กลยุทธ์วันนี้ >> เลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดีในช่วงอ่อนตัวและเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มค้าปลีก

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET เปิดบวกได้เล็กน้อยก่อนที่จะย้อนลงมาแกว่งตัวในแดนลบตามที่เราคาดและปิดลบถึง 13.75 จุดและเป็นระดับต่ำสุดของวันจากแรงกดดันฝั่งสหรัฐฯเกี่ยวกับการปฏิรูปภาษีที่อาจช้ากว่าคาด นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิในตลาดหุ้นหนาแน่นถึง 2,727 ลบ. ขณะที่สถาบันในประเทศขายสุทธิเช่นกันอีก 637 ลบ.
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways เนื่องจากไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้นและปัจจุบันเข้าสู่ช่วงท้ายของการประกาศผลประกอบการ 3Q17 ของบริษัทจดทะเบียน อย่างไรก็ตามเรายังมองจังหวะอ่อนตัวของตลาดเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นพื้นฐานและคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้น ขณะที่ระยะสั้นมีปัจจัยหนุนจากมาตรการช้อปช่วยชาติที่เริ่มแล้วตั้งแต่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมาซึ่งสร้างบรรยากาศเชิงบวกในการจับจ่ายใช้สอยและคาดมีแรงเก็งกำไรเข้ามาในกลุ่มค้าปลีก
  กลยุทธ์ : เลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดีในช่วงอ่อนตัวและเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มค้าปลีก 
  หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : CPALL, CPN, EKH, MINT, SYNEX
  Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$244ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$128ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$82ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเวียดนาม US$52ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคจากความกังวลต่อการล่าช้าของมาตรการปรับลดภาษีของสหรัฐ

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> RSP <<

• RSP ได้รับสิทธิเพียงรายเดียวในการขาย Converse ความสามารถในการทำกำไรโดดเด่นกว่ากลุ่มค้าปลีก โดยเฉพาะอัตรากำไรขั้นต้นที่ทำได้สูงกว่า 50% ขณะที่ การเพิ่มแบรนด์ Pony นอกจากช่วยลดความเสี่ยงแล้ว ยังช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น
• เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากมาตรการช้อปช่วยชาติ น่าจะช่วยหนุนกำไรเร่งตัวช่วงโค้งสุดท้ายของปี ส่วนแนวโน้มปี 2018-2020 คาดโตเฉี่ยสูง 17% ต่อปี
• แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2019 เท่ากับ 9.50 บาท (FSS เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ RSP)

ประเด็นสำคัญวันนี้

• (+) มาตรการช้อปช่วยชาติเริ่มแล้ว ระหว่าง 11 พ.ย. – 3 ธ.ค. 17 รวม 23 วัน ยาวนานกว่าทุกปี บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในห้างใหญ่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหนาแน่นกว่าปกติ เป็นบวกต่อกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับกำลังซื้อในประเทศ หุ้นที่ได้ประโยชน์ได้แก่ CPALL HMPRO ROBINS CPN BIG IT SYNEX MODERN MC RSC MINT CENTEL M และ AAV
• (+) BDMS กำไรปกติ 3Q17 อยู่ที่ 2,417 ลบ. +51% Q-Q, +11% Y-Y ดีกว่าคาด จาก High Season และการเติบโตของผู้บ่วยทั้งผู้ป่วนในและนอกประเทศ กอปรกับ อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวขึ้น และบริหาร SG&A ได้ดี แนวโน้มดูดีขึ้นแต่ยังต้องติดตาม Wellness Center ที่ใกล้เปิดบริการ ปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 23 บาท ปรับคำแนะนำจากถือเป็นซื้อเก็งกำไร
• (+) ROBINS กำไรสุทธิ 3Q17 อยู่ที่ 611 ลบ. (+2% Q-Q, +20% Y-Y) ทั้งที่ 3Q17 เป็น Low Season แต่กำไรกลับเพิ่มขึ้น Q-Q จากกำลังซื้อที่ฟื้นตัวและการเปิดสาขาใหม่ หักล้างกับอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเล็กน้อยจากการเคลียร์ของเก่า แนวโน้มกำไร 4Q17 จะทำจุดสูงสุดของปี เพราะเป็น High Season, มีเปิดสาขาใหม่อีก 2 แห่ง, และได้ผลดีจากช้อปช่วยชาติ เราปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 2018-2020 ขึ้น และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2018 เป็น 85 บาท จากเดิม 77 บาท แนะนำซื้อ
• (0) EA กำไรสุทธิ 3Q17 อยู่ที่ 976 ลบ. +1% Q-Q, +36% Y-Y ต่ำกว่าคาดเพราะต้นทุนและค่าใช้จ่ายมากกว่าคาด จากการเปิดโรงไฟฟ้าลมแห่งใหม่และค่ารีไฟแนนซืหนี้ระยะยาวเป็นหุ้นกู้ เราปรับกำไรปี 2017-2018 ลง 5% แต่ปีนี้ยังโตแรง 25% Y-Y และปีหน้าโต 42% Y-Y อีกทั้งยังไม่มีผลในเชิง Valuation มากนัก จึงยังคงราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 47 บาท แนะนำถือหรือซื้อเมื่ออ่อนตัว
• (0) MBAX กำไรสุทธิ 3Q17 อยู่ที่ 13 ลบ. -31% Q-Q, -40% Y-Y จาการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ทำได้ไม่ดีนัก และยังเจอราคา LDPE เร่งตัวขึ้น ผนวกกับเงินบาทที่แข็งต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ด้วย Utilization rate เร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 80% จาก 68% ใน 3Q17 อีกทั้งแรงกดดันด้านต้นทุนผ่อนคลายลง จึงคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวแรงทั้ง Q-Q และ Y-Y ใน 4Q17 ปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 6.50 บาท แนะนำซื้อ จุดเด่นยังอยู่ที่ปันผลคาดว่า 2H17 จะจ่าย 0.30 บาท/หุ้นหรือราว 6% ใน 3 เดือน

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• (0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในแดนลบเล็กน้อยจากความกังวลเรื่องแผนปฏิรูปภาษีที่อาจถูกบังคับใช้ช้ากว่าคาด และทำให้หุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีหลายตัวปรับลง
• (-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดลบเช่นกันจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ที่ออกมาน่าผิดหวัง
• (0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้แกว่งตัว Sideways ค่อนไปในแดนลบตามตลาดหุ้นสหรัฐฯและยังขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น
• (0) ค่าเงินบาทเช้านี้แกว่งตัว Sideways ในกรอบ 33.05-33.12 บาท/ดอลลาร์
• (0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 0.43 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 56.74 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯปรับตัวขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันยังแกว่งตัวในระดับสูงจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง
• ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับลง 13.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,274.20 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงเทขายอย่างหนาแน่น แต่ภาพรวมทั้งสัปดาห์ยังปรับขึ้นเล็กน้อย 0.4%