คำแนะนำ
ลดการถือครองสถานะลงทุนลงเพื่อควบคุมความเสี่ยงจากการปิดำการระหว่างสัปดาห์ของ TFEX โดยหากราคาดีดตัวขึ้นไม่ผ่าน 1,290 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจต้องรอการอ่อนตัวลงของราคาจึงพิจารณาเข้าซื้อหรือรอดูการตั้งฐานของราคาอีกครั้ง
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,266 1,260 1,251
แนวต้าน 1,290 1,300 1,307
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.83 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขในภาคการผลิตของสหรัฐที่ชะลอตัวเกินคาด ประกอบกับเอบีซี นิวส์รายงานว่า นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐเตรียมที่จะให้การต่อเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เคยสั่งให้เขาติดต่อกับชาวรัสเซีย ในช่วงที่นายทรัมป์หาเสียงเลือกตั้งในปีที่แล้วซึ่งประเด็นดังกล่าวเพิ่มความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐและเป็นปัจจัยกระตุ้นแรงซื้อทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยให้พุ่งขึ้นถึง 1.2% ไปแตะระดับสูงสุดที่ 1,289.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามความเชื่อมั่นที่ว่าวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันจะสามารถผ่านร่างปฏิรูปกฏหมายได้เป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกของราคาทองคำ ขณะที่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาวุฒิสภาสหรัฐได้มีมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51-49 ส่งผลให้ราคาทองคำในตลาดเอเชียเช้านี้เปิดตลาดในแดนลบ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน และติดตามความคืบหน้าต่อเนื่องในการผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีพร้อมกับจับตาความวุ่นวายทางการเมืองของสหรัฐประกอบการลงทุน
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,290 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,270-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเกิดการดีดตัวขึ้นในระยะสั้นอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
ชะลอการเข้าซื้อเพิ่ม ขณะที่นักลงทุนที่มีสถานะอยู่แนะนำปิดสถานะลงทุนเนื่องจาก TFEX จะปิดทำการในวันอังคาร แต่หากรับความเสี่ยงได้อาจเสี่ยงเปิดสถานะขายเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปยังบริเวณแนวต้าน 1,290-1,300 (ลดสถานะขายหากราคาผ่าน 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์) การถือสถานะซื้อควรเพิ่มความระมัดระวังหากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวรับ 1,270-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น