คำแนะนำ
หากสามารถยืนเหนือ 1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เสี่ยงเปิดสถานะซื้อ โดยตัดขาดทุนหากหลุดแนวรับในโซน 1,263-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการเปิดสถานะขายอาจพิจารณาดูบริเวณ 1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านขึ้นไปให้ชะลอการขายออกไป
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,271 1,263 1,254
แนวต้าน 1,288 1,296 1,307
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากสื่อรายงานว่ามาตรการลดภาษีนิติบุคคลตามแผนการปฏิรูปภาษีของสหรัฐนั้นอาจถูกเลื่อนออกไป ขณะเดียวกันเริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ว่าร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของวุฒิสภาอาจจะมีความแตกต่างจากร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรเป็นอย่างมาก ล่าสุดสื่อรายงานว่าวุฒิสภาสหรัฐจะไม่เปิดเผยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในฉบับของวุฒิสภาในวันศุกร์นี้ตามกำหนดเดิม สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความวิตกในหมู่นักลงทุนว่าการผลักดันกฎหมายปฏิรูปภาษีอาจล่าช้ากว่ากำหนดซึ่งเป็นปัจจัยกดดันสกุลเงินดอลลาร์และหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นมาเคลื่อนตัวใกล้จุดสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ อย่างไรก็ดีราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยถูกสกัดช่วงบวกไว้ด้วยการปิดที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ของดัชนีดาวโจนส์ ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงวานนี้ 1.18 ตัน ขณะที่วันนี้ติดตามการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และตัวเลขสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนก.ย.เพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำทิศทางสกุลเงินดอลลาร์และทองคำ
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาขยับขึ้นแต่ก็มีแรงขายทำกำไรสลับออกมา ขณะที่ความผันผวนของราคาลดลงจากช่วงก่อนหน้า ซึ่งหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีผลให้ราคาปรับตัวลงเพื่อสร้างฐานราคาต่อและมีโอกาสเกิดแรงขายกลับลงมาอีกครั้ง โดยมีแนวรับในโซน 1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
สามารถเก็งกำไรระยะสั้นได้ โดยแนะนำให้นักลงทุนรอจังหวะเข้าซื้อ หากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสำหรับการขายให้ทยอยทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,288 หรือ 1,296 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น