Market summary
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขาย นำโดยหุ้นกลุ่มปิโตรและโรงกลั่นเช่น TOP, IRPC, PTTGC และ IVL ในขณะที่หุ้นขนาดกลางหลายตัวที่ปรับตัวขึ้นเด่นในช่วงที่ผ่านมาอย่าง CBG, BEAUTY, BCPG เจอแรงขายทำกำไรเช่นกัน ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,692 จุด (-15.0 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นลบ. เทียบเท่ากับวันก่อนหน้า (มี Biglot SCC ทั้ง 2 กระดานรวมมูลค่า 1,470 ล้านบาท)
นักลงทุนชาติยังคงขายหุ้นไทยราว 732 ล้านบาท และกลับมา Short สุทธิ SET50 Index Future อีกครั้งที 4,350 สัญญา
Investment theme
สัปดาห์นี้ติดตามสภาสูงพิจารณา Tax, ประชุม OPEC , ยักษ์ใหญ่รายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ คาดส่งผลต่อทิศทาง Fund flow : ในสัปดาห์นี้จะมีหลายเหตุการณ์สำคัญซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางกระแสเงินทุนโลก นำโดยสภาสูงของสหรัฐเตรียมพิจารณาผ่านร่างกฎหมายการปฎิรูปโครงสร้างภาษีสหรัฐ ซึ่ง Trump จะมีการประชุมร่วมกับ ส.ว.ของพรรค Republican ในวันอังคารนี้ก่อนเตรียมส่งให้สภาสูงพิจารณา ซึ่งต้องการคะแนนเสียงสูงกว่า 50 เสียงจาก 52 คนของสภา (Ron Johnson ซึ่งเป็นส.ว. Republican ระบุไม่เห็นด้วยกับรายละเอียดภาษีครั้งนี้) ในขณะที่ 30 พ.ย. นี้ จับตาการประชุมใหญ่ OPEC ที่ Vienna ซึ่งเรามองว่าปัจจุบันราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นบนความคาดหวังว่า OPEC จะขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันโลก 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน จนถึงปลายปี 2561 และอ้างอิงจากการประชุมครั้งก่อนในเดือนพ.ค.พบว่า ราคาน้ำมันเกิด Sell on fact ภายหลังการประชุมที่มีการคาดการณ์ในลักษณะคล้ายๆกัน อีกทั้งในสัปดาห์นี้หลายประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ของโลกอย่าง สหรัฐ,จีน และ ยุโรป จะมีการรายงานหลายตัวเลขสำคัญเช่น GDP, PMI, เงินเฟ้อ และความเชื่อมั่น ซึ่งคาดส่งผลให้ทิศทางกระแสเงินทุน
Investment theme: เป็นสัปดาห์ที่ 3 ที่ SET ไม่สามารถ Break กรอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,720 ได้ เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุนและเม็ดเงินจากต่างประเทศ ในขณะที่ฝั่งสถาบันเริ่มมีแรงซื้อที่ลดลง ส่งผลให้เรามองว่าในสัปดาห์นี้ SET ยังคงแกว่งตัวในกรอบ 1,680-1,720 เพื่อรอดูผลของปัจจัยต่างประเทศที่เราระบุ แนะนักลงทุนลดวงเงินต้นในการเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง เพื่อรอดูความชัดเจน
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา หลายองค์กรภาครัฐยื่นหนังสือขอยกเว้นการจัดซื้อจัดจ้างตามพ.ร.บ.ฉบับใหม่ เช่น ป.ต.ท. , EGAT , ร.ฟ.ท. / เกิดเหตุระเบิดที่มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน / เกิดเหตุคนร้ายบุกยิงมัสยิดในอียิปต์ พบผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก / Dollar index อ่อนค่าต่อเนื่องที่ 92.8
บทวิเคราะห์วันนี้ : GOLD , BJC , CBG
Stock pick : GOLD
GOLD : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 12.00 บาท/หุ้น (ปรับรอบบัญชี)
บริษัทรายงานผลประกอบการ 3/4Q60 ที่ 492 ล้านบาท เติบโต 32%YoY, 69%QoQ โดยทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,468 ล้านบาท (+22%YoY, +11%QoQ) ในขณะที่สามารถทำ GPM(%) ได้สูงในระดับ 32.6% และมีการ Book กำไรจาก GVREIT ประมาณ 90 ล้านบาท
ปัจจุบัน Backlog ในมือสูงกว่า 4.0 พันล้านบาท และมี Secured revenue สูงกว่า 30% ในขณะที่คาดเปิดโครงการใหม่ในปี 61 มากกว่า 30 โครงการ (รวมมูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท) หนุนให้ Presale ทำระดับสูงสุดต่อ โดยเราคาดรายได้ในปี 61 ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องที่ 13,804 ล้านบาท (+49%YoY)
คงคำแนะนำซื้อด้วย PBV ที่ 1.8x คิดเป็นราคาเหมาะสม 12.0 บาท/หุ้น โดยมีจุดเด่นจาก Recurring income ที่จะเติบโตเด่นขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้คาดรายได้จะทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง 4 ปีติด
Trading idea – – BJC เราปรับเพิ่มราคาเหมาะสมเป็น 68.0 บาท
Technical View
แกว่งตัวลงทดสอบแนวรับสำคัญ: ดัชนีหลุดกรอบการพักตัวและเส้น Downtrend ทำให้ขณะนี้แนวโน้มขาลงเริ่มกลับมาได้เปรียบ คาดดัชนีแกว่งตัวลงทดสอบแนวรับ 1690 และ 1680 ตามลำดับ ในระยะกลางคาดที่แนวรับ 1680 ดัชนีจะเริ่มหยุดลงเนื่องจาก Slow Stochastic ในกราฟ 120 นาที ได้เข้าเขต Oversold แต่หากผิดคาดดัชนีหลุดแนวรับ 1680 จะคอนเฟิร์มการกลับตัวลงแบบ Double Top และทำให้ Downside เปิดมากขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ลดพอร์ตการลงทุนหลังหลุด 1707 หากพึ่งซื้อหุ้นให้ใช้ 1690 เป็นจุด Stop Loss 2) ไม่มีหุ้น: รอดูแนวโน้มที่แนวรับ 1690และ 1680 ตามลำดับ
แนวรับ : 1690, 1680 แนวต้าน : 1700, 1705
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : 28 พ.ย. อังกฤษรายงาน GDP ไตรมาส 3, สหรัฐรายงานตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค /จับตาการแถลงครั้งแรกของ Powell / 29 พ.ย. ยุโรปรายงานตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค, สรหัฐรายงาน GDP ไตรมาส 3 , จีนรายงาน PMI ภาคการผลิต / ประชุม OPEC 30 พย. และ สหรัฐรายงานตัวเลขตัวเลขเงินเฟ้อ
ปัจจัยในประเทศ : Motor expo เริ่ม 30 พ.ย.นี้ / 1 ธ.ค.รายงานเงินเฟ้อหุ้นเทคนิค:
PTT (B 410.00, Tp 420.00//428.00, Cut 406.00)
HMPRO (B 12.80, Tp 13.70, Cut 12.50)
ข่าวเด่น