สภาวะตลาดวันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,282.40-1,287.09 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,150 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,150 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ17 อยู่ที่ 20,240 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,260 บาท
  (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.33น. ของวันที่ 10/11/60)

แนวโน้มวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560
  วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน เปิดเผยข้อเสนอที่แตกต่างอย่างมากจากร่างกฎหมายที่เสนอโดยสภาผู้แทนราษฎรในหลายประเด็นที่สำคัญ โดยวุฒิสมาชิกต้องการลดอัตราภาษีนิติบุคคลในปี 2562 ซึ่งช้ากว่าของสภาผู้แทนราษฎรที่เสนอไว้ในปี 2561ขณะที่ร่างกฎหมายของทั้งสองสภาแตกต่างกันในการเรียกเก็บภาษีจากผลกำไรในต่างประเทศ ซึ่งสร้างความสับสนให้กับแผนการผลักดันการปฏิรูปกฎหมายภาษี ปัจจัยนี้ส่งผลให้ดอลลาร์เผชิญความเสี่ยงจากคำสั่งเทขายทำกำไร จนกระตุ้นแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำ ขณะที่นักลงทุนรอการโหวตร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในสัปดาห์หน้า ส่วนร่างกฎหมายจากทางด้านวุฒิสมาชิกสหรัฐขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่าจะโหวตร่างกฎหมายเมื่อใด อย่างไรก็ตามแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากจีนชะลอตัวลง เมื่อหุ้นบลูชิพของจีนบวกต่อเนื่องจนขึ้นมาเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 27 เดือน ตอบรับผลการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี่ จิ้นผิง ของจีน ซึ่งได้มีการลงนามในข้อตกลงเชิงพาณิชย์มูลค่าราว 2.5 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้จีนจะขยายการปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลลดลงสู่ 15% เพื่อให้ครอบคลุมบริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยีขั้นสูงทั่วประเทศ และรัฐบาลจีนจะเพิ่มเพดานการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศในบริษัทการเงินของจีน โดยมีจุดประสงค์เพื่อดึงดูดเงินทุนจากต่างชาติให้ไหลเข้าและเปิดเสรีภาคการเงินมากขึ้น ตั้งความหวังว่าการเติบโตของภาคบริการและภาคการบริโภคจะช่วยปรับสมดุลให้แก่รูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน แม้ว่าในระยะสั้นราคาทองคำเคลื่อนไหวในทิศทางที่ค่อยๆขยับขึ้น หากราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ มีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ แต่หากสามารถผ่านแนวต้านแรกไปได้ ราคาทองคำจะเผชิญแนวต้านถัดไปที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์

  กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,275 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่อาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,275 หรือ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์

ทองคำแท่ง (96.50%) 
แนวรับ            1,275 (19,950บาท)         1,266 (19,800บาท)             1,254 (19,600บาท)
แนวต้าน          1,293 (20,250บาท)         1,300 (20,350บาท)             1,307 (20,450บาท)             
  
GOLD FUTURES (GFZ17)
แนวรับ            1,275 (20,090บาท)         1,266 (19,950บาท)             1,254 (19,760บาท)

แนวต้าน          1,293 (20,380บาท)         1,300 (20,490บาท)             1,307 (20,600บาท)