Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นเด่น นำโดยแรงซื้อในกลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP) ภายหลังราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นเด่นในอยู่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับมีแรงเก็งกำไรเด่นในกลุ่มโรงแรม นำโดย ERW, CENTEL และ MINT ปรับตัวขึ้นเด่นภายหลัง มีข่าวรมว.ท่องเที่ยวหารือ Tax refund กระตุ้นภาคท่องเที่ยว และเกิด Technical rebound กลุ่ม ICT ภายหลังสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงกว่า 5% ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่  1,711.7 จุด (+10.2 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.3 หมื่นล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 5.2 หมื่นล้านบาท 
นักลงทุนชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่องที่  271 ลบ.แต่กลับมา Long สุทธิ SET50  Index Future เล็กน้อยที่ 439 สัญญา (13 วันทำการที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายทำกำไรตลาดหุ้นไทยสูงกว่า 2.0 หมื่นล้านบาท )

Investment theme
  เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวเป็นบวกต่อ กลุ่มพลังงาน(ต้นน้ำ)   :  ช่วงเวลาปัจจุบัน เป็นช่วงที่เศรษฐกิจของหลายๆประเทศฟื้นตัวพร้อมๆกัน ทั้งจากฝั่งตะวันตกสหรัฐ (ล่าสุดรายงาน GDP ไตรมาส 3 สูงกว่า 3.0%), ยุโรป (รายงาน GDP ไตรมาส 3 ที่ 2.5%) ในขณะที่ฝั่งตะวันออกอย่าง จีนและญี่ปุ่นก็เช่นกัน อีกทั้งยังได้ Sentiment เชิงบวกจากการชนะการเลือกตั้งของ Abe และ Xi Jinping โดย IMF และ World Bank  ได้ปรับเป้าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกปีหน้าเป็น 3.7% (จาก 3.6%) สูงสุดในรอบ 7 ปี และเป็นการกระจายตัวของการเติบโตทุกๆ ภูมิภาค ส่งผลให้เรามองว่ากลุ่ม Global play อย่างกลุ่มน้ำมัน และกลุ่ม Logistic ที่ได้ประโยชน์จากการส่งออก ( Freight forwarder) 
Investment theme: เราแนะนำนักลงทุนชะลอแรงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3 เพราะเรามองว่าหุ้นหลายกลุ่ม ณ.ปัจจุบันสะท้อนไปไม่มากก็น้อยแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก ชะลอการเก็งกำไรหลัง Momentum เชิงบวกเริ่มเสีย 

Big issue
  เมื่อคืนที่ผ่านมา  สหรัฐ-ญี่ปุ่น ยืนยันร่วมกันยกระดับการกดดันเกาหลีเหนือขั้นสูงสุด  / สภาส่งออกไทยปรับเป้าส่งออกปีนี้เป็นโตไม่ต่ำกว่า 8% ในขณะที่ปีหน้าคาดโต 5%  / ซาอุประกาศปิดการเชื่อมต่อทุกทางกับเยเมน / อินโดรายงาน GDP  ไตรมาส 3 ออกมาต่ำกว่าคาดที่ 5.06% 
  GPSC รายงานกำไรไตรมาส 3 ออกมาสูงกว่าตลาดคาด 13% 
  บทวิเคราะห์วันนี้  MTLS, QH

Stock pick : CK
CK:  เก็งกำไร เป้าหมาย 34.00 บาท
  ในปี 2561 เราเชื่อหนึ่งในเครื่องยนต์หลักที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย หนีไม่พ้น เม็ดเงินการลงทุนจากภาครัฐ (Government spending) โดยคาดจะเบิกจ่ายปีนี้อีก 1.1 แสนล้านบาท และมีงบประมาณ 61 อีก 8แสนล้านบาท ถือเป็นสัญญาณการเริ่มต้นที่ดี 
  CK จะได้ประโยชน์สูงในทางอ้อมจากพัฒนาการของ BEM ในปีนี้และปีหน้า จากผลกำไรที่ขยายตัวสูงใน 3Q60 โอกาสใน upside จำนวนมากจากสัมปทานเส้นใหม่ (เดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงต่อขยาย และส้ม) โอกาสในการต่อ/ปรับปรุงสัมปทานทางด่วน และหรือ/ รถไฟฟ้า รวมถึงบริษัทฯลูก CKP , XPCL กำลังเข้าสู่ช่วง Growth cycle
  ในเชิงเทคนิคกลุ่มก่อสร้างเพิ่ง Break เส้น 200 วัน ในขณะที่ YTD หุ้น CK -12% ถือเป็นโอกาสการเก็งกำไร
  Trading idea – – Stock pick สัปดาห์นี้ (LPN, PTTEP, CK) / ขายทำกำไร QH คาดผลประกอบการจากการดำเนินงานไตรมาส 3 อ่อนตัว / เก็งกำไร SCN (หากราคาน้ำมันดิบยังสามารถยืนในระดับสูง เป็นบวกทางอ้อมต่อธุรกิจ)

Technical View 
  Rebound ตามแนวโน้มหลัก  :  ดัชนีเริ่มส่งสัญญาณ Rebound จากแนวรับของเส้น Uptrend จากแรงซื้อหลักในกลุ่มพลังงาน และแรงซื้อกลับในกลุ่มสื่อสาร ระยะสั้นมองว่า ดัชนีมีโอกาส Rebound ต่อเนื่องจาก Modified Stochastic เพิ่งเริ่มดีดตัวจากแนว Oversold ของกราฟ 120 นาที คาดดัชนีแกว่งขึ้นทดสอบแนวรับ 1720 และ 1730 ตามลำดับ
  กลยุทธ์การลงุทุน  (1)  มีหุ้น: ถือเพื่อรอการปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1720 และ 1730 (2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวสู่แนวรับ 1705 มองเป็นโอกาสสะสม
  แนวรับ : 1705, 1700  แนวต้าน : 1720, 1730

Eyes on
  ปัจจัยต่างประเทศ :  Trump เดินทางเยือนเอเชีย (ญี่ปุ่น-จีน-เกาหลีใต้-เวียดนาม-ฟิลิปปินส์)  /การประชุม Asean 13-14 พ.ย.
  ปัจจัยในประเทศ :  จับตาครม.พิจารณามาตราการช็อปช่วยชาติ /8 พ.ย. ประชุม กนง./ จับตาการปรับครม. / 

หุ้นเทคนิค:
  PTT (B 416.00, Tp 430.00//436.00, Cut 412.00)
  BGRIM (B 27.50, Tp 30.50, Cut 27.00)