ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน SET INDEX วันนี้ ทรงตัวกรอบแคบ (15/12/60)


 กลยุทธ์วันนี้

          Selective Buy

Smart Pick
1. สะสม MINT : ราคาปิด 42.25 บาท ราคาเหมาะสม 52.50 บาท 
          a) มีปัจจัยบวกรออยู่ เนื่องจากเป็น 1 ในหุ้นที่ดัชนี FTSE ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุน ซึ่งจะมีการปรับน้ำหนักดัชนีในวันนี้
          b) คงมุมมองเชิงบวกหลังผู้บริหารให้ข้อมูลในงาน Corporate กับเราวานนี้ โดยคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q60 จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จาก High Season ธุรกิจท่องเที่ยว และการขายโครงการอนันตรา ลายัน ภูเก็ตช่วยหนุนรายได้อีกราว 300 ล้านบาท รวมทั้งรายได้จากกลุ่มโรงแรมทิโวลีในโปรตุเกสที่เพิ่มขึ้นหลังเสร็จสิ้นการ Renovate ส่งผลให้มีการปรับขึ้นราคาเฉลี่ยห้องพักขึ้น
          c) คาดกำไรสุทธิปี 2561 เติบโต +18% YoY เป็น 6,742 ล้านบาท เติบโตสูงกว่า MINT และ ERW จึงเชื่อว่าราคาหุ้น MINT จะกลับมา Outperform กลุ่มได้ในปี 2561

2. สะสม PTTGC : ราคาปิด 83.50 บาท ราคาเหมาะสม 98.00 บาท 
          a) Yuanta ประเมินว่า Overhang ต่อราคาหุ้นได้ถูกปลดล็อกแล้ว หลังบริษัทเสร็จสิ้นการขายหุ้น Treasury คืนผ่านตลาดหลักทรัพย์จำนวน 48 ล้านหุ้นแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา 
          b) คาดกำไรปกติ 4Q60 เติบโต YoY และ QoQ จากส่วนต่างราคา HDPE ที่เพิ่มขึ้นจากผลบวกของราคาน้ำมันที่ไต่ระดับขึ้น และคาดว่าจะมีแรงหนุนจาก Stock Gain เข้ามาช่วยหนุนกำไร หลังราคาน้ำมันดิบดูไบล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น US$61.01/barrel จากสิ้นสุด 3Q60 ที่ US$56.28/barrel 
          c) ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น +32% Ytd เทียบกับ TOP +42% และยังมี Valuation ที่ไม่แพง ที่ระดับ PBV ราว 1.3 เท่า รวมทั้งให้ Yield ราว 4.5% ต่อปี

ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          วานนี้ SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 8.06 จุด ปิดที่ 1714.99 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 4.7 หมื่นล้านบาท ได้รับแรงหนุนหลักจากหุ้นขนาดใหญ่อย่าง CPALL +1.66%, AOT +1.2% และ KBANK +1.79% ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 10 ติดต่อกัน อีกราว 602 ล้านบาท รวมราว 1.2 หมื่นล้านบาท  สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันอีกราว 1.5 พันล้านบาท รวมกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมามีสถานะ Long สุทธิวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 4.8 พันสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันราว 2.6 พันสัญญา รวมกว่า 1.5 หมื่นสัญญา

กลยุทธ์วันนี้
          เราคาด SET INDEX วันนี้ ทรงตัวกรอบแคบ 1705-1720 จุด มูลค่าการซื้อขายซึมตัวต่ำกว่าระดับ 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ช่วงท้ายของชั่วโมงการซื้อขายวันนี้ คาดมีความผันผวนของหุ้นรายตัวในแง่ของราคาและมูลค่าการซื้อขาย เนื่องจากมีการปรับน้ำหนักดัชนี FTSE วันนี้
          ติดตามกระแสเงินทุนต่างชาติ อาจชะลอตัวลงมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพราะใกล้ช่วงวันหยุดยาวปลายปี และต่างชาติได้ทยอยขายหุ้นไทยมา 10 วันต่อเนื่องรวมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาทแล้ว 
เรายังเชื่อเช่นเดิมว่า ในระยะกลาง SET INDEX จะเลือกทางขึ้น เพื่อไต่ระดับทะลุแนว 1720 จุด มากกว่าการปรับฐานลงแรง เพราะมีปัจจัยสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ, การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทรงตัวระดับสูง
          ปัจจัยติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่ การประชุม กนง. (20 ธ.ค.), GDP 3Q60 ของสหรัฐฯ (รอบสาม) (21 ธ.ค.), ยอดนำเข้า-ส่งออกของไทย (22 ธ.ค.)   
          กลยุทธ์การลงทุนในวันสุดท้ายของสัปดาห์ เน้นเลือกซื้อหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว (Selective Buy) โดยเฉพาะหุ้นที่ราคายังปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มาก (Laggard)

ปัจจัยสำคัญวันนี้

  • ผลการประชุม BoE และ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยทั้ง 2 ธนาคาร แต่ BoE กังวลต่อผลกระทบกรณี Brexit และ ECB เผยมีโอกาสขยายระยะเวลาหรือขยายวงเงิน QE ออกไปหากจำเป็น
  • หนึ่งในวุฒิสมาชิกพรรค Republican ปฏิเสธการสนับสนุนนโยบาย Tax Reform
  •  IEA คาดปริมาณน้ำมันดิบจะล้นตลาด ในปี 62 จากการผลิตของสหรัฐฯ

ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า

  • ติดตามการรายงานเงินเฟ้อ EU ในวันที่ 18 ธ.ค.
  • ติดตามการประชุม กนง. ในวันที่ 20 ธ.ค. ตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ย
  • ติดตาม GDP 3Q60 สหรัฐฯ ครั้งที่ 3 ตลาดคาดขยายตัว 3.3% วันที่ 21 ธ.ค. 
  • ติดตามการรายงานการนำเข้า ส่งออก ไทย เดือน พ.ย. วันที่ 22 ธ.ค. ตลาดคาดขยายตัว 6.25% ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 13.1%

บันทึกโดย : วันที่ : 15 ธ.ค. 2560 เวลา : 11:21:14

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 4:14 pm