ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน คาดตลาด "Rebound" ต้าน 1702/1708จุด (07/12/60)


 “Big Cap Play” 

CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Rebound” ต้าน 1702/1708จุด รับ 1687/1684จุด ตลาดโลก 2017YTD ปรับตัวขึ้นแรง ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลีใต้ ให้ผลตอบแทนกว่า 22%-34% ดังนั้นระยะสั้นอาจเห็นแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง แต่ภาพรวมไม่มีปัจจัยลบที่มีนัยสำคัญ ขณะที่ Upside Risks คือ การประกาศใช้ US Tax Reform ผสานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและไทยที่ฟื้นตัวเด่น ส่งผลให้ Nomura ปรับเพิ่ม GDP 2018 ไทยขึ้นสู่ 4% จากเดิม 3.2% เราจึงเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยขึ้นสู่ 75% จากเดิม 70% วันนี้แนะนำสะสม กองทุน LTF และหุ้น “Big Cap Play”  :   STEC, IVL, KBANK

Nomura : Key Factors

  • (+) TH: Nomura ปรับคาดการณ์ GDP ไทยปี 2018 ขึ้นสู่ 4.0% จาก 3.2%
  • (+) TH: กกร.คาดส่งออกปีนี้มีโอกาสโต 9% หลัง 10เดือนโตกว่า 9.7%
  • (+) OIL: สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ -5.6ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่า -3.2ล้านบาร์เรล
  • (+) US: ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้น190,000ตำแหน่ง มากว่าคาดที่185,000ตำแหน่ง
  • (*) US: ติดตามประเด็นเพดานหนี้สหรัฐฯซึ่งจะต้องได้ข้อสรุปภายใน 8ธค.นี้
  • (*) Fund Flow: ล่าสุดขายหุ้น -3,329ลบ,Long Future +9,411สัญญา,ซื้อBond+1,892ลบ
  • (-) Ex Factor: ตลาดโลกปรับตัวขึ้นแรง YTD ดังนั้นระยะสั้นอาจเห็นแรงขายทำกำไร
  • (-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -2.88% สู่ $55.96/bbl / BRT -2.61% สู่ $61.22/bbl
  • Opp Day: DRT, BTW, PPM, AIT, TKT

Nomura Daily Top Picks: STEC, IVL, KBANK

Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Rebound” แนวต้าน 1702/1708จุด แนวรับ 1687/1684จุด ตลาดโลกปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรงตั้งแต่ต้นปี 2017 โดยหากดูผลตอบแทน YTD ของตลาดหุ้นต่างๆ พบว่า ตลาดดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นกว่า 22.15% เช่นเดียวกับตลาดเอเชีย นำโดย ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง และเกาหลีใต้ ที่ปรับตัวขึ้นกว่า 25%-34% ซึ่งถือว่าเป็นการให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูง ส่งผลให้ระยะสั้นอาจเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง แต่อย่างไรก็ดี การลงทุนโดยรวมไม่ได้มีปัจจัยลบอย่างมีนัยสำคัญ โดยระยะสั้นตลาดจับตาประเด็นเพดานหนี้สหรัฐฯซึ่งจะต้องได้ข้อสรุปภายใน 8ธค.นี้ ซึ่งความเสี่ยงหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้อาจจะเกิดการปิดตัวของหน่วยงานราชการบางส่วน ดังนั้นประเด็นดังกล่าวอาจกดดัน Sentiment การลงทุนระยะสั้น แต่อย่างไรก็ดี เรามองว่ามีโอกาสค่อนข้างสูงที่การหารือจะสำเร็จ เนื่องจากสมาชิกพรรคริพับลิกันครองเสียงข้างมากในสภา จึงไม่ให้น้ำหนักที่จะเกิด Negative Surprise ขณะที่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงยังคงมี Upside Risk จากแผนปฏิรูปภาษีที่คาดจะสำเร็จได้ภายในปี 2017 รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะเศรษฐกิจไทยที่เติบโตเด่น ทั้งภาคการส่งออก ภาคการท่องเที่ยว และการลงทุนจากภาครัฐฯ ส่งผลให้ล่าสุด Nomura ปรับคาดการณ์ GDP ไทยปี 2018 ขึ้นสู่ 4.0% จาก 3.2% เพิ่ม Sentiment บวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เราจึงเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยขึ้นสู่ 75% จากเดิม 70% วันนี้แนะนำสะสมนักลงทุนเลือกสะสมกองทุน LTF เพื่อสิทธืทางภาษี และเน้นหุ้นขนาดใหญ่พื้นฐานดีสะสมเข้าพอร์ต

