สภาวะตลาดวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,278.80-1,285.76 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,950 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,900 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ17 อยู่ที่ 20,000 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,960 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.03 น. ของวันที่ 22/11/60)
แนวโน้มวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560
ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดอีกครั้งในคืนวันอังคาร ทางด้านตลาดหุ้นเอเชียพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 10 ปีในช่วงเช้าวันพุธ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวแข็งแกร่ง และกำไรภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นดึงนักลงทุนกลับเข้ามาซื้อหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง โดยดัชนีนิกเกอิของตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับขึ้นเข้าใกล้จุดสูงสุดในรอบ 26 ปี และตลาดหุ้นฮ่องกงปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 30,000 เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ท่ามกลางสัญญาณที่แสดงว่า นักลงทุนจีนกำลังซื้อหุ้นฮ่องกงมากขึ้น ขณะที่หุ้นบลูชิพจีนปิดเพิ่มขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน การปรับตัวขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงส่งผลให้ทองคำถูกลดความน่าสนใจลง ส่งผลให้ราคาทองคำขยับขึ้นค่อนข้างจำกัด ประกอบกับการร่วงลงของยูโรมีส่วนช่วยหนุนดอลลาร์ให้พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินหลายสกุล โดยยูโรดิ่งลงในช่วงต้นสัปดาห์นี้ หลังจากนางแองเจลา เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประสบความล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาลผสมสามฝ่าย ด้านผลสำรวจความเห็นชาวเยอรมันที่ออกมา โดย INSA เป็นผู้จัดจัดทำโพลล์นี้ให้กับหนังสือพิมพ์บิลด์ ระบุว่า ผู้ตอบโพลล์ 49.9% สนับสนุนให้จัดการเลือกตั้งอีกครั้ง ทั้งนี้ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบ เพราะนักลงทุนปรับสถานะการลงทุนก่อนวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งมักจะเป็นช่วงที่ปริมาณการซื้อเบาบางต่อเนื่องด้วยเทศกาล Black Friday ขณะที่การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะสั้น จะถูกชี้นำจากกระแสข่าวที่เข้ามากระทบ เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำมีโอกาสค่อยๆขยับขึ้น แต่หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านระดับ 1,290 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ ราคาทองคำมีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับโซน 1,274 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านแนวต้านแรกได้ ประเมินแนวต้านถัดไปในโซนเดิมคือ 1,300-1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้น โดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,274 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรก ซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,290 หรือ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,274 (19,700บาท) 1,266 (19,550บาท) 1,254 (19,400บาท)
แนวต้าน 1,290 (19,950บาท) 1,300 (20,150บาท) 1,307 (20,250บาท)
GOLD FUTURES (GFZ17)
แนวรับ 1,274 (19,830บาท) 1,266 (19,700บาท) 1,254 (19,520บาท)
แนวต้าน 1,290 (20,080บาท) 1,300 (20,240บาท) 1,307 (20,350บาท)
ข่าวเด่น