สภาวะตลาดวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,279.31-1,284.43 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ17 อยู่ที่ 20,180 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,080 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.46น. ของวันที่ 15/11/60)
แนวโน้มวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560
เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง โดยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม, การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และยอดค้าปลีกออกมาต่ำกว่าคาด โดยรัฐบาลได้ขยายมาตรการจัดการกับความเสี่ยงจากหนี้ และมลภาวะจากภาคโรงงาน สถานการณ์ดังกล่าวกดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและกระตุ้นแรงซื้อทองคำเพิ่มเติม ส่งผลให้หุ้นบลูชิพของจีนร่วงลงอย่างมากและตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน จากหุ้นกลุ่มทรัพยากรดิ่งลงท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนชะลอตัวลง ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์ ตามการปรับตัวลงของดัชนีหุ้นหลักทั้งสามตัวในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบดิ่งลงรุนแรงที่สุดในรอบ1 เดือน โดยสำนักงานพลังงานสากลคาดว่าการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐจะเพิ่มขึ้น และเป็นแนวโน้มที่ซบเซาสำหรับการขยายตัวของอุปสงค์ทั่วโลก จนดัชนี S&P หุ้นกลุ่มพลังงานร่วง 1.5% มากที่สุดในรอบกว่า 4 เดือน อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ เนื่องจากบรรดานักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าของแผนการปฏิรูปภาษีของสหรัฐ เพราะหากมาตรการปฏิรูปภาษีสหรัฐผ่านสภาคองเกรสก่อนคริสต์มาส ปัจจัยนี้ก็จะช่วยหนุนดอลลาร์ จนสร้างแรงขายกลับมายังตลาดทองคำได้ อย่างไรก็ดีในช่วงนี้นักลงทุนมองว่าการอนุมัติกฎหมายภาษีอาจจะถูกเลื่อนออกไปจนถึงต้นปีหน้า และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงและพยุงราคาทองคำไว้ ประกอบกับสกุลเงินยูโรยังคงเคลื่อนตัวอยู่ใกล้จุดสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ครึ่ง โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจเยอรมนีที่สดใส เป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำเพิ่มเติม เบื้องต้นหากราคาทองคำยืนเหนือแนวรับ 1,271-1,266 ดอลลาร์ต่อได้ อาจเกิดการดีดตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณต้าน โดยเน้นกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นและทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านโซน 1,285-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคาทองคำอาจมีการปรับตัวลดลงต่อ โดยความผันผวนของราคาและการแกว่งตัวของราคายังคงคล้ายกับช่วงที่ผ่านมา ให้เน้นไปที่การลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,271-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,254-1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือแนวต้านแรกได้ราคาก็พร้อมขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,293-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามหากราคาหลุดแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แสดงว่าราคาทองคำอาจจะมีการปรับฐานต่อ โดยราคาอาจปรับตัวลดลงทดสอบแนวรับถัดไปบริเวณ 1,254-1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,266 (19,750บาท) 1,254 (19,550บาท) 1,245 (19,400บาท)
แนวต้าน 1,285 (20,100บาท) 1,293 (20,200บาท) 1,300 (20,300บาท)
GOLD FUTURES (GFZ17)
แนวรับ 1,266 (19,900บาท) 1,254 (19,710บาท) 1,245 (19,570บาท)
แนวต้าน 1,285 (20,200บาท) 1,293 (20,330บาท) 1,300 (20,440บาท)
ข่าวเด่น