Asset allocation : ถือหุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%

Daily Strategy :  กลยุทธ์เน้นกลุ่ม Big cap(PTTEP, KBANK, MINT, STEC) ผสาน 6 Theme เด่น

    Election & Investment spending : สนช.มติเอกฉันท์รับหลักการ พ.ร.ป.ว่าได้การได้มาซึ่งส.ส. ทำให้กรอบเลือกตั้งยังเป็นไปตามเดิม (มิ.ย.18 กำหนดวันเลือกตั้ง, พ.ย. 18 เลือกตั้ง) + เพิ่มงบลงทุนรัฐวิสาหกิจปี 2018 ขึ้น 52% เป็น 7.96 แสนลบ. + เตรียมดึงงบท้องถิ่นที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายสะสมรวม 1.7 แสนลบ. ล็อตแรก 5 หมื่นลบ.  + BBL, KBANK, TMB, STEC, CK
    FTSE Play : Small Cap นำ TPIPP, BGRIM เข้า + เพิ่มน้ำหนัก MINT มีผล 15 ธ.ค. 
    Tourism & Seasonal laggard  Play : รัฐบาลเตรียมหนุนการท่องเที่ยวจังหวัดรอง คาดรู้ผลธ.ค. บวกกับ นักท่องเที่ยวเดือน ตค 2017 เพิ่มขึ้น 21%y-y หนุน ERW, MINT และ BDMS
    กลยุทธ์ Pair Trade แนะนำ Short หุ้นเสียประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าไว คือ SBL/Short KCE  ไป ซื้อ/Long THAI ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าเทียบ Euro และ Seasonal ล่าสุด THAI/KCE มี Ratio ที่ 0.20X รอปิดทำกำไร 0.22-0.23X 
    Consumer Play : คาด Small Cap Outperform และเป็นเป้าของกองทุน Mid-Small Cap Funds แนะนำ MM(TP6.5), FN(TP7) , KAMART, JUBILE, PM ส่วน Big Cap. ROBINS, CPALL, HMPRO แนะนำถือลงทุน
    กลยุทธ์ SET50/100 แนะ SAWAD, TPIPP, CENTEL/WHAUP, UV  มีผลกลาง ธ.ค
    Portfolio Top Picks DEC 2017 แนะนำ KBANK, MINT, STEC, FN, MM, PSTC  ส่วน DARK Horse จับตา TPAC, BEC, BH

Investment Theme:
4Q17F : Domestic Recovery: KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL, MINT, SCC
1) Consumer Recovery : KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL
2) Seasonal & Laggard : MINT
3) Infrastructure spending begins & High Yield : SCC

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :

STEC (TP18F 33.5*):  Support: 24.1/23.8 Resistant: 25.5/26.0 

  • Theme : Infrastructure spending
  • Earnings Outlook : คาดกำไรปกติ 4Q17F เติบโตทั้ง y-y และ q-q จากรายได้ก่อสร้างงานภาครัฐส่งมอบมากขึ้น ชดเชยงานเก่า ประกอบกับ คาดกำไรปี 2018F เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำในปีนี้ จากเริ่มรับรู้รายได้งานก่อสร้างและอัตรากำไรที่ปรับตัวดีขึ้น หนุนแตะระดับ 1.8 พันลบ. +97% y-y โดย Backlog สูงระดับแสนลบ. เป็นจุดสูงสุดในประวัติการณ์ และ Secured รายได้ 3-4 ปีข้างหน้า
  • Valuation : ปัจจุบันซื้อขาย P/BV  3.0 เท่า แม้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มฯ แต่ยังเหมาะสมจากความสามารถในการทำกำไรสูง , ฐานะการเงินแข็งแกร่ง รวมถึงเป็นผู้ได้รับประโยชน์ลำดับต้นๆจากการรับงานลงทุนรอบใหญ่ในช่วงถัดไป
  • Catalyst :  Nomura ปรับคาดการณ์ GDP growth rate ปี 2018F ขึ้นเป็น 4.0% จาก 3.2%  + เข้าสู่ช่วงลงทุนรอบใหญ่

