กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรหุ้น Mid-Small Cap ที่มีกำไร 3Q17 แข็งแกร่ง

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัวในแดนบวกได้ตลอดทั้งวันตามที่เราคาด โดยช่วงบ่ายมีแรงขายออกมาเป็นระยะและทำให้กรอบการบวกแคบลงเหลือปิดบวก 1.01 จุด ณ สิ้นวัน นักลงทุนต่างชาติเริ่มพลิกมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเล็กน้อยหลังจากที่ขายติดต่อกัน 8 วันก่อนหน้า ขณะที่สถาบันในประเทศยังซื้อสุทธิต่อเนื่องอีกเกือบ 969 ลบ.
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะยังแกว่งตัว Sideways เนื่องจากเริ่มขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น โดยราคาน้ำมันดิบเริ่มมีการพักตัวหลังจากปรับขึ้นหลายวันติดต่อกัน ส่วนเช้านี้ต้องติดตามตัวเลขดุลการค้าเดือน ต.ค. ของจีน เราเชื่อว่าน้ำหนักของตลาดในช่วงนี้ยังเป็นการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 3Q17 ของบ้านเราที่จะออกมาอย่างหนาแน่น ซึ่งเรามองว่าในช่วงที่ตลาดแกว่งตัวออกข้าง หุ้นขนาดกลาง-เล็กที่คาดจะมีกำไร 3Q17 แข็งแกร่งน่าจะเป็นเป้าในการถูกเก็งกำไรและเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาด 
  กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่คาดมีผลประกอบการ 3Q17 แข็งแกร่ง
  หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : CPALL, CPN, EKH, MINT, SYNEX
  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$433ล้าน นำโดยเวียดนาม US$251ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$8ล้าน ไม่มีประเทศใดมีเงินทุนไหลออก แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่อาจชะลอตัวเพื่อติดตามถ้อยแถลงของเยลเลน ต่อแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> PCSGH <<

• คาดกำไรสุทธิ 3Q17 ทำจุดสูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส ที่ 182 ลบ. +13% Q-Q, +202% Y-Y ตามการฟื้นตัวของยอดผลิตรถยนต์ในประเทศ +13% Q-Q , +9% Y-Y ซึ่งโมเมนตัมยังดีต่อเนื่องถึง 4Q17 จากการผันตัวเองไปรับงาน Non-Auto ที่มีอัตรากำไรสูง เราคาดกำไรสุทธิปีนี้ +69% Y-Y อยู่ที่ 645 ลบ.
• PE2018 อยู่ที่ 14 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตของตัวเองที่ 20 เท่า และกลุ่มยานยนต์ที่ 16 เท่า ขณะที่ ราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด -2% แต่กลุ่ม +3% ไม่สอดคล้องกับกำไรที่โตแรงกว่าและมีอัตรากำไรสุทธิสูงกว่ากลุ่มเกือบเท่าตัว อีกทั้ง ฐานะทางการเงินแข็งแกร่งเป็น Net Cash เงินสดในมือสูงราว 1 บาท/หุ้น และปันผลสม่ำเสมอ 5-6% ต่อปี
• แนะนำซื้อ ปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 9.60 บาท    

