ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
สรุปแนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยเช้านี้ โบรกฯ คาดอ่อนตัวลง สู่แนวรับ 1,670 - 1,680 จุด


สู่แนวรับ 1,670 - 1,680 จุด เหตุต่างชาติยังขายต่อเนื่อง และแรงขายทำกำไรหลังบริษัทต่างๆ มีการส่งงบการเงิน ส่วนปัจจัย ตปท. ตลาดกังวลแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐอาจล่าช้าออกไป แนะWait & See เพื่อรอซื้อกลับบริเวณแนวรับ

 *ภาวะตลาดหุ้นไทย

  ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ปิด -0.81 % หรือ 13.75 จุด มาอยู่ที่ 1,689.28 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.7 หมื่นลบ. สถาบันขาย 637 ลบ. ต่างชาติขาย 2,727 ลบ. พอร์ตโบรกเกอร์ซื้อ 314 ลบ.

 *ภาวะตลาดหุ้น-น้ำมันสหรัฐ

  - ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดที่ 23,422.21 จุด ลดลง 39.73 จุด, -0.17% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,582.30 จุด ลดลง 2.32 จุด, -0.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,750.94 จุด เพิ่มขึ้น 0.89 จุด, +0.01%
  นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากมีข่าวว่าสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562 
  - สัญญาน้ำมัน WTI ธ.ค. ปิด -0.80 % อยู่ที่ 56.74 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเบเกอร์ ฮิวส์ รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐสัปดาห์ทีผ่านมาเพิ่มขึ้น 9 แท่น อยู่ที่ 738 แท่น ซี่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ มิ.ย. ปีนี้

 *มุมมองโบรกฯ เช้านี้
  บล.กรุงศรี กล่าวว่า ภาวะการลงทุนทั่วโลกรวมถึงไทยยังคงถูกปัจจัยลบจากความกังวลแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐอาจล่าช้าออกไป ซึ่งสอดคล้องกับ Vix index ที่เพิ่มขึ้นสู่ 11.3 จุดสะท้อนถึงความเสี่ยงการลงทุนที่สูงขึ้น อีกทั้งแรงกดดันจาก Fund Flow ต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.ราว 8.8 พันลบ. ซึ่งเป็นลบต่อทิศทางตลาดหุ้น ดังนั้น ประเมินว่า SET สัปดาห์นี้มีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ 1,675 - 1,680 จุด อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีสลับเด้งรีบาวด์ได้จากแรงซื้อดักงบ Q3/60 ที่กำลังทยอยประกาศ รวมถึงราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูงเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน
  บล.แอพเพิล เวลธ์ ประเมินดัชนี SET ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงสู่แนวรับ 1,670 - 1,680 จุด แนะนำ Wait & See เพื่อรอซื้อกลับบริเวณแนวรับ โดยเน้นกลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL , ROBINS และกลุ่มท่องเที่ยว เช่น AAV , ERW , MINT เมื่อราคาอ่อนตัว 
  บล.เอเอสแอล แนวโน้ม Fund Flow ยังเป็นมุมมองเชิงลบต่อเนื่อง นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิหนักระยะสั้น สถานการณ์การปรับโครงสร้างภาษีใหม่ของสหรัฐยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่การยืดเวลาการประยุกต์ใช้ออกไปเป็นปี 62 สร้างความกังวลให้กับตลาด ค่าเงินดอลลาร์ยังอ่อนค่า สอดคล้องกับบอนด์ยีลที่ดีดตัว ขณะที่นักลงทุนสถาบันซึ่งถูกคาดหมายว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนดัชนียังขายสุทธิเช่นเดียวกัน
  บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คาด SET จะแกว่งตามการรายงานผลประกอบการของหุ้นใน SET50 (คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของมูลค่าหลักทรัพย์ทั้งหมด) โดยนับจากการรายงานผลประกอบการตั้งแต่เดือนตุลาคม (กลุ่มธนาคาร) จนถึงวันศุกร์ที่ผ่านมาพบว่าหุ้นใน SET50 รายงานผลประกอบการไปแล้วประมาณ 56% ซึ่งส่วนน้อยที่รายงานผลประกอบการดีกว่าคาด ในขณะที่บางบริษัทฯ ที่รายงานผลประกอบการดี แต่ราคาหุ้นไม่ตอบรับ สาเหตุจาก ณ ปัจจุบันราคาหุ้นได้สะท้อนผลประกอบการไปบางส่วนแล้ว นั่นแสดงให้เห็นถึง Upside ที่จำ กัดของ SET ในเดือนพฤศจิกายน สำหรับวันนี้ติดตามการรายงานผลประกอบการหุ้นใหญ่อย่าง PTT, CPALL ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางดัชนี

  บล.เคทีบี คาดดัชนีฯ ผันผวนสูง กรอบการเคลื่อนไหว 1673 -1720 จุด นักลงทุนต่างประทศ ยังมีแนวโน้มชะลอการลงทุนหรือขายหุ้นหลังกฎหมายภาษีของสหรัฐฯ ยังไม่คืบหน้า และแรงขายทำกำไรหลังบริษัทต่างๆ มีการส่งงบการเงินมีเข้ามาในตลาดมากขึ้น ราคาหุ้นส่วนใหญ่ของตลาดปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มีการชิงขายทำกำไรกัน การพักฐานของตลาด ยังดำเนินต่อจนถึงสัปดาห์นี้ 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 พ.ย. 2560 เวลา : 09:48:38

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:28 am