“Tourism Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway” ต้าน 1715/1718จุด รับ 1701/1695จุด ความกังวล Financial System ในจีน กดดันตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงกว่า -2.29% และนักลงทุนเริ่มขายพันธบัตรออกมา ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของ Corporate Bond ในจีนแกว่งขึ้น +0.33% แต่ค่าเงินหยวนยังคงแข็งค่า บ่งชี้ว่าความกังวลดังกล่าวยังเป็นเพียงปัจจัยระยะสั้น ขณะที่ PMI Manufacturing ยูโรโซนปรับตัวขึ้น 60.0จุด หนุนสินทรัพย์เสี่ยงโลก ผสานยอดส่งออกข้าวไทย 11เดือนทะลุเป้า สะท้อนภาพพื้นฐานไทยยังแข็งแรง วันนี้แนะนำ “Tourism Play” : ERW, MINT & PTTEP
Nomura : Key Factors
- (-) CH: ความกังวลเรื่อง Financial System จีน หนุนให้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงกว่า -2.29%
- (-) CH: นักลงทุนเริ่มกระชับพอร์ทพันธบัตร หนุน Bond Yield +0.33%
- (+) Currency: ค่าเงินหยวนและเอเชียยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงเอเชีย
- (+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +0.0% สู่ $58.02/bbl / BRT +0.36% สู่ $63.55/bbl
- (+) EU: Markit PMI Manufacturing เดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้นแตะ 60.0 สูงสุดในรอบ 17 ปี
- (+) TH: รมว.พาณิชย์เผย 11เดือนแรก ไทยส่งออกข้าวแล้ว 10.2ล้านตัน ทะลุเป้า
- (*) Fund Flow: ล่าสุดซื้อหุ้น -454ลบ.,Long Future +2,407สัญญา,ซื้อBond+4,039ลบ.
- Opp Day: COL, MEGA, TRT, CPN, BAFS, PYLON
Nomura Daily Top Picks: ERW, MINT, PTTEP
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway” แนวต้าน 1715/1718จุด แนวรับ 1701/1695จุด ตลาดโลกจับตาความผันผวนของตลาดหุ้นจีน หลังปรับตัวลงแรงกว่า 2.29% จากความกังวลในเรื่องของ Financial System ภายใน ส่งผลให้เกิดการกระชับพอร์ทในตลาดพันธบัตรจีน หนุนอัตราผลตอบแทนของ Corporate Bond จีนปรับตัวขึ้นกว่า 0.33% แต่อย่างไรก็ดี ค่าเงินหยวนยังคงแข็งค่า อาจบ่งชี้ได้ว่าความผันผวนดังกล่าวเป็นความกังวลระยะสั้นเท่านัน ขณะที่ทางฝั่งของยูโรโซน ดัชนี Markit Eurozone PMI Manufacturing เดือนพย.ปรับตัวขึ้นแตะ 60.0 ดีกว่าคาดที่ 58.2 บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจยูโรโซน หนุนสินทรัพย์เสี่ยงโลกมีความน่าสนใจ ประกอบกับแรงหนุนจากภายในประเทศที่ยังคงแข็งแกร่ง รมว.พาณิชย์เผย 11เดือนแรก ไทยส่งออกข้าวแล้ว 10.2ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5แสนล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่เกินเป้าหมายที่วางไว้ เป็นตัวหนุนรายได้เกษตรฟื้น กระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในระบบมากขึ้น ซึ่งเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวดี กระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุนต่อเนื่อง หนุนค่าเงินบาทแข็งค่าสู่ 32.68 บาท/เหรียญ เป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทย
Asset allocation : ถือหุ้น 70% และเงินสด 12.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : กลยุทธ์เน้นกลุ่ม ปิโตรเลียมขั้นต้น (PTTEP, PTT, BANPU) ปิโตรเคมี(IVL, IRPC, PTTGC) และธนาคาร(KBANK, BBL, TMB) ผสาน 8 Theme เด่น ได้แก่
Tourism & Seasonal laggard Play : รัฐบาลเตรียมหนุนการท่องเที่ยวจังหวัดรอง บวกกับ นักท่องเที่ยวเดือน ตค 2017 เพิ่มขึ้น 21%y-y หนุน ERW, MINT และ BDMS
กลยุทธ์ Pair Trade แนะนำ Short หุ้นเสียประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าไว คือ SBL/Short KCE ไป ซื้อ/Long THAI ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าเทียบ Euro และ Seasonal ล่าสุด THAI/KCE มี Ratio ที่ 0.20X รอปิดทำกำไร 0.22-0.23X
Oil Play : ราคาน้ำมันยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แนะนำ PTTEP(รื้อแผนลงทุน 5 แหล่งในต่างประเทศที่มีความเสี่ยง และกลับมา focus ที่อาเซียนซึ่งบริษัทชำนาญกว่า), PTT