IVL (TP18F 61.00*):  Support: 49/48.5 Resistant: 51.25/52.25

  • Theme: Earnings Play
  • Earnings Outlook: แนวโน้มกำไร 4Q17F ต่อเนื่องถึง 2018F (+33% y-y) ยังเป็นจุดที่ดีมาก ปัจจัยผลักดัน นอกเหนือจากที่คล้ายๆปี 2017 คือ ด้านของปริมาณผลิตและอัตรากำไรที่ดีจากการขยายธุรกิจไปกลุ่ม HVA เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีปัจจัยเสริมด้าน Spread ที่ดีขึ้นของ PTA-PET จากทั้ง Demand ยังดีตามเศรษฐกิจโลกฟื้น บวกกับ Supply ขาดแคลนจากผู้เล่นรายใหญ่ M&G, JBF ประสบปัญหาการเงิน
  • Valuation: แนวโน้มกำไรดีต่อเนือง ยังเป็น Cycle ขาขึ้นในช่วง 2 ปีนี้  โดยราคาหุ้นคิดเป็นระดับ PER ปี 2018F ราว 15.1x ยังต่ำกว่า Cycle ขาขึ้นรอบ 20x นอกจากนี้ ยังมี potential upside จาก Tax reform ของสหรัฐฯ ซึ่งหากบังคับใช้จริง จะเพิ่มมูลค่าพื้นฐานราว 3.2 บาทต่อหุ้น
  • Catalyst: PETRO Update : Spread  PTA-0.67*PX ขยับเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ในรอบ 5 สัปดาห์ มาอยู่ที่105เหรียญฯต่อตัน +1.4% w-w หรือ 23.3%m-m ขึ้นมาสูงกว่า Spread งวด 3Q17 ที่เฉลี่ย 102.5 เหรียญฯต่อตัน เป็นภาพบวกต่อผลประกอบการใน 4Q17F

KBANK (TP18F 256): Support: 224/220 Resistant: 231/235

  • Theme : Earning Play
  • Earnings outlook : คาดกำไรปี 2018F จะกลับมาโตเด่น +23% y-y สูงสุดในกลุ่มฯ จากภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น หนุนการปล่อยสินเชื่อ +6.6% y-y รวมถึง คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น มอง NPL ใกล้ถึงจุดต่ำสุด รวมถึง Credit cost ที่จะลดลง และมีจุดเด่นที่ ระบบไอทีและฐานข้อมูล ที่ธนาคารมีการลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง จะพร้อมสุดเมื่อเศรษฐกิจกลับมาดี
  • Valuation : เป็นผู้นำในกลุ่ม จากทั้งแนวโน้มกำไรที่ดี และ Valuation ซื้อขาย P/BV 1.47x ยังต่ำกว่าเฉลี่ยซึ่งอยู่ที่ 1.69x
  • Catalyst : Nomura ปรับคาดการณ์ GDP growth rate ปี 2018F ขึ้นเป็น 4.0% จาก 3.2% + เศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว ในหลายกลุ่ม + เข้าสู่ช่วงลงทุนของรัฐรอบใหญ่รอบใหม่ปีหน้ากระตุ้นโอกาสปล่อยสินเชื่อขยายตัว รวมถึงกลุ่มSMEsตามมาในลำดับสุดท้ายบวกต่อYield,NIM ในระยะกลาง

Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)      


LastUpdate 07/12/2560 10:16:38 โดย : Admin

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:09 am