กลยุทธ์วันนี้ >> ถือ Let Profit Run และซื้อเพิ่มช่วงอ่อนตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ได้ตลอดทั้งวันตามคาด โดยปิด ณ สิ้นวันบวกขึ้น 4.76 จุด ตลาดยังคงจับตาดูผลการประชุม FOMC ช่วงเช้าตรู่วันนี้ รวมถึงการประชุม ECB คืนนี้ นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 อีก 1,308 ลบ. (และ Net Short ใน Index Futures ต่อเนื่องอีก 9,496 สัญญา) ขณะที่สถาบันในประเทศยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเป็นวันที่ 7 อีกถึง 3,002 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Up ขึ้นทดสอบ 1,710-1,715 จุดได้หลัง FED ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ตามคาดและปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจ ขณะที่มีรายงานว่าตัวแทนฝ่ายเจรจาทั้ง 2 สภา สามารถบรรลุข้อตกลงในหลักการของมาตรการปฏิรูปภาษีแล้ว เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อ SET ในช่วงครึ่งเดือนหลังจากแรงซื้อของสถาบันในประเทศจากเม็ดเงิน LTF/RMF ขณะที่ปีหน้ายังคงได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจที่เร่งตัว ส่วนระยะสั้นคาดว่าจะเห็นแรงเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นที่ถูกเข้าคำนวณใน SET50/SET100 รอบล่าสุด
กลยุทธ์ : ถือ Let Profit Run และซื้อเพิ่มช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. : BBL, CMO, EPG, MINT, ROBINS
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$243ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$106ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$40ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเวียดนาม US$2.5ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค หลัง FED มีมติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามที่คาด 0.25% นักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อขายก่อนหยุดยาวในช่วงเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> ASAP <<
- คาดกำไร 4Q17 ดีที่สุดในปีที่ราว 40 ลบ. +13% Q-Q, +174% Y-Y จาก 1) ฤดูกาลการท่องเที่ยวและวันหยุดยาวหลายวัน ส่งผลดีต่อการเช่ารถยนต์ระยะสั้น โดย ASAP เตรียมรถให้เช่าเพิ่มอีก 100 คัน 2) เริ่มขายรถที่ใช้แล้วผ่านช่องทาง On-line ราว 300-400 คัน ซึ่งมีอัตรากำไรดีกว่าช่องทางเดิม (ประมูล)
- เรามีแนวโน้มทบทวนประมาณการ แต่โดยรวมคาดว่า ASAP ยังมี Story ที่หนุนรายได้และกำไรต่อเนื่องในปี 2018 จากการเปิด ASAP Auto Park (การก่อสร้างเป็นไปตามแผน) ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจขายรถใช้แล้ว และเพิ่มรายได้จากการให้เช่าพื้นที่และส่วนแบ่งรายได้จากร้านค้าในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีการขยายกองรถให้เช่าอีก 2-3 พันคัน
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.20 บาท ราคาปรับตัวลงจน PE2018 เหลือเพียง 18 เท่า ขณะที่ รูปแบบการเคลื่อนไหวคล้ายปลาย ก.ค. 17 ที่ลงแรงแล้วใช้เวลาสร้างฐานไม่เกิน 2 วัน ก่อนจะฟื้นกลับเร็วกว่า 30% ใน 2 สัปดาห์
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) หุ้นเข้า SET50/SET100 สำหรับรอบ 1 ม.ค. – 30 มิ.ย. 18 หุ้นเข้าใหม่ใน SET50 คือ BCP BEAUTY CENTEL TPIPP SAWAD WHA หุ้นที่ถูกถอดออก BLA DELTA GLOW RATCH SCCC TPIPL ส่วนหุ้นเข้า SET100 คือ ESSO GGC HANA JMART JWD MC ORI PSL SGP STA TPIPP UV WHAUP หุ้นที่ถูกถอดออก BLA DELTA GLOW LHBANK MALEE PLANB PTL RATCH S SCCC STPI THANI VGI
