คำแนะนำ
เน้นเก็งกำไรฝั่งซื้อโดยมีแนวรับบริเวณ 1,271-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบ้างส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,271 1,263 1,254
แนวต้าน 1,288 1,296 1,307
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 6.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไรหลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรง 1 % ในวันจันทร์จากสถานการณ์ทางการเมืองในซาอุดิอาระเบีย ประกอบกับสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้เกือบ 96.7% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งเกินคาดเกือบทุกภาคส่วน ขณะที่วานนี้สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการเปิดรับสมัครงานที่เป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน อยู่ที่ระดับ 6.09 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ย.ซึ่งบ่งชี้ถึงตลาดแรงงานสหรัฐที่ยังคงมีความแข็งแกร่งเช่นกัน นอกจากนี้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐยังเดินหน้าปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง -1.18 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)คาดกนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ1.50%แต่อาจต้องจับตามุมมองต่อเศรษฐกิจและการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท
ปัจจัยทางเทคนิค
ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสดีดตัวขึ้น โดยหากยืนเหนือบริเวณ 1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ การขยับขึ้นจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,296 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดแนวรับแรก กรอบด้านล่างจะอยู่ที่ 1,263ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เปิดสถานะซื้อ โดยอาจใช้บริเวณ 1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดให้ชะลอการเข้าซื้อไปยังโซนแนวรับถัดไป ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรโซน 1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อรอเข้าซื้อใหม่เมื่อราคาอ่อนตัว
ข่าวเด่น