|
|
|
|
|
|
กลยุทธ์วันนี้ >> ยังเน้น Trading ในกรอบโดยเน้นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways Up ได้ตามคาดและปิดบวกได้ 3.15 จุด ณ สิ้นวัน บรรยากาศการลงทุนดูผ่อนคลายมากขึ้นหลังสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 อีก 840 พันลบ. (แต่ยัง Net Long ใน Index Futures ถึง 3,691 สัญญา) ขณะที่สถาบันในประเทศยังซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 อีก 2,339 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Up โดยราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัวขึ้น 2 วันติดต่อกันรวมกว่า 2% ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่ออกมาคืนวันศุกร์ค่อนข้างแข็งแกร่ง ขณะที่ตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักเชิงลบต่อเหตุระเบิดในนิวยอร์กนัก สังเกตได้จากการดีดตัวกลับของตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนติดตามคือการประชุม FOMC ในช่วง 12-13 ธ.ค. นี้ และความคืบหน้าของการรวมร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ เราจึงมองว่ากรอบการบวกในระยะนี้จะยังไม่กว้างนัก
กลยุทธ์ : ยังเน้น Trading ในกรอบโดยเน้นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก
หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. : BBL, CMO, EPG, MINT, ROBINS
Fund Flow เมื่อวันศุกร์และวันจันทร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$175ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$73ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$31ล้าน ไม่มีประเทศใดมีเงินทุนไหลเข้า แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค รอผลประชุม FED ในวันที่ 12-13 ธ.ค. นี้ ตลาดคาด FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> TK <<
- เราปรับคำแนะนำขึ้นจากถือเป็นซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 19.50 บาท โดยคาดกำไรสุทธิ 4Q17 จะออกมาดีสุดในรอบ 19 ไตรมาส ที่ 171 ลบ. +29% Q-Q, +18% Y-Y เพราะเป็นฤดูเก็บเกี่ยวและจับจ่ายใช้สอย แถมได้แรงหนุนจากยอดจองรถงานมอเตอร์เอกซ์โปที่คาด +20% Y-Y
- เราชอบ TK มากสุดในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะคุณภาพหนี้ซึ่งล่าสุด NPL อยู่ที่ 4.5% (ลดลงจาก 2Q17 ที่อยู่ที่ 4.8%), Loan Spread ทำได้สูงถึง 33.7%, และ Coverage ratio ที่ 134% บนมาตรฐานเดียวกับธนาคาร
- ที่ราคาปัจจุบันน่าสนใจทั้งในเชิงพื้นฐานและเทคนิค โดย PE2018 อยู่ที่ 12 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 15 เท่า ขณะที่ แรงซื้อคืนปลายสัปดาห์ก่อน ทำให้ราคากลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้อีกครั้ง
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.25-1.50% ในการประชุม 12-13 ธ.ค. นี้เพราะเศรษฐกิจแข็งแกร่งต่อเนื่อง ซึ่งไม่กระทบต่อตลาดทุนและเศรษฐกิจไทยเพราะเป็นที่คาดการณ์อยู่แล้ว ควรติดตามมุมมองเศรษฐกิจของเฟดในระยะต่อไป ส่วนการลดขนาดงบดุลที่ทำตั้งแต่ ต.ค. กระทบจำกัดมาก Bond yield ของสหรัฐอายุ 10 ปีขยับขึ้นเพียง 15bps เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเพียง 1%
(+) ยอดจองรถมอเตอร์เอกซ์โปพุ่ง ยอดจองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ระหว่าง 30 พ.ย. – 9 ธ.ค อยู่ที่ 3.3 หมื่นคัน +20% Y-Y คาดว่ายอดจอง 2 วันสุดท้ายจะเร่งตัวขึ้นอีกเพราะเป็นช่วงหยุดยาว จึงเป็นไปได้สูงที่จะทะลุเป้า 4 หมื่นคัน ส่งผลบวกต่อกลุ่มยานยนต์ (PCSGH ราคาเป้าหมาย 9.60 บาท ยังไม่รวม EV คาดทุก 2 พันลบ. เพิ่มมูลค่า 0.80 บาท/หุ้น) ไฟแนนซ์ (TK ราคาเป้าหมาย 19.50 บาท, MTLS ราคาเป้าหมาย 48 บาท, KKP ราคาเป้าหมาย 85 บาท) และผู้จัดอีเว้นท์ CMO (ราคาเป้าหมาย 3.00 บาท)
