แกว่งตัวในกรอบ 1705-1730 จุด โมเมนตัมของหุ้นรายตัวยังเป็นบวก
  กนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.50% ต่อปี เป็นไปตามที่ตลาดคาด ซึ่งจะเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ ทั้งนี้การตรึงอัตราดอกเบี้ยโดยยังไม่ส่งสัญญาณถึงเงินเฟ้อ ทำให้ยังไม่มีสัญญาณการปรับขึ้นของต้นทุนกลุ่มการเงินและเช่าซื้อ (Finance & Leasing) อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่หุ้นเช่าซื้อหลายตัวมีแนวโน้มรายงานกำไรเติบโตโดดเด่น ทั้งยังจะได้แรงหนุนจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นหลังการเกี่ยวข้าวช่วง ต.ค.-พ.ย. ส่งผลดีต่อ TK, S11*, ASK*, THANI*, IFS* เรายังชอบพลังงานต้นน้ำและกลุ่มปิโตรเคมี อาทิ PTT, PTTEP, IVL, IRPC, PTTGC ขณะที่หุ้นในกลุ่มที่เราไม่ได้ทำการวิเคราะห์ก็มีโอกาสที่จะรายงานผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด ไม่ว่าจะเป็น AJ*, PTL*, VNT* แม้นักลงทุนอาจเพิ่มความระวังช่วงสั้นต่อหุ้นที่มีผลประกอบการไม่แน่นอนหรือยากต่อการคาดการณ์ ทำให้ปริมาณซื้อขายรวมอาจลดลงบ้างก็ตาม แต่ไม่กระทบกับโมเมนตัมการเก็งกำไรรายตัวในหุ้นจำนวนมากซึ่งเรายังมองเป็นบวก
  Investment Theme 1) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 2) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 3) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ TMILL*, CHG*, CHOW*, MALEE, TIP*, AJ*, PTL*, VNT*, EASTW, MILL* 
  ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวในกรอบ 1705-1730 เรายังคงแนะนำเก็งกำไรเป็นในเชิงตั้งรับ (ไม่ไล่ราคา/ซื้อแนวรับ/ตั้ง stop loss) และกลยุทธ์การลงทุนเน้นเลือกหุ้นรายตัว  // หุ้นแนะนำ TK, PYLON, AMANAH, AGE
  แนวรับ : 1707-1710 / แนวต้าน : 1720-1725 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน
  โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันชะลอตัวลงเป็นวันที่ 2 หลังสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลง ตลาดจับตาการประชุม 30 พ.ย.ของกลุ่มผู้ผลิตโอเปกและพันธมิตรจะขยายระยะเวลาข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่ / ราคาโลหะร่วงทั้งกระดานหลังตัวเลขนำเข้า-ส่งออกจีนที่ชะลอตัวลงในเดือน ต.ค. / ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวไร้ทิศทาง, ราคาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นรับคาดการณ์ที่ว่าอาจมีการปรับเพิ่มประมาณการผลผลิตข้าวโพดและปรับลดการประมาณผลผลิตถั่วเหลืองในสหรัฐ / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,486 จุด (+0.61%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 98 เหรียญต่อตัน (-0.51%)
  ทิศทางการค้าโลก – การประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่ส่งเสริมระบบการค้าแบบพหุภาคีและการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจเริ่มขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ทางประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯออกเยือน 5 ประเทศเอเชียเพื่อผลักดันระบบการค้าแบบทวิภาคีภายใต้นโยบาย “American First” อาจสร้างภาพความขัดแย้งด้านนโยบายการค้าของกลุ่มประเทศหลักของโลกในระยะสั้น
โอเปกปรับเพิ่มคาดการณ์ Shale Oil สหรัฐฯ – โอเปกเปิดเผยรายงาน “World Oil Outlook” ระบุว่าการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดานของสหรัฐจะอยู่ที่ระดับ 8.25 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 5.54 ล้านบาร์เรล/วัน
ดุลการค้าจีน – สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานตัวเลขการส่งออกเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 6.9% YoY ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 17.2% YoY ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 38.3 พันล้านดอลลาร์
  ลดราคาสินค้ากระตุ้นกำลังซื้อปลายปี – กระทรวงพาณิชย์เตรียมหารือร่วมกับภาคเอกชนจัดงานมหกรรมลดราคาสินค้าทั่วประเทศเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อช่วงปลายปี โดยการประชุมจะมีขึ้นในวันที่ 13 พ.ย.นี้
  ประเด็นติดตาม: 9 พ.ย. – เงินเฟ้อจีน, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย / 3-14 พ.ย. – ทรัมป์เดินทางเยือน 5 ประเทศเอเชีย / 20 พ.ย. – สภาพัฒน์ประกาศจีดีพี 3Q60 / 30 พ.ย. – ประชุมโอเปค