คำแนะนำ
เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,281 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และทยอยปิดสถานะทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,300ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,281 1,274 1,266
แนวต้าน 1,300 1,307 1,319
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.93 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังนักลงทุนไม่แน่ใจว่าพรรครีพับลิกันจะสามารถผลักดันร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีในชั้นของวุฒิสภาได้หรือไม่ เนื่องจากสมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนในวุฒิสภาออกมาแสดงจุดยืนคัดค้านแผนภาษีดังกล่าว นอกจากนี้การที่นายโรเบิร์ต มึลเลอร์ ที่ปรึกษาพิเศษของสหรัฐได้ขออำนาจศาลในการร้องขอเอกสารเพิ่มเติมจากทีมหาเสียงของปธน.ทรัมป์เพื่อสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่าทีมสอบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2016 เป็นอีกปัจจัยที่กดดันสกุลเงินดอลลาร์ ประกอบกับดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 100.12 จุดจากความวิตกเกี่ยวกับการผลักดันร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นแรงซื้อทองคำส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนในวันศุกร์และปิดระดับสัปดาห์ด้วยการพุ่งขึ้น 1.3% ซึ่งนับว่ามากสุดนับตั้งแต่กลางเดือนต.ค. ขณะที่วันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือน จาก Conference Board เพื่อเป็นปัจจัยชี้นำทิศทางราคาทองคำในระยะสั้น
ปัจจัยทางเทคนิค
แม้ว่าราคาจะสร้างระดับต่ำสูงสุดใหม่จากวันก่อนหน้าได้ แต่การเคลื่อนไหวของราคาทองคำมีลักษณะแกว่งในกรอบที่ค่อยๆขยับขึ้น และหากการอ่อนตัวลงค่อนข้างจำกัดจะแสดงถึงแรงขายในระยะสั้นที่มีไม่มาก ทั้งนี้ ทำให้ประเมินแนวรับระยะสั้นนั้นอยู่ในบริเวณ 1,281ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดยังคงมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เน้นการลงทุนระยะสั้นโดยเปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,281ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,274 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจทยอยแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,300ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านได้สามารถถือต่อ
ข่าวเด่น