คำแนะนำ
เก็งกำไรระยะด้วยความระมัดระวังเนื่องจากราคาขยับขึ้นค่อนข้างน้อย โดยรอราคายืนเหนือบริเวณ 1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และทยอยปิดสถานะทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,251 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,236 1,227 1,219
แนวต้าน 1,251 1,260 1,271
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 5.89 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ท่ามกลางการคาดการณ์ในวงกว้างว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค. ทั้งนี้ บรรดาเทรดเดอร์คาดว่ามีความเป็นไปได้ 87.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% และมีโอกาส 12.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ อย่างไรก็ตามอัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำและค่าแรงที่เติบโตอย่างเฉื่อยชาในสหรัฐทำให้นักลงทุนรอดูสัญญาณบ่งชี้การดำเนินนโยบายของเฟดในปี 2018 จากแถลงการณ์ของนางเจเน็ต เยลเลนประธานเฟดและ Dot Plot หรือคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเจ้าหน้าที่เฟด ส่งผลให้ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวในกรอบและพยายามทรงตัวเพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว อีกทั้งราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังได้รับแรงหนุนจากเหตุระเบิดในนิวยอร์ค ซึ่งนายกเทศมนตรีนิวยอร์คระบุว่าเป็นความพยายามโจมตีของผู้ก่อการร้าย ขณะที่วันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจขนาดเล็กจาก NFIBและดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย.เพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำทิศทางราคาทองคำ
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำไม่สามารถ break out ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,251 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ จึงมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้กลับลงมาตั้งฐานราคาด้านล่างอีกครั้ง เบื้องต้นประเมินว่าราคายังคงเคลื่อนไหวระหว่าง 1,236-1,251 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนราคาเหนือแนวรับระดับนี้ได้ จึงจะมีแรงดีดกลับไปทดสอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
หากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,251 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวแนะนำให้เปิดสถานะขายทำกำไรระยะสั้นและหากราคาอ่อนตัวลงเข้าซื้อเมื่อราคายืนเหนือบริเวณ 1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง
ข่าวเด่น