั้งปีนี้อาจแตะ 4% บวกการเร่งลงทุนภาครัฐ หนุนกลุ่มธนาคาร KBANK, BBL, TMB และอสังหาฯ AP, SPALI, CK
5. Consumer Play : PM(TP17.4), TK(17.8), FN(TP7), S11(TP11.1), KAMART(TP11), JUBILE(TP27) ส่วน Big Cap เน้นถือลงทุน ROBINS, CPALL, HMPRO
6. Tourism & Season laggard Play : เน้น MINT, BDMS
Investment Theme:
4Q17F : Domestic Recovery: KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL, MINT, SCC
1) Consumer Recovery : KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL
2) Seasonal & Laggard : MINT
3) Infrastructure spending begins & High Yield : SCC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
PTTEP (TP18F 98*): Support: 87.5/87.0 Resistant: 90.0/91.0
- Theme : Oil recovery
- Earning Outlook : คาดกำไรปี 17F ฟื้นตัว 145% y-y จากราคาน้ำมันดิบผ่านจุดต่ำสุดในปีก่อน โดยงวด 4Q17F คาดจะฟื้นตัว จากด้านราคาเป็นหลัก โดยราคาน้ำมันยืนระดับสูง และจะมีการปรับราคาแหล่งบงกช รอบใหม่
- Valuation : ราคาหุ้นอยู่ในจุดที่ซื้อสะสมรอบใหม่ได้อีกครั้ง หลังสิ้นสุดการตั้ง impairment รอบสุดท้ายแล้ว กอปรกับ ราคาน้ำมันอยู่ในทิศทางฟื้นตัว โดย Valuation ยังน่าสนใจ มี P/BV ปี 18F ที่ 0.83x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0.9x
- Catalyst : ราคาน้ำมัน New high รอบ 27 เดือนอีกครั้ง +2.1% อยุ่ที่ 55.64 เหรียญ/บาร์เรล จากโอเปกยังมีนโยบายควบคุม Demand – Supply คาดขยายเวลาลดกำลังการผลิตต่ออีก
SAWAD (Max Consensus TP80): Support: 71.0/70.0 Resistant: 74.0/76.0
- Theme : Earnings play
- Earnings outlook : แนวโน้มกำไรยังเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง คาดปีนี้ +22%และ +18% 2018F จากการปล่อยสินเชื่อยังเร่งตัวดีและเป็นเชิงรุก รวมถึง การร่วมมือกับ BFIT ช่วยสร้างการเติบโต นอกเหนือจาก การเริ่มบุกตลาดตปท. (ลาว,พม่า,เวียดนาม) เป็นปัจจัย Key growth driver ระยะยาว โดยระยะสั้น กำไร 3Q17F Consensus คาด 695 ลบ. (+28% y-y, +10% q-q)
- Valuation : แม้จะมี Valuation ที่ค่อนข้างสูง แต่เป็นผู้นำกลุ่ม บวกกับ โอกาสเติบโตยังเห็นได้ชัด โดยแนวโน้มกำไร 3 ปีนี้ คาดเพิ่มเฉลี่ย 23% p.a มีโอกาสที่จะซื้อขาย ณ Premium จากกลุ่มได้
- Catalyst : Consensus คาด 3Q17F Earnings ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 695 ลบ. เติบโตต่อเนื่อง + Sentiment เชิงบวก จากการถูกนำเข้าคำนวณใน MSCI (ประกาศราว 13 พ.ย.,มีผล 1 ธ.ค.) หนุน Fund Flow Buy
PM (TP17.4*): Support: 14.0/13.7 Resistant: 14.8/15.2
- Theme : Earnings Play
- Earnings Outlook : แนวโน้มกำไรปกติ 3Q17F ฟื้นตัวเด่น +22.4% q-q และเติบโตต่อเนื่องใน 4Q17F ซึ่งจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี ยังคงเป้าฐานกำไรสุทธิปี17F ที่ 535 ลบ.ต่อเนื่องถึง แนวโน้มกำไรช่วง 3 ปีนี้จะเข้าสู่ช่วงเติบโตรอบใหญ่เฉลี่ย CAGR 22% ต่อปี จากกลยุทธ์ที่เป็นเชิงรุกมากขึ้น เริ่มนำ Taro บุกตลาดต่างประเทศ
- Valuation : ภาพของบริษัทจะเปลี่ยนจาก Div play เป็น Growth stock + high div โดย Div yield 5.7% และมี Valuation น่าสนใจ โดยมี PER ปี 2017F เพียง 16.1x เท่า ซื้อขายถูกกว่า TKN กว่า -52% PER18F ของ TKN ที่ซื้อขายอยู่ที่ 33.3x จำกัด Downside เพิ่มจะเติบโตเด่นในช่วง 3 ปีข้างหน้า
- Catalyst : คาดกำไรปกติ 3Q17F ฟื้นตัวเด่น q-q จากผ่านพ้นช่วง Low season และบันทึกค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่แล้วเสร็จในไตรมาสก่อนหน้า และคาดเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายฐานรายในตลาดต่างประเทศใน 4 ประเทศหลัก เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
ข่าวเด่น