Stimulus Paly : รัฐเตรียมคลอดมาตรการช่วยผู้มีรายได้น้อยเฟส 2 ธ.ค. เน้นฝึกทักษะ เพิ่มความสามารถระยะยาว (+GLOBAL, HMPRO) และศึกษาแผนปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ แก่กลุ่ม SMEs มูลค่า 7.8 หมื่นลบ. (+TK, S11)
Consumer Play คาด Small Cap Outperform และเป็นเป้าของกองทุน Mid-Small Cap Funds แนะนำ MM(TP6.5), FN(TP7) , KAMART, JUBILE, PM ส่วน Big Cap. ROBINS, CPALL, HMPRO แนะนำถือลงทุน
Domestic Play : รับเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว BBL, TMB, CK, BLAND, SIRI, NYT
MSCI Play : เพิ่มน้ำหนัก KBANK, SCB, IVL, PTTGC, TOP และถอดหุ้น -BEC
กลยุทธ์ SET50/100 แนะนำ SAWAD, TPIPP, CENTEL/WHAUP, UV
Investment Theme:
4Q17F : Domestic Recovery: KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL, MINT, SCC
1) Consumer Recovery : KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL
2) Seasonal & Laggard : MINT
3) Infrastructure spending begins & High Yield : SCC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
ERW (TP18F 9.0*): Support 7.8/7.4 Resistant 8.4/9.0
- Theme : Earnings Play
- Earnings outlook : คาดกําไร 4Q17F จะโตเด่น รวมถึงในช่วง 2017 – 19F ยังโตต่อเนื่อง +28% CAGR ประกอบกับ ERW ยังขยายธุรกิจ ต่อเนื่อง โดยมี model Hop Inn ที่ประสบความสําเร็จมาก ซึ่งเราคาดจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยผลักดันการเติบโตของ ERW ในอนาคต
- Valuation : ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2017-19F ขึ้น 3-7% และราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9 บาท จากราคาซื้อขาย PER18F 27.8x เท่า ต่ำกว่ากลุ่มฯ 31.4 เท่า และค่าเฉลี่ยอดีต 37.5 เท่า ในขณะที่ฐานกำไร 18F เติบโตต่อเนื่อง +16% y-y vs กลุ่ม 13.6% y-y
- Catalyst : เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดู high season ของกลุ่มท่องเที่ยว จากล่าสุดตัวเลขนักท่องเที่ยวเดือนต.ค.17 เติบโตกว่า +21% หนุนให้ตัวเลข 10 เดือน ขยายตัว +7% y-y เป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ERW เด่น
MINT (TP18F 50.0*): Support: 43.0/41.5 Resistant: 45.25/46.0
- Theme : Earnings play
- Earnings Outlook : คาดกำไรปกติ 2017F จะกลับมาเติบโต 15% จากการบริโภคและการท่องเที่ยวฟื้นตัว หนุนทุกธุรกิจที่กระจายความเสี่ยงที่ดี ทั้งโรงแรม, ร้านอาหารและ AVC ต่อเนื่องในปี 2018F อีก +16%y-y โดยระยะสั้น คาด 4Q17F กำไรเพิ่มทั้ง y-y, q-q
- Valuation : ราคาหุ้นที่ Outperform ตามกลุ่มฯ หลัง Laggard มานาน มองยังเป็นจุดเข้าลงทุนได้ โดย Valuation ซื้อขายที่ PER18F ระดับ 31.8x เท่า และยังเหมาะสมจากการเป็นผู้นำในกลุ่มฯที่มีรายได้กระจายตัวที่สุด Upside 14%
- Catalyst : เข้าสู่ช่วง High Season ของกลุ่มโรงแรม โดยตัวเลขนักท่องเที่ยว ต.ค. +21% y-y + ธุรกิจอาหารได้อานิสงส์จากช็อปช่วยชาติ
PTTEP (TP18F 108*): Support: 92.75/91.5 Resistant: 95.25/96.0
- Theme: Oil Play
- Earnings Outlook: คาดกำไรปี 18F โตแรง +154% y-y ที่ 3.3 หมื่นลบ.จากสมมติฐานราคาน้ำมันฟื้นตัวที่ US$ 55/bbl และจะมีการปรับราคาแหล่งบงกช-เอราวัณรอบใหม่ + upside risk จากโครงการใหม่ รวมถึง โอกาสทำ M&A
- Valuation: ราคาหุ้นยังมี Valuation ไม่แพง มี P/BV ปี 18F ที่ระดับ 0.92x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 1.42x
- Catalyst: ราคาน้ำมันดิบยังเป็นทิศทางฟื้นตัว จากความคาดหวังเชิงบวกต่อการที่ซาอุฯและรัสเซียจะขยายเวลาลดกำลังการผลิตไปจนถึงปลายปี 18 จากเดิมสิ้นสุดลงในเดือน มี.ค.18 หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นนำตลาด + ภาพระยะกลาง Saudi Aramco มีแผน IPO เป็น Sentiment บวกต่อราคาน้ำมัน
ข่าวเด่น