คำแนะนำ
ราคาอาจมีกำลังซื้อที่ไม่มากนักในโซนราคา 1,289-1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากราคาปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องและยังไม่สามารถขึ้นไปยืนได้อย่างแข็งแกร่ง ดังนั้นการลงทุนในช่วงนี้ควรเน้นรอจังหวะอ่อนตัวมากกว่าการไล่ซื้อ
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,271 1,260 1,251
แนวต้าน 1,293 1,300 1,307
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 2.22 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยในช่วงต้นราคาทองคำพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,289.09 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวันจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการผลักดันมาตรการปรับลดภาษีสหรัฐที่มีแนวโน้มเผชิญกับอุปสรรคต่อเนื่อง หลังวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันเชื่อมโยงแผนปฏิรูปภาษีเข้ากับการยกเลิกเนื้อหาสำคัญในโอบามาแคร์ นอกจากนี้ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐตามหุ้นกลุ่มพลังงาน ก่อนที่สกุลเงินดอลลาร์จะฟื้นตัวขึ้นเวลาในต่อมา หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ขยับขึ้น 0.1%ในเดือนต.ค.สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ ส่วนยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเกินคาดเช่นกัน ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งช่วยหนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้ลดช่วงติดลบลงและกดดันให้ราคาทองคำกลับมาปิดตลาดในแดนลบ ขณะที่วันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และตัวเลขในภาคการผลิต
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้ว ทำให้มีแนวโน้มดันราคาขึ้น อย่างไรก็ตามในโซน 1,289-1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไป ต้องระวังแรงขายทำกำไรที่จะออกมา สำหรับวันนี้ประเมินแนวรับที่ 1,271-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
อาจเก็งกำไรในกรอบเช่นเดิม โดยรอการอ่อนตัวลงเพื่อเปิดสถานะซื้อในโซนใกล้ 1,271-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดอาจชะลอการลงทุนเพื่อรอดูการตั้งฐานของราคาทองคำ ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นไม่สามารถผ่าน 1,289-1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์แนะนำให้ปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไร
ข่าวเด่น