คำแนะนำ
ยังมีลุ้นที่ราคาอาจไปทดสอบแนวต้านโซน 1,285-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,266 1,254 1,245
แนวต้าน 1,285 1,293 1,300
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยราคาฟื้นตัวขึ้นได้โดยได้รับแรงหนุนจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐ นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังมีข่าวว่าสมาชิกรัฐสภาอังกฤษ 40 ราย กำลังเตรียมเข้าชื่อยื่นถอดถอนนางเทเรซา เมย์ ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษซึ่งจะเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับกระบวนการการเจรจา BREXIT ก่อนที่อังกฤษมีกำหนดต้องแยกตัวออกจาก EU ในเดือนมี.ค.2019 อย่างไรก็ดีการปรับตัวขึ้นของราคายังอยู่ในกรอบจำกัดเพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นต่างๆทั้งการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้และความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐ ด้านกองทุน SPDR เพิ่มการถือครองทองคำ 0.30 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการอภิปรายร่วมกันของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด), ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี), ธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)และธนาคารกลางอังกฤษ(บีโออี)ที่งาน Central Bank Communications Conference ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี อีกทั้งต้องติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,285-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากครั้งที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,285-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอเข้าซื้อเก็งกำไรจากการดีดตัวขึ้นหากการอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือโซน 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น