“Tourism Play” 

CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Up” ต้าน 1701/1705จุด รับ 1684/1680จุด สส.สหรัฐฯมีมติรับร่างกฏหมายปฏิรูปภาษี ผสานตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมเติบโตดีกว่าคาดที่ 0.9% หนุนตลาดดาวโจนส์และตลาดโลกฟื้น ผสานแรงหนุนในประเทศ ล่าสุดรมว.คมนาคมเตรียมเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-ญี่ปุ่นวงเงิน 2.76แสนลบ. และรองนายกฯธนศักดิ์เตรียมหารือกระตุ้นท่องเที่ยวปี2018 กระตุ้นเศรษฐกิจไทยเติบโตเด่น หนุนตลาดฟื้นตัวได้ วันนี้แนะนำ “TOURISM Play ”  : ERW, MINT, JUBILE  

Nomura : Key Factors

• (+) US: สส.สหรัฐฯมีมติรับร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 227 ต่อ 205
• (+) US: ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ปรับตัวขึ้น 0.9% มากกว่าคาดที่ 0.5%
• (+) TH: ผู้ว่าธปท.ที่มองว่าเศรษฐกิจไทยปี 2018 จะเติบโตกว่า 3.8%
• (+) TH: รมว.คมนาคมเตรียมเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-ญี่ปุ่นวงเงิน 2.76แสนลบ.
• (+) TH: พล.อ.ธนะศักดิ์เตรียมหารือใช้มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรองทั้งปี2018
• (*) Fund Flow: ล่าสุดขายหุ้น -1856ลบ.,Long Future +4486สัญญา,ซื้อBond+2460ลบ.
• (-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -0.34% สู่ $55.14/bbl / BRT -0.82% สู่ $61.36/bbl

Nomura Daily Top Picks: ERW, MINT, JUBILE  

Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Up” แนวต้าน 1701/1705จุด แนวรับ 1684/1680จุด สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯมีมติรับร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันด้วยคะแนนเสียง 227 ต่อ 205 ซึ่งมีเนื้อหาที่จะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ 20% จาก 35% และการลดจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก7ขั้น เหลือ 12%, 25%, 35% และ 39.6% โดยกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งให้กับวุฒิสภาเพื่อทำการพิจารณาเป็นลำดับถัดไปในสัปดาห์หน้า ประกอบกับการรายงานดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนตค. ปรับตัวขึ้น 0.9% มากกว่าคาดที่ 0.5% ซึ่งความคืบหน้าของแผนปฏิรูปภาษี และตัวเลขการผลิตของสหรัฐฯที่ดีกว่าคาด หนุนตลาดดาวโจนส์และตลาดโลกฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ตามความคืบหน้าของ Tax Reform ยังไม่เป็นจุดเปลี่ยนของค่าเงิน หลังค่าเงินเอเชียแข็งค่าเฉลี่ย  0.2% โดยค่าเงินบาทแข็งค่าสู่ 32.85 บาทต่อเหรียญฯ เป็นจิตวิทยาบวกต่อ SET นอกจากนี้ แรงหนุนจากในประเทศยังคงมีต่อเนื่อง โดยล่าสุด รมว.คมนาคม เตรียมเสนอครม.อนุมัติโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-ญี่ปุ่น เส้นทาง "กทม.-เชียงใหม่" วงเงินกว่า 2.76แสนลบ. ผสานพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีเตรียมหารือกับกระทรวงการคลังในการใช้มาตรการภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยวในเมืองรองตลอดทั้งปี2018 ซึ่งความคืบหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ผสานมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว ที่จะนำพาไปสู่การบริโภคที่เพิ่มขึ้น จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง สอดคล้องกับมุมมองของผู้ว่าธปท.ที่มองว่าเศรษฐกิจไทยปี 2018 จะเติบโตกว่า 3.8% แรงหนุนจากภาคการส่งออก การลงทุนจากภาครัฐฯและเอกชน รวมถึงการบริโภคที่ฟื้นตัว เป็นปัจจัยที่เพิ่มความเชื่อมั่นนักลงทุน หนุนตลาดหุ้นไทยฟื้นได้ วันนี้แนะนำเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยเป็น 70% จากเดิม 60%

Asset allocation : เพิ่มหุ้นเป็น 70% และเงินสดเหลือ 12.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%

Daily Strategy :  กลยุทธ์ยังแนะนำ ลดน้ำหนักกลุ่มโรงกลั่น(ค่าการกลั่นลงทรงๆ 7.01เหรียญฯต่อบาร์เรลวันนี้ vs 3Q17 เฉลี่ย 8.26เหรียญฯ) และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์(ค่าเงินบาทแข็งกดดัน) ไปกลุ่มปิโตรเลียมขั้นต้น (PTTEP, BANPU, PTT) ปิโตรเคมี(IVL, IRPC, PTTGC) และธนาคาร(KBANK, BBL, TMB) ผสาน 7 Theme เด่น ที่ถือต่อหรือย่อสะสม ได้แก่

