ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้              

ไซด์เวย์ ช่วงสั้นๆ ปัจจัยต่างประเทศไม่ค่อยดี
  KGI คาด SET วันพุธไซด์เวย์ ฟันด์โฟลว์อาจชะลอการกลับเข้าหุ้นเอเชียและหุ้นไทยไปเป็นสัปดาห์หน้า หลังมีปัจจัยลบเพิ่มเติม (แม้ไม่มีน้ำหนักมาก แต่รบกวนจิตวิทยาการลงทุนช่วงสั้น) ได้แก่ i) หัวหน้าคณะสืบสวนกรณีทรัมป์-รัสเซีย โรเบิร์ต มูลเลอร์ ขอข้อมูลทางการเงินของนายทรัมป์จาก ธ.ดอยช์แบงก์ เพื่อหาเส้นทางการเงินเพิ่มเติม ส่งผลให้ความกังวลต่อการถอดถอนนายทรัมป์ เพิ่มขึ้นอีก ii) การเจรจาเงื่อนไข Brexit ระหว่างอังกฤษกับอียูเมื่อวานนี้ล้มเหลว และจะมีการเจรจาอีกครั้งในกลางเดือนนี้ iii) เยอรมันยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมได้ นอกจากนี้ฟันด์โฟลว์มักชะลอก่อนหน้าการประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12-13 ธ.ค. นี้ ดังนั้นภาพระยะสั้นของ SET น่าจะแกว่งตัว โดยมีแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันในประเทศเป็นตัวจำกัดความเสี่ยงทางลง ผ่านเม็ดเงินซื้อกองทุนแอลทีเอฟ รวมทั้งจากมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและผลประกอบการของไทยในปี 2561 ทั้งนี้เรามองว่าหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจไทยน่าจะโดดเด่นต่อไป ผนวกหุ้นที่มีประเด็นการเข้าสู่ดัชนีต่างๆ เช่นดัชนี SET50 และดัชนี FTSE SET Index Series เป็นต้น โดยฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าหุ้น SAWAD*, TPIPP และ CENTEL* จะเข้าสู่ดัชนี SET50 และเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ทาง ตลท. ประกาศว่าหุ้น EA* เข้าสู่ดัชนี FTSE SET Large Cap Index เป็นต้น

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   
เก็งกำไร SAPPE / สะสม KBANK*
  SAPPE (เป้าพื้นฐาน 27 บาท) 1) เราประเมินประเด็นบวกจากการลอยตัวราคาน้ำตาลในประเทศ (เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ครม. มีมติเห็นชอบร่างกฏหมาย รองรับการลอยตัวราคาน้ำตาล) เนื่องจากจะทำให้ต้นทุนน้ำตาลของผู้ผลิตเครื่องดื่มลดลง (ปัจจุบันน้ำตาลที่ขายในประเทศไทยสูงกว่าต่างประเทศ) ... อ่านรายละเอียดข่าวเพิ่มเติมใน นสพ กรุงเทพธุรกิจ ขณะเดียวกันทางผู้ผลิตเครื่องดื่มได้มีการปรับสูตรรองรับภาษีความหวานแล้ว 2) Valuation SAPPE ไม่แพง โดย PE ปี 2561 = 17.6 เท่า ขณะที่ค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ = 25 เท่า 3) ประเมินราคาหุ้นปรับลงแรง จนเข้าสู่ภาวะ Oversold ประเมินมีโอกาสรีบาวด์ แนวรับ 24 บาท แนวต้าน 27 บาท และถัดไป 29 บาท (Stop loss 24 บาท) 
  KBANK* (เป้าพื้นฐาน 250 บาท) 1) เรายังคงประเมินมุมบวกต่อ KBANK* สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานที่คาดว่าพ้นจุดต่ำสุดแล้วในปีนี้ โดยคาดยอดสินเชื่อปีหน้าเติบโต YoY ฟื้นตามภาวะเศรษฐกิจ และ Credit cost ที่ลดลง 2) เราประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายปีหน้ามีโอกาสปรับขึ้น ตามเศรษฐกิจที่ขยายตัว เป็นบวกต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 3)  Valuation ไม่แพง ด้วย PBV 1.57 เท่า (ค่าเฉลี่ย PBV ย้อนหลัง 5 ปี เท่ากับ 1.8 เท่า) 3) ประเมินแนวรับ 222 บาท และ 220 บาท แนะนำ “สะสมแนวรับ” แนวต้าน 238 บาท (Trailing stop 219 บาท)

