กลยุทธ์วันนี้
Domestic Play
Smart Pick
1. สะสม SCB : ราคาปิด 146.50 บาท ราคาเหมาะสม 160.00 บาท
a) Yuanta คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก เนื่องจากเป็นเจ้าหนี้หลักที่ปล่อยกู้ให้กับ PACE ดังนั้น การประกาศเพิ่มทุนและขายสินทรัพย์ ได้แก่ โครงการนิมิต หลังสวน และห้องชุดโครงการมหานครที่เหลืออยู่จำนวน 53 ห้อง จะส่งผลให้ฐานะการเงินของ PACE ดีขึ้น และส่งผลให้ความเสี่ยงของ SCB ลดลงด้วยเช่นกัน
b) ราคาหุ้น Laggard มาก จึงมี Downside Risk ที่จำกัด โดย YTD หุ้น SCB ลดลง -3.9% เทียบกับ SET BANK +9.8% และ SET INDEX +11.1%
c) คาดกำไรสุทธิปี 2561 เติบโต +5% YoY เป็น 46,421 ล้านบาท แม้การเติบโตของกำไรจะไม่เด่นมากนัก แต่ Valuation ถูก ที่ระดับ PBV2561 เพียง 1.3 เท่า และให้ Dividend Yield ปีละ 4%
2. สะสม MBK : ราคาปิด 21.40 บาท ราคาเหมาะสม 26.00 บาท
a) ราคาหุ้นวานนี้ปรับตัวลง -5.7% ไม่ได้มีปัจจัยลบทางด้านปัจจัยพื้นฐาน แต่เกิดจากแรงขายทำกำไรและการปรับฐานทางเทคนิค เนื่องจากปรับตัวขึ้นโดดเด่นถึง 45% ในช่วง 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมา
b) หุ้นกลุ่มศูนย์การค้าจะได้ประโยชน์จากการอนุมัติโครงการช็อปช่วยชาติรอบใหม่ระหว่างวันที่ 11 พ.ย. - 3 ธ.ค. รวม 23 วัน โดย MBK มีสัญญาณเช่าแบบ Consignment Contract ที่จะได้ส่วนแบ่งรายได้จากยอดขายราว 15% ของพื้นที่เช่าทั้งหมด
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของกำไรใน 3 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ปีละ 17% จากแรงหนุนของโครงการ Icon Siam ที่จะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ 4Q61 และ Valuation น่าสนใจที่ระดับ PER2561 เพียง 12.8 เท่า เทียบกับ CPN ที่ 27.8 เท่า
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยราว 1.01 จุด ปิดที่ 1712.75 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 5.7 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการราว 258 ล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิราว 969 ล้านบาท นับเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันรวมกว่า 2.4 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 1.3 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิราว 5.8 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 4.1 หมื่นสัญญา และสถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิราว 2.2 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันอีกราว 1 พันล้านบาท
กลยุทธ์วันนี้
แม้วานนี้ SET INDEX ไม่สามารถฝ่าด่าน 1720 จุดได้ จากแรงขายช่วงท้ายตลาด อย่างไรก็ดี ภาพระยะกลางของ SET INDEX ยังคงเป็นการไต่ระดับขึ้นทดสอบ High เดิม 1720 จุดอีกครั้ง เราเชื่อว่า Downside ของ SET INDEX จำกัด ด้วยราคาน้ำมันดิบ บวกกับ ผลประกอบการที่ทยอยประกาศออกมาอยู่ในเกณฑ์ดี
กลุ่มค้าปลีก มีสีสันมากขึ้น หลังจากที่ประชุม ครม.วานนี้ มีมติเห็นชอบมาตรการ "ช็อปช่วยชาติ" ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินที่จ่ายค่าสินค้าหรือบริการ ไม่เกิน 15,000 บาท ในช่วง 11 พ.ย.-3 ธ.ค.รวม 23 วัน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ เรามองเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก-ศูนย์การค้า ได้แก่ MBK/ HMPRO/ ROBINS/ CPN
วันนี้ จะมีการประชุม กนง. คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% เช่นเดิม เพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และให้ติดตามมุมมองของ กนง.ต่อทิศทางเศรษฐกิจ/ อัตราเงินเฟ้อ/ ค่าเงินบาทในระยะถัดไป
กลยุทธ์วันนี้ (1) เก็งกำไรหุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการช็อปช่วยชาติ และ (2) หุ้น Laggard ที่ราคาหุ้นยัง ทรงตัวในระดับต่ำ และเริ่มมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเข้ามาหนุน
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- ครม.มีมติเห็นชอบต่อมาตรการ "ช็อปช่วยชาติ" วงเงินไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท
- EU รายงานยอดการค้าปลีกขยายตัว 3.7% YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.8%
- สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผย ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือน พ.ย. 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 165.77
- PACE ประกาศขายโครงการนิมิต หลังสวน (ทั้งโครงการ) และห้องชุดที่พักอาศัยในโครงการเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน ที่เหลือทั้งหมดให้กับ SIRI
- ติดตาม API รายงานสต็อกน้ำมันดิบ ตลาดคาดลดลงราว 2.7 ล้านบาร์เรล
- หุ้น IPO เข้าซื้อขายวันแรกในสัปดาห์นี้ คือ ADB (9 พ.ย.) และ RSP (10 พ.ย.)
- จีนรายงานการนำเข้า ส่งออก วันนี้ ตลาดคาดส่งออกขยายตัว 17%
- ติดตามการประชุม กนง. ตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5%
- ติดตามการรายงานเงินเฟ้อจีน วันที่ 9 พ.ย. ตลาดคาดขยายตัว 1.8%YoY
- Trump เดินทางเยือนเอเชีย 5 ประเทศ ในวันที่ 3-15 พ.ย. 60
ข่าวเด่น