1.   Tourism & Season laggard  Play : รัฐบาลเตรียมหนุนการท่องเที่ยวจังหวัดรอง บวกต่อ ERW(TP9) ผสาน  MINT และ BDMS
2.   Oil Play : คาดราคาน้ำมันเข้าสู่จุด Rebound ในแนวโน้มขาขึ้นวันนี้ แนะนำ PTT(มีแผนขายหุ้น SPRC 15.65-16.00บาท คาดกำไรเบื้องต้น 2พันล้านบาทเป็นปัจจัยบวก), PTTEP
3.   Domestic Play : เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณฟื้นตัว และผลประกอบการหุ้น Domestic 3Q17 ฟื้นตัว : KBANK, BBL, TMB, CK, BLAND, SIRI, AMATA, NYT
4.   Consumer Play : รัฐบาลเตรียมกระตุ้นรากหญ้าเพิ่มเติม วงเงิน 2แสนล้านบาท ROBINS, CPALL, HMPRO,  FN, S11, TK, KAMART, JUBILE, PM
5.   CNS Upgrade : ERW(9), IVL(TP61), SAWAD(TP82), TK(TP22.2), BCH(TP17.7), MONO(TP5.6)
6.   MSCI Play : เพิ่มน้ำหนัก KBANK, SCB, IVL, PTTGC, TOP และถอดหุ้น -BEC
7.   หุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 รอบนี้มี 3 บริษัท คือ SAWAD, TPIPP, CENTEL คาดว่าจะหลุด SET50 คือ SCCC, TPIPL, PSH ส่วนหุ้นที่คาดจะเข้า SET100 รอบนี้มี 11 บริษัท คือ TPIPP, JAS, ESSO, HANA, ORI, WHAUP, UV, PSL, STA, GGC, JMART และคาดจะหลุดคือ คือ SCCC, VGI, LHBANK, S, PLANB, THANI, TVO, MALEE, BIG, PTL, STPI กลยุทธ์ SET50/100 แนะนำ SAWAD, TPIPP, CENTEL/WHAUP, UV

Investment Theme:
4Q17F : Domestic Recovery: KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL, MINT, SCC
1) Consumer Recovery : KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL
2) Seasonal & Laggard : MINT
3) Infrastructure spending begins & High Yield : SCC

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :

ERW (TP18F 9*):  Support 7.15/7.0 Resistant 7.85/8.0

• Theme :  Earnings Play
• Earnings outlook : คาดกําไร 4Q17F จะโตเด่น รวมถึงในช่วง 2017 – 19F ยังโตต่อเนื่อง +28% CAGR ประกอบกับ ERW ยังขยายธุรกิจ ต่อเนื่อง โดยมี model Hop Inn ที่ประสบความสําเร็จมาก ซึ่งเราคาดจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยผลักดันการเติบโตของ ERW ในอนาคต
• Valuation :  ราคาซื้อขาย PER17F 26.2 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มฯ 29.4 เท่า และค่าเฉลี่ยอดีต 37.5  เท่า ในขณะมีการเติบโตสูงสุดในกลุ่มที่ 20.6% y-y vs กลุ่ม 13.6% y-y
• Catalyst : เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2017-19F ขึ้น 3-7% และราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9 บาท

MINT (TP18F 50*): Support: 42.25/41.25 Resistant: 44.0/45.25

• Theme : Seasonal & Laggard
• Earnings outlook : คาดกำไรปกติ 2017F จะกลับมาเติบโต 15%  จากการบริโภคและการท่องเที่ยวฟื้นตัว หนุนทุกธุรกิจที่กระจายความเสี่ยงที่ดี ทั้งโรงแรม, ร้านอาหารและ AVC ต่อเนื่องในปี 2018F อีก +16%y-y
• Valuation : ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมา 5% มองเป็นจุดซื้อกลับ โดย Valuation ซื้อขายที่ PER18F ระดับ 31.1x เท่า และยังเหมาะสมจากการเป็นผู้นำในกลุ่มฯที่มีรายได้กระจายตัวที่สุด Upside 16%
• Catalyst : เข้าสู่ช่วง High Season ของกลุ่มโรงแรม + ธุรกิจอาหารได้อานิสงส์จากช็อปช่วยชาติ คาด Earning Momentum เติบโตเด่นต่อเนื่องถึง 4Q17F จากแรงหนุนธุรกิจโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ

JUBILE (TP18F 29.5*) :  Support 23.2/22.4  Resistant 24.5/24.9

• Theme : Consumer Play
• Earnings Outlook :  แนวโน้มการฟื้นตัวยังมี Momentum ที่ดี โดยคาดกำไร 4Q17F จะเพิ่มขึ้นทั้ง y-y, q-q จาก SSSG คาดเพิ่ม 10% และอัตรากำไรอยู่ในระดับสูง และฟื้นตัวต่อเนื่อง +13% ในปี 2018F โดยมีจุดเด่นที่  แบรนด์ที่สร้างมายาวนาน จนมีสาขามากสุดในประเทศ และมีจุดเปลี่ยนทั้งเพิ่มแบรนด์ Forevermark ช่วยหนุนการเติบโตและเพิ่มฐานลูกค้าต่างชาติ และกลยุทธ์การทำการตลาดเฉพาะกลุ่มผ่าน Big data ที่มีในมือ
• Valuation : ราคาที่ปรับขึ้นมาแล้ว ตามแนวโน้มกำไรที่กลับมาเด่น โดยยังมี Valuation ที่ดี ซื้อขาย PER 2018F 21 เท่า ยังต่ำกว่ากลุ่มค้าปลีกซึ่งสูง 30 เท่า และยัง Laggard กลุ่มจิวเวลรีในต่างประเทศ ที่ราคาปรับขึ้นมามากในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว
• Catalyst : มองกลุ่มค้าปลีกจะนำตลาดได้ในช่วงปลายปี +  SSSG ผู้ประกอบการรายใหญ่ 3Q17 เริ่มฟื้นตัวและคงดีต่อเนื่องใน 4Q17

Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)