สภาวะตลาดวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,276.69-1,281.23 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,050 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ17 อยู่ที่ 19,990 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,140 บาท

  (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.12 น. ของวันที่ 21/11/60)

แนวโน้มวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560
  พรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) ของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ประสบกับความล้มเหลวในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม 3 ฝ่ายซึ่งประกอบไปด้วยพรรคอนุรักษ์นิยม (CDU/CSU), พรรค FDP และพรรคกรีน (Green Party) ภายใต้กรอบความร่วมมือใหม่ที่มีชื่อว่า "กรอบความร่วมมือจาไมก้า"(Jamaica Coalition) ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าอาจต้องมีการยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ตามกฎหมายของเยอรมนี  ล่าสุดนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ออกมาประกาศความพร้อมในการเป็นผู้นำพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) เพื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหากมีการเลือกตั้งใหม่  สถานการณ์ความไม่แน่นอนดังกล่าวกดดันสกุลเงินยูโรให้ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ และส่งผลในเชิงลบต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐยังคงช่วยพยุงราคาทองคำเอาไว้  หลังนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ในโพลล์รอยเตอร์คาดว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันจะไม่สามารถผลักดันมาตรการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ให้ผ่านสภาคองเกรสได้ในปีนี้ได้ โดยวุฒิสภามีกำหนดจะลงมติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีหลังจากช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าในวันที่ 23 พ.ย. ส่งผลให้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบเพื่อรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว  เบื้องต้นแนะนำนักลงทุนจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. เพื่อใช้ประเมินแนวทางการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดในระยะถัดๆไป ทั้งนี้ หากมีรายละเอียดที่ตลาดยังไม่รับรู้และหากสิ่งที่ตลาดตีความส่งผลต่อการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด จะเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวนได้ วายแอลจีอยากชี้ให้เห็นว่า ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เพราะประเด็นข่าวเหล่านี้มักจะชี้นำราคาทองคำ

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอเข้าเสี่ยงซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,274 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัว โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวผันผวนเพิ่มขึ้น โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,290-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับ

ทองคำแท่ง (96.50%) 
แนวรับ            1,274 (19,750บาท)         1,266 (19,600บาท)             1,254 (19,450บาท)
แนวต้าน          1,290 (20,000บาท)         1,300 (20,200บาท)             1,307 (20,300บาท)             
  
GOLD FUTURES (GFZ17)
แนวรับ            1,274 (19,890บาท)         1,266 (19,760บาท)             1,254 (19,570บาท)
แนวต้าน          1,290 (20,140บาท)         1,300 (20,300บาท)             1,307 (20,410บาท)