(0) TISCO รายงานสินเชื่อเดือน พ.ย. 17 เพิ่มติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 จากอานิสงส์ของสินเชื่อ SME (Floor plan) และ Project finance ในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจ แต่คาดว่ามีผลต่อกำไร 4Q17 จำกัด โดยเราคาดกำไร 4Q17 ทรงตัว Q-Q และ +16%Y-Y เรามองว่าตลาดคาดหวังสูงเกินไปจากดีลการรวมพอร์ตรายย่อย SCBT การ repayment ของสินเชื่อในกลุ่มที่อยู่อาศัย รวมถึงสินเชื่อบุคคลที่อาจเกิดขึ้นในช่วงแรก อาจทำให้ TISCO อาจไม่ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่นัก อีกทั้ง Upside จำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 89 บาท จึงแนะนำถือ
(+) SQ ตลาดผิดหวังมากเกินไปกับการไม่ชนะประมูลเหมืองแม่เมาะ 9 ลำพังงานในมือ 3.6 หมื่นล้านบาทก็รองรับรายได้ได้ 10 ปี ส่วนผลประกอบการ 4Q17 น่าจะพลิกมีกำไรเพราะไม่ใช่หน้าฝนเหมือน 3Q17 แต่ไม่ดีเท่า 1H17 ที่ได้เร่งส่งมอบงานส่วนใหญ่ไปแล้ว ราคาปัจจุบันคิดเป็น PE ปีหน้าเพียง 10 เท่า ต่ำเท่ากับช่วงเข้าตลาดใหม่ๆ เป้าของเราที่ 7.50 บาทไม่ได้รวมเหมืองแม่เมาะ 9 แนะนำซื้อ
(+) COMAN แม้คาดกำไรสุทธิ 4Q17 จะชะลอทั้ง Q-Q และ Y-Y แต่ข้อดีคือ คาดว่าไม่มีการตั้งด้อยค่าความนิยมของ MSL ทำให้คาดผลประกอบการทั้งกลุ่มผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เราคาดกำไรสุทธิปี 2018-2019 จะกลับมาโตสูง 93% Y-Y และ 20% Y-Y ราคาปัจจุบันคิดเป็น PE2018 เพียง 24 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 30-35 เท่า อีกทั้ง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง เงินสดในมือสูง 2 บาท/หุ้น แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 9.00 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
12 ธ.ค.
|
- ฟิลิปปินส์: ดุลการค้า (ต.ค.)
|
13 ธ.ค.
|
- ยูโรโซน: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (ต.ค.), ยอดคนว่างงาน 3Q17
- สหรัฐฯ: ประชุม FOMC ตลาดคาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25 เป็น 1.50%, อัตราเงินเฟ้อ(พ.ย.) ตลาดคาดทรงตัวที่ 2%
|
14 ธ.ค.
|
- จีน: ตัวเลขเศรษฐกิจประจำเดือน พ.ย. 17
- ฟิลิปปินส์: ประชุมธนาคารกลาง ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 3%
- ยูโรโซน: ประชุม ECB, Flash PMI ภาคการผลิต (พ.ย.)
|
15 ธ.ค.
|
- สหรัฐฯ: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (พ.ย.)
|
- (+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนพลิกกลับมาปิดบวกและทำ New High ได้ต่อเนื่องนำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและพลังงาน แม้จะกระทบระยะสั้นจากเหตุระเบิด
- (0) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยโดยลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางใหญ่ 2 แห่งคือ FED และ ECB
- (0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในกรอบแคบโดยนักลงทุนจับตาดูการประชุม FOMC
- (0) ค่าเงินบาทเช้านี้ยังแกว่งตัวออกข้างในกรอบ 32.54-32.66 บาท/ดอลลาร์
- (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ปิดบวก 0.63 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 57.99 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าท่อส่งน้ำมันในทะเลเหนือปิดซ่อมบำรุง รวมถึงแรงหนุนจากเหตุระเบิดในนิวยอร์ก
- ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ขยับลง 1.50 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,246.90 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยลงทุนยังลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยหลังตลาดหุ้นยังพุ่งทำ New High ต่อเนื่อง ขณะที่การประชุม FOMC คาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25%
|
บันทึกโดย : วันที่ :
12 ธ.ค. 2560 เวลา : 10:07:35
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น