ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน SET ปรับตัวขึ้นเด่น (15/11/60)


 Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นเด่น โดยมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มค้าปลีกนำโดย CPALL, BEAUTY, ROBINS และ COM7  ในขณะที่หุ้นกลุ่มนิคมและรถยนต์กลับมามีแรงเก็งกำไรอีกครั้ง เช่น AMATA, WHA, SAT และ AH ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่  1,702.6 จุด (+15.5 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.0 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 5.2 หมื่นลบ. 
  นักลงทุนชาติยังคงขายหุ้นไทยต่อเนื่องที่ 1,241 ลบ. และกลับมา Short สุทธิ SET50  Index Future อีกครั้งกว่า 6,910 สัญญา (19 วันทำการที่ผ่านมา นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิตลาดหุ้นไทยสูงกว่า 2.5 หมื่นลบ.)

Investment theme
  ผลประกอบการกลุ่มค้าปลีกเด่นสุด / ไตรมาส 4 ได้ Senitment บวกจาก 3 ปัจจัย  : กลุ่มค้าปลีก ( รวม Retail property ) ส่วนใหญ่รายงานกำไรเติบโตสูงกว่าคาด นำโดย HMPRO, ROBINS, BEAUTY, CPN, PLAT, SF และ CPALL เป็นผลมาจากรายได้เฉลี่ยต่อสาขา (%SSSG) ที่ฟื้นจากติดลบกลับมาเป็นบวก ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (%GPM) เติบโต  อีกทั้งเรามองว่ากลุ่มค้าปลีกยังจะ outperform ตลาดต่อเนื่องถึงไตรมาส 4 จากทั้ง Seasonal  effect และได้ประโยชน์ทางอ้อมจาก 2 นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐได้แก่ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐและมาตราการช็อปช่วยชาติที่เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่ 11 พ.ย. – 3 ธ.ค. โดยคาดทั้ง 2 มาตราการดังกล่าวจะก่อให้เกิดเงินสะพัดในระบบมากกว่า 1.5-2.0 หมื่นล้านบาท อีกทั้งช่วงไตรมาสสี่นี้ เป็นช่วงที่ครบกำหนด 5 ปีของโครงการรถยนต์คันแรก ซึ่งทำให้ผู้ที่ใช้สิทธิ์บางส่วนหมดภาระผ่อนรายเดือน (เฉลี่ยสูงกว่า 8.0 หมื่น -1.0 แสนบาท/คน/ปี) ส่งผลให้กำลังซื้อบางส่วนของคนในประเทศเพิ่มขึ้น และจากเหตุผลที่เราได้กล่าวมา ทำให้เรามองว่ากลุ่มค้าปลีกน่าจะยังมี momentum ที่ดีต่อเนื่องถึงช่วงปลายปี 
  Investment theme: เราแนะนำนักลงทุนทยอยขายทำกำไรหุ้นบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่น, โรงไฟฟ้า ในขณะที่หลีกเลี่ยงการลงทุนกลุ่ม ICT โดยเราคาด SET จะแกว่งตัวบริเวณ 1,680-1,720 จุด 

Big issue 
  เมื่อคืนที่ผ่านมา  ยุโรปรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 เท่ากับที่ตลาดคาดการณ์ที่ 2.5%YoY และรายงานตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกันยายนสูงกว่าคาดที่ 3.3% / Brent ปรับลดลง 1.5% ที่ 62.2 บาร์เรล / ญี่ปุ่นรายงาน GDP ไตรมาส 3 สูงกว่าคาดที่ 1.4% / สหรัฐรายงานตัวเลข Core PPI ดีกว่าคาดที่ 2.4%YoY 
  บทวิเคราะห์วันนี้ :  BJC , SPALI, CK ดีกว่าคาด, CBG ต่ำกว่าคาด

Stock pick : BJC
BJC : ทยอยสะสม ราคาเป้าหมาย 59.00 บาท /หุ้น
  บริษัทฯ รายงานกำไรไตรมาส 3 เติบโต 39%QoQ, -14%YoY ที่ 1,387 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด แต่หากไม่นับกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยนใน 3Q59 พบว่า กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นถึง 163%YoY, +39%QoQ เป็นผลจากธุรกิจอุปโภคบริโภค (ขนม,ทิชชู่) เติบโต ในขณะที่ BIGC มีกำไรเติบโต 21% เป็นผลจากยอดขายเฉลี่ยต่อสาขา เพิ่มขึ้นเป็น 9.2% (จาก -22.6% ใน 3Q59, -15.2% ใน 2Q60) นอกจากนั้น ดอกเบี้ยจ่ายลดลง 36%YoY 
  แนวโน้มผลประกอบการ 4Q ดีต่อเนื่อง QoQ จาก seasonal และยอดขายจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์  ในขณะที่ราคาหุ้น 2 เดือนที่ผ่านมา Laggard กลุ่มอยู่สูงกว่า 10% แนะนำ ทยอยสะสม BJC ที่ราคา 59.00 บาท
  Trading idea – – Stock pick สัปดาห์นี้ (BDMS, WICE, SPALI) / CK รายงานกำไรเด่นสุดในกลุ่ม แนะเก็งกำไร

Technical View 
  Rebound แรงที่แนวรับสำคัญ:  ภายหลังหยุดลงด้วยแท่งเทียน Hammer ที่แนวรับสำคัญ วันนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อ เพื่อคอนเฟิร์ม ประกอบกับ Slow Stohchastic ที่เริ่มตัดขึ้นจากเขต Oversold ทำให้คาดว่า ระยะสั้นดัชนีจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง มองแนวต้านถัดไปที่ 1710 (เส้น Downtrend Line) และ 1720 ตามลำดับ โดยจังหวะอ่อนตัวระหว่างวัน ยังมองเป็นโอกาสสะสมหุ้น กลยุทธ์การลงุทุน  (1)  มีหุ้น: ถือหุ้นต่อ และรอขายทำกำไรตามแนวต้านเป็นระยะๆ  (2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวระหว่างวัน ทอยอสะสมหุ้นตามแนวรับ
แนวรับ : 1700, 1695  แนวต้าน : 1710, 1720

Eyes on 
  ปัจจัยต่างประเทศ :  สหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อคืนนี้ 
  ปัจจัยในประเทศ :  จับตาการปรับครม. /  Motor expo เริ่ม 30 พ.ย.นี้

หุ้นเทคนิค:
  PTT (B 414.00, Tp 424.00, Cut 410.00)
  PTTGC (B 79.00, Tp 82.00, Cut 78.00)


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 15 พ.ย. 2560 เวลา : 09:56:11

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 4:15 pm