(0) BDMS ข่าวแพ้คดีโครงการ Life Privilege Club และให้กลับมาให้บริการแก่สมาชิกต่อ เราคาดผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มจำกัดมาก เมื่อเทียบกับฐานกำไรปีละราว 8,000 ลบ.ต่อปี ส่วนประเด็นการตั้งหนี้สินใน 4Q16 สุทธิราว 726 ลบ.จากการยุติบริการดังกล่าวซึ่งไม่ผ่านงบกำไรขาดทุน (หักจากกำไรสะสมโดยตรง) เรามองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการกลับรายการ ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside จำกัดและยังต้องติดตามการเปิดให้บริการ Wellness Center ยังคงแนะนำเพียงถือ ราคาเป้าหมาย 23 บาท
(+) RSP เรายังแนะนำซื้อลงทุน ราคาเป้าหมาย 9.5 บาท โดยคาดกำไร 4Q17 เติบโต Q-Q ตามฤดูกาลและได้ผลบวกจากช้อปช่วยชาติ เราคาดที่ 55-60 ลบ. จากที่ทำได้ 46 ลบ. ใน 3Q17 และสินค้าใหม่แบรนด์ Pony ที่เปิดสาขาแรกในเดือน ก.ย. โดยสิ้นปีนี้น่าจะเปิดได้ครบตามเป้าที่ 38 แห่ง ล่าสุดยอดขายเดือน พ.ย. ทำได้มากกว่าเป้าแล้ว เรามองผ่านกำไรต่ำสุดปีนี้ที่คาด -23.7% Y-Y และจะกลับมาโตในปีหน้า +29.8% Y-Y เท่ากับที่เคยทำได้ในปี 2016 PE2018 ต่ำเพียง 15 เท่า และ PEG เพียง 0.88 เท่า ถูกกว่ากลุ่มค้าปลีกมาก
(+) PT แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.80 บาท ราคาหุ้นยัง laggard โดยขึ้นเพียง 12% YTD น้อยกว่า AIT ที่ขึ้น 18% YTD และ PE2018 ต่ำเพียง 10 เท่า (กลุ่ม SI อยู่ที่ 13 เท่า) ปันผลสูง 5% ต่อปี ตรงข้ามกับแนวโน้มกำไรที่คาดทำ All Time High ตั้งแต่ 4Q17 ต่อเนื่องถึงปีหน้า จากการลงทุนด้านไอทีของกลุ่มแบงก์
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
14 ธ.ค.
|
- จีน: ตัวเลขเศรษฐกิจประจำเดือน พ.ย. 17
- ฟิลิปปินส์: ประชุมธนาคารกลาง ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 3%
- ยูโรโซน: ประชุม ECB, Flash PMI ภาคการผลิต (พ.ย.)
|
15ธ.ค.
|
- สหรัฐฯ: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (พ.ย.)
|
21ธ.ค.
|
- ไทย: VCOM เริ่มซื้อขายวันแรก
|
26ธ.ค.
|
- ไทย: DDD เริ่มซื้อขายวันแรก
|
- (+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกและทำนิวไฮต่อหลังเฟดปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงเนื่องจากผลการประชุมเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้าซึ่งไม่ต่างจากคาดการณ์เดิมของตลาด
- (-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบจากความกังวลการเลือกตั้งอิตาลีในปีหน้า ขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนทราบผลการประชุมเฟด
- (+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดขยับขึ้นเล็กน้อยในกรอบแคบๆหลังผลการประชุมเฟดออกมาตามคาด
- (0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 32.48-32.56 บาท/ดอลลาร์
- (-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ปิดลบ 0.54 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 56.60 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA ระบุการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.78 ล้านบาร์เรล/วัน และ สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดมาก กดดันให้ราคาน้ำมันดิบปรับลงแม้สต๊อกน้ำมันดิบ และ น้ำมันดีเซลจะปรับตัวในทิศทางที่ดี
- ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดบวก 6.90 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,248.60 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าหลังข้อมูลเงินเฟ้อ และ ผลประชุมเฟดที่สอดคล้องกับคาดการณ์ก่อนหน้า
-
ข่าวเด่น