แกว่งตัวหลังไร้ปัจจัยใหม่ ระวังการเคลื่อนไหวของของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ
  ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการในวันขอบคุณพระเจ้า ขณะที่ยุโรปปิดบวกจาก PMI ที่แข็งแกร่ง แต่หุ้นเอเซียส่วนใหญ่ทรงตัว ทั้งนี้แม้เงินบาทจะแข็งค่าขึ้น แต่ส่วนต่างของผลตอบแทนพันธบัตร 2 และ 10 ปี (2-10 spread) ที่เหลือเพียง 0.6% และมีโอกาสที่จะถ่างขึ้นในระยะต่อไป จะเป็นปัจจัยกดดันต่อการอ่อนค่าของเงินบาท ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนควรติดตาม
  ตลาดหุ้นไทยเปิดบวกก่อนปรับตัวลดลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งน่าจะมาจากความกังวลการปรับเพิ่มเพดานเงินสมทบกองทุนฟื้นฟู (FIDF) ขึ้นจาก 0.47% เป็น 1.00% ขณะที่มีแรงทำกำไรออกมา โดยเฉพาะในหุ้นขนาดกลาง-เล็กในหลายกลุ่ม ทั้งนี้การฟื้นตัวไม่พ้น 1720 ทำให้ SET Index ยังอยู่ในภาพของการแกว่งตัวที่มีกรอบด้านล่างบริเวณ 1690 จุด กลยุทธ์โดยภาพรวมยังคงเป็นการเลือกลงทุนรายตัวในกลุ่มที่แข็งแกร่ง และได้อานิสงค์จากตัวเลขเศรษฐกิจ ระหว่างรอการปรับประมาณการกำไรขอวงบจ. และมาตรการของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล เด่นวันนี้ 1) อสังหาริมทรัพย์ จากมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย (LPN, PSH) และ 2) หลังงานทดแทนและน้ำตาล จากการเปิดชื่อผู้ผ่าน SPP Hybrid 
  Investment Theme 1) หุ้นบริโภคในประเทศ BBL, SCB, TMB, TCAP, TK, S11*, IFS*, CPALL, ROBINS, MAKRO* 2) การลงทุน EEC และโครงสร้างพื้นฐาน AMATA, TICON*, WHA*, PYLON, SEAFCO*, TCJ*, CRANE*  3) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 4) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 5) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ TIP*, MILL*, BDMS, AMANAH, AGE, RICHY*,  TTCL*, ICHI*
  ภาพรวมกลยุทธ์: ภาพรวมช่วงนี้ยังเป็นการเก็งกำไรในเชิงตั้งรับ (ไม่ไล่ราคา/ซื้อแนวรับ/ตั้ง stop loss) นักลงทุนรอซื้อตามแนวรับเมื่  อ่อนตัว // หุ้นแนะนำ LPN , BDMS, TK
  แนวรับ : 1710 / แนวต้าน : 1720 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน
  โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปิดบวกในวันที่ 22 พ.ย.รับอาณิสงค์เชิงบวกจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ลดลงมากกว่าคาด / ราคาโลหะปรับขึ้นรับแรงหนุนจากค่าเงินเหรียญฯที่อ่อนค่า / ราคาสินค้าเกษตรปิดบวกทั้งกระดาน / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,445 จุด (+2.26%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 96.1 เหรียญฯต่อตัน (-0.1%)
  รายงานการประชุม ECB – ระบุ เศรษฐกิจยูโรโซนยังคงมีการขยายตัวที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง / อัตราเงินเฟ้อเริ่มก่อตัวสูงขึ้น แต่โดยรวมถือว่ายังคงอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับสูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะกลาง ด้วยการสนับสนุนจากนโยบายการเงินของ ECB เศรษฐกิจที่ขยายตัวต่อเนื่องและค่าจ้างแรงงานที่ปรับสูงขึ้น / คณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่ายังคงมีความเหมาะสมในการคงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะที่ underlying inflation กำลังเริ่มก่อตัว และเป็นการช่วยหลีกเลี่ยง inflation expectation ที่อยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมาย
  ไฟเขียวเสริมลงทุน EEC - BOI มีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนกิจการเป้าหมายในพื้นที่ EEC 3 ระดับ (สนามบินอู่ตะเพา, อีอีซีไอ, อีอีซีดี) มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.61-30 ธ.ค.62 ยกเว้นภาษีนาน 10 ปี / หนุนเอสเอ็มอีเข้าระดมทุนในตลาด MAI / ส่งเสริมกิจการ “ศูนย์กลางการค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบครบวงจร” เพื่อเสริมให้มีการลงทุนในพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า+ต่อยอดโอกาสทางการตลาด / ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ SEZ ผ่านมาตรการภาษี 
  สองมาตรการหนุนกลุ่มผู้มีรายได้น้อย – รองนายกฯสมคิดเตรียมผลักดัน 2 โครงการเร่งด่วนส่งเสริมผู้มีรายได้น้อย ได้แก่ 1.โครงการจ้างงานผู้เกษียณสูงอายุให้มีรายรับเพียงพอต่อการเลี้ยงดูตัวเอง, 2.โครงการส่งเสริมการซื้อบ้านของกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำผ่านการลดอัตราดอกเบี้ยจ่ายและขยายระยะเวลาการผ่อนชำระนาน 40 ปี* มองเป็นบวกต่อ LPN, PSH
  ประเด็นติดตาม: 24 พ.ย. – ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติ SPP-Hybrid  / 25 พ.ย. – คาดทราบผลการผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีสหรัฐฯ / 29 พ.ย. – US GDP 3Q17 / 30 พ.ย. – ประชุมโอเปค
  
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)