ประเด็นสำคัญวันนี้
  (0) คาดกนง.คงดอกเบี้ยในการประชุมพรุ่งนี้ที่ 1.5% เพราะเศรษฐกิจมีมิศทางดีขึ้นแต่การเติบโตยังไม่กระจายตัวมากนัก จึงเร็วเกินไปมากที่จะขึ้นดอกเบี้ยโดยเฉพาะเงินเฟ้อไม่เป็นปัจจัยกดดัน (10M17 +0.6% Y-Y) ถึงเงินเฟ้อจะต่ำแต่ก็มีทิศทางเพิ่มขึ้น การลดดอกเบี้ยจึงไม่เหมาะสม เราคาดกนง.จะคงดอกเบี้ยไปถึงกลางปีหน้า เชื่อว่าการที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ขึ้นเป็นปธ.เฟดคนใหม่ ไม่มีน้ำหนักต่อทิศทางดอกเบี้ยไทย การคงดอกเบี้ยเป็นบวกต่อกลุ่มไฟแนนซ์ (MTLS, ASK, KKP, TISCO) อสังหา (ORI, AP) 
  (-) KCE กำไรสุทธิ 3Q17 อยู่ที่ 612 ลบ. -9% Q-Q, -22% Y-Y หากไม่รวม fx กำไรปกติอยู่ที่ 567 ลบ. -8% Q-Q, -27% Y-Y ต่ำสุดในรอบ 9 ไตรมาส แม้ปริมาณขายจะเพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถชดเชยกับการปรับราคาลง เงินบาทแข็ง และต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นแทบทุกตัว ขณะที่ แนวโน้ม 4Q17 คาดชะลอต่อเนื่องเพราะเป็น Low Season ส่วนปีหน้ายังไม่แน่ว่าจะปรับราคาขายขึ้นเพื่อชดเชยต้นทุนได้หรือไม่ เรามีแนวโน้มปรับประมาณการลงหลังจากประชุมนักวิเคราะห์บ่ายวันนี้ ราคาเป้าหมายปี 2018 เดิมอยู่ที่ 97 บาท 
  (+) AIT กำไรปกติ 3Q17 เร่งตัวขึ้น +17% Q-Q, +21% Y-Y จากรายได้ที่เติบโตโดดเด่นจากการส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่โดยเฉพาะอินเตอร์เน็ตหมู่บ้าน ซึ่งชดเชย Gross Margin ที่หดตัวได้ อย่างไรก็ตามกำไร 9M17 คิดเป็นเพียง 69% ของทั้งปี เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2017-2018 ลงเหลอ +16% Y-Y และ 17% Y-Y ตามลำดับ เราปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 2018 ที่ 32 บาท (PE 12 เท่า) ยังแนะนำซื้อ ในแง่ Valuation ที่ถูกและปันผลที่สูงราว 6.5-7.5% ต่อปี
  (+) ATP30 กำไรสุทธิ 3Q17 ออกมาดีตามคาดที่ 8 ลบ. +54 Q-Q, +5% Y-Y จากการเริ่มให้บริการลูกค้าใหม่อย่าง Autolive ซึ่งใช้กองรถมากสุดตั้งแต่ ATP30 ตั้งบริษัทมา และยังมีบริษัทในเครือของ SCCC ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวขึ้น จากแผนควบคุมต้นทุนน้ำมันและค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพ แนวโน้ม 4Q17 คาดโตดีต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้ลูกค้าใหม่เต็มไตรมาส เราคงกำไรปีนี้ที่ 24 ลบ.+11% Y-Y และปีหน้า 35 ลบ. +45% Y-Y แนะนำซื้อ ราคาเป้ามาย 2.00 บาท
  (-) PDG กำไรสุทธิ 3Q17 น่าผิดหวังที่ 14 ลบ. -17% Q-Q, -38% Y-Y จากทั้งรายได้ที่ชะลอ เพราะลูกค้ารายใหม่ยังแก้กระบวนการผลิตของตัวเองไม่เสร็จ และต้นทุน PET ที่ปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2Q16 แม้แนวโน้ม 4Q17 จะฟื้นตัว Q-Q จากต้นทุนที่ผ่านคลายลง และเป็นช่วง re-stock ขวดน้ำมันพืชของ TVO แต่เมื่อเทียบ Y-Y ยังทรุดตัวจากฐานที่สูง เราปรับกำไรสุทธิปี 2017-2018 ลง 24% และ 13% เหลือ 70 ลบ. (-25% Y-Y) และ 84 ลบ. (+19% Y-Y) ปรับใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 4.70 บาท แต่ยังคงแนะนำซื้อ เพราะคาดว่า Bottom out และมีปันผลคอยพยุงสม่ำเสมอ 5-6% ต่อปี

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• (0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดทรงตัวท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ซบเซาเนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของทรัมป์
• (-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบโดยปัจจัยกดดันมาจากผลประกอบการที่ไม่สดใสนัก ขณะที่ตลาดยังมีความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเศรษฐกิจสเปนหลังมีการปรับลดตัวเลข GDP ลงเนื่องจากเหตุการณ์ในกาตาลุญญา
• (-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดลบตามทิศทางตลาดโลก ขณะที่นักลงทุนเฝ้าจับตาตัวเลขดุลการค้าจีนวันนี้
• (0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัว sideway ในกรอบแคบๆแถว 33.10-33.13 บาท/ดอลลาร์
• (-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดลบ 0.15 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 57.20 ดอลลาร์/บาร์เรล จากแรงขายทำกำไรหลังปรับตัวลดลงหลังที่ผ่านมาขยับขึ้นมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 2.5 ปี เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า และ ความกังวลปัจจัยการเมืองระหว่างซาอุ และ อิหร่านซึ่งอาจส่งผลต่อความร่วมมือการลดการผลิต
• ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดลบ 5.80 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,275.80 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า