หุ้นมีข่าว
  (+ SAPPE, MALEE, TACC / - KSL, KBS, BRR) ไฟเขียวลอยตัวราคาน้ำตาล (โพสต์ทูเดย์) ครม.เห็นชอบหลักการลอยตัวราคาน้ำตาล เร่งคำนวณราคาขายในประเทศพร้อมประกาศใช้ ป้องบราซิลฟ้องหนุนส่งออก แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบในหลักการแนวทางการบริหารจัดการอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย โดยได้เห็นชอบร่างกฎหมายลูกรวม 4 ฉบับ เพื่อเป็นการรองรับการลอยตัวน้ำตาล เช่น ร่างประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย จำนวน 1 ฉบับ ได้แก่ ร่างประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการจัดทำประมาณรายได้ เป็นต้น
  (+) VTE-ECF-QTC รอข่าวดี จ่อบุ๊คโซลาร์ฯพม่าปีหน้า (ข่าวหุ้น) 3 พันธมิตร “VTE-ECF-QTC” ผนึกกำลังร่วมลงทุนโซลาร์ฟาร์ม “มินบู” ที่เมียนมา ขนาดกำลังผลิต 220 เมกะวัตต์ คาดเฟสแรก 50 เมกะวัตต์จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบกลางปี 61 หนุนรายได้ปี 61 เติบโตถ้วนหน้า พร้อมเดินหน้าก่อสร้างเฟสที่เหลือ
  (+) RICHY ปั๊มรายได้ปีหน้าโต80% เปิด 4 โครงการมูลค่า 9 พันล้าน (ข่าวหุ้น) “ริชี่ เพลซ 2002” แย้มปี 61 ปั๊มรายได้ 2,000 ล้านบาท เติบโต 80% จากปี 60 ที่คาดมีรายได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท เล็งเปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท ดันยอดขายปี 61 พุ่ง 2,000 ล้านบาท
  (+) TFG ลั่นปี 61 รายได้โต 20% รุกขยายตลาด “ฟูดส์เซอร์วิส-โมเดิร์นเทรด” (ข่าวหุ้น) TFG รุกขยายตัวสู่ตลาดผู้บริโภคมากขึ้น เพิ่มโรงงานไก่ปรุงสุก ปรับธุรกิจสุกร รองรับดีมานด์ลูกค้าในตลาด “ฟูดส์เซอร์วิส-โมเดิร์นเทรด” เต็มรูปแบบ มั่นใจช่วยผลักดันรายได้ปี 2561 โต 20% ฟากกำไรนิวไฮต่อเนื่อง
  (+) RS ชูอาร์สยามหัวหอกธุรกิจเพลง ลั่นปี 61 ฟาดรายได้พุ่ง 250 ล้าน (ข่าวหุ้น) RS ย้ำเดินหน้าธุรกิจเพลงต่อเนื่อง ชี้เป็นต้นน้ำสำคัญช่วยต่อยอดธุรกิจในอนาคต กางแผนปี 2561 ชู “อาร์สยาม” เป็นหัวหอกหลัก ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ดนตรีไร้ขอบ" มั่นใจทำเงิน 250 ล้านบาท
  (+) UNIQ*-ITD*-STEC* เด้งรับข่าวดี “อาคม” การันตีเซ็นทางคู่ 5 สาย ภายใน ธ.ค.นี้ (ข่าวหุ้น) “UNIQ*-ITD*-STEC*” รอรับข่าวดี “อาคม” การันตีเดือน ธ.ค.นี้ ได้ลงนามสร้างรถไฟทางคู่ 5 สาย 9 สัญญา ล่าสุดแบ่งงาน “ไพรินทร์” เร่งรถไฟทางคู่เฟส 2 ดันประมูลรถเมล์ NGV 489 คัน พร้อมลุยแผนฟื้นฟู THAI-ร.ฟ.ท.-ขสมก.

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
  COM7* (เป้า Consensus 17.8 บาท … สูงสุด 21 บาท) ประเมินแนวรับ 15.9 บาท แนวต้าน 16.5 บาท Stop loss 15.5 บาท (สำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่เข้าซื้อตามที่เราแนะนำก่อนหน้า อาจพิจารณาขายล๊อกกำไรหากราคาปิดต่ำกว่า 16 บาท)
  EGCO* (เป้าพื้นฐาน 260 บาท) แนะนำ “สะสม” แนวรับ 210 บาท และถัดไปที่ 200 บาท / แนวต้าน 220 บาท 
  MONO* (เป้าพื้นฐาน 5.75 บาท) แนะนำ “ทยอยสะสมแนวรับ” 3.80 บาท (Stop loss 3.7 บาท)
  EASON (เป้า Consensus 4.5 บาท) พิจารณาแนวรับสำคัญ 3.84 หากปิดต่ำกว่าแนะนำ “ขายทำกำไร” หากยืนได้แนะนำ “ถือ”
  SPA (เป้า Consensus 18.3 บาท ... สูงสุด 20 บาท) แนะนำ “Let profit run” กำหนด Trailing stop 18.5 บาท

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
  TWPC แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 10.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดผลประกอบการของ TWPC ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 3Q60 หลังจากที่ราคาขายแป้งมันสำปะหลังปรับตัวขึ้นประมาณ 10% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยราคาขายภายในประเทศปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 13.2 บาท/กก. และราคาส่งออกปรับตัวมาอยู่ที่ 430 เหรียญสหรัฐ/ดัน 
  SCN แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 6.8 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 4Q60 = 70 ล้านบาท (-16% YoY, +5% QoQ) โยฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการกำไรปี 2560 – 61 ลง 27% และ 32% ตามลำดับ จากการปรับลดสมมติฐานปริมาณขาย iCNG และการเลื่อนเปิดปั๊ม NGV ที่ล่าช้เกว่าคาด อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯแนะนำ “ซื้อ” จากแนวโน้มกำไรที่จะโตเด่นในปี 2561 จากการเปิดปั๊ม NGV ที่ล่าช้ามาจากปี 2560 และราคาหุ้นที่ปรับลงมาจนทำให้มี Upside

Market strategy      Thailand
  จิตวิทยาตลาดวันนี้:  ---    นัยต้าน 1700 จุด
  วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1700 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1700-1716 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1700 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1700-1687 จุด
  แนวรับวันนี้:          1692/1687               แนวต้านวันนี้:          1700/1710