“Mid-Small Cap Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway Up” ต้าน 1722/1729จุด รับ 1707/1704จุด พรรครีพับลิกันเผยร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีฉบับรวม โดยคงจำนวนขั้นบันไดการคำนวณภาษีที่7ขั้น ขณะที่ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 21% จาก 35% พร้อมทั้งเพิ่มเงินลดหย่อนภาษีเพื่อสงเคราะห์บุตรเป็นสองเท่า โดยมีผลบังคับใช้ทันทีวันที่ 1 ม.ค.2018 ซึ่งสว.จะลงมติ18 ธ.ค. และสส.จะลงมติ19 ธ.ค. นี้ เป็นปัจจัยหนุนสินทรัพย์เสี่ยงโลก ผสานคลังเตรียมชงมาตรการลดภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง2018 กระตุ้นการบริโภคต่อเนื่อง วันนี้แนะ “Mid-Small Cap Play” : MM, PSTC, SNC
Nomura : Key Factors
- (+) US: ร่างปฏิรูปภาษีฉบับรวม คงจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีไว้ที่ 7 ขั้น ขณะที่ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 21% จาก 35% เพิ่มเงินลดหย่อนภาษีเพื่อสงเคราะห์บุตรเป็นสองเท่า โดยมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 1 ม.ค.ปี 2017
- (+) TH: คลังเตรียมชงมาตรการลดภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง2018 กระตุ้นการบริโภคต่อเนื่อง
- (*) Currency: ค่าเงินดอลล่าร์พลิกกลับมาแข็งค่าสั้น กดดันค่าเงินเอเชียอ่อน
- (*) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +0.46% สู่ $57.30/bbl / BRT -0.13% สู่ $63.23/bbl
- (*) Fund Flow: ล่าสุดซื้อหุ้น+657 ลบ,Short Future -9,364สัญญา,ซื้อBond+4,987ลบ
Nomura Daily Top Picks: MM, PSTC, SNC
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway Up” แนวต้าน 1722/1729จุด แนวรับ 1707/1704จุด พรรครีพับลิกันได้เปิดเผยรายละเอียดขั้นสุดท้ายของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับรวม โดยร่างกฎหมายดังกล่าวระบุว่า ให้คงจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีไว้ที่ 7 ขั้น ขณะที่ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 21% จากระดับ 35% โดยมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า แทนที่จะชะลอออกไปอีก 1 ปีตามร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของวุฒิสภา นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มเงินลดหย่อนภาษีเพื่อสงเคราะห์บุตรเป็นสองเท่า ซึ่งก่อนหน้านี้ตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่านายรูบิโอ และนายไมค์ ลี สองวุฒิสมาชิกจะไม่สนับสนุนร่างหากไม่มีการเพิ่มวงเงินดังกล่าว ดังนั้น รายละเอียดของร่างกฏหมายฉบับรวมนี้ คาดจะทำให้สภาคองเกรสโหวตรับร่างดังกล่าวได้ โดยวุฒิสภาจะลงมติในวันที่ 18 ธ.ค. และสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติในวันที่ 19 ธ.ค. และคาดว่าจะถูกส่งให้กับปธน. Donald Trump ลงนามได้ภายในสัปดาห์นี้ ถือเป็นปัจจัยหนุนตลาดสินทรัพย์เสี่ยงโลก ประกอบกับแรงหนุนจากในประเทศ โดยกระทรวงการคลังเตรียมเสนอครม.พิจารณามาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรองปี 2018 โดยให้สิทธินำรายจ่ายจริงไม่เกิน 15,000 บาทมาหักลดหย่อนภาษี คาดจะกระตุ้นการบริโภคในประเทศมากขึ้น หนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง
Asset allocation : ถือหุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : กลยุทธ์กลุ่ม Big cap เน้น PTTEP, KBANK, MINT, STEC ผสาน 8 Theme เด่น
กระทรวงแรงงานเตรียมปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2-15บาท คาดมีบทสรุปสัปดาห์หน้าบวกต่อกลุ่มการบริโภค CPALL, ROBINS
Election & Investment spending : เน้น BBL, KBANK, TMB, STEC, CK
EU : เตรียมพิจารณากลับมาเจรจาการค้ากับไทย หลังเลือกตั้งปี 2018 หนุน TU, CPF
Tourism play : คลังอนุมัติในหลักการ การเพิ่มจุดขอคืนภาษี (Tax refund) หนุนการท่องเที่ยว (+MINT ERW) และ consumer +ROBINS FN MM PM JUBILE
กลยุทธ์ Pair Trade แนะนำ Short หุ้นเสียประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าไว คือ SBL/Short KCE ไป ซื้อ/Long THAI ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าเทียบ Euro และ Seasonal ล่าสุด THAI/KCE มี Ratio ที่ 0.20X รอปิดทำกำไร 0.22-0.23X
Consumer Play : แนะนำ MM(TP6.5), FN(TP7) , KAMART, JUBILE, PM ส่วน Big Cap. ROBINS, CPALL, HMPRO แนะนำถือลงทุน
ตลาดประกาศหุ้นเข้า SET50/100 หุ้นเข้า SET50 : BCP, BEAUTY, CENTEL, TPIPP, SAWAD & WHA/หุ้นหลุด SET50 : BLA, DELTA, GLOW, RATCH, SCCC & TPIPL หุ้นเข้า SET100 : ESSO, GGC, HANA, JMART, JWD, MC, ORI, PSL, SGP, STA, TPIPP, UV & WHAUP หุ้นหลุด SET100 : BLA, DELTA, GLOW, LHBANK, MALEE, PLANB, PTL, RATCH, S, SCCC, STPI, THANI & VGI โดรอบนี้หุ้นที่ราคาดว่าจะเข้า SET50/100 เข้าตามคาด 100% แต่มี Surprise หุ้นที่เข้า SET50 มากกว่าเราประเมิน คือ BCP, BEAUTY, WHA กลยุทธ์เน้น หุ้นพื้นฐานดีเข้า SET50/100 เพื่อเก็งกำไรแนะนำ SAWAD, WHA/SGP, UV
Portfolio Top Picks DEC 2017 : KBANK, MINT, STEC, FN, MM, PSTC
Investment Theme:
4Q17F : Domestic Recovery: KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL, MINT, SCC
1) Consumer Recovery : KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL
2) Seasonal & Laggard : MINT
3) Infrastructure spending begins & High Yield : SCC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
MM (TP18F 6.5): Support: 4.58/4.5 Resistant: 4.8/4.9
- Theme : Consumer Play
- Earnings Outlook : จุดแข็งที่มีแบรนด์ร้านอาหารหลายแบรนด์ สร้างโอกาสเปิดสาขาได้ทั่วโลก นำโดย Greyhound café จะเริ่มบุกยุโรป ขณะที่ยัง Enjoy ตลาดในไทยและเอเชียที่ประสบความสำเร็จ ตามด้วย Au bon pain จะเริ่มบุก CLMV ขณะที่ Dunkin’ Donuts ยังสร้างกระแสเงินสดได้สูง และสุดท้ายปัจจัยฉุดรั้งผลประกอบการทั้ง Baskin Robins คาดเริ่มถึงจุด Breakeven และร้านเสื้อผ้าแบรนด์ Greyhound จะเปลี่ยน Model ธุรกิจ ลดผลขาดทุน โดยระยะสั้นคาด 4Q17F จะพลิกมีกำไรเป็นครั้งแรก และคาดกำไร 3 ปีนี้ CAGR เฉลี่ย 31.8%
- Valuation : ราคายังไม่ได้สะท้อนโอกาสที่ผลประกอบการจะเริ่มกลับมาดี โดยซื้อขาย EV/EBITDA 16.1x vs กลุ่มฯ 17.5x ขณะที่ การเติบโตของกำไร MM สูงกว่ามาก และราคายังต่ำกว่าราคา IPO @ 5.25
- Catalyst : การบริโภคฟื้นตัว ทั้ง GDP Growth + ดัชนีความเชื่อมั่นสูงสุดรอบ 33 เดือน + ยอดจองรถมอเตอร์ expo เพิ่มเป็นครั้งแรกรอบ 2 ปี + คาดผลประกอบการ 4Q17F พลิกเป็นกำไรไตรมาสแรกในรอบ 5 ไตรมาส
PSTC (TP18F 1.27): Support: 0.78/0.75 Resistant: 0.85/0.89
- Theme : Earnings Play
- Earnings Outlook : คาดกำไร 4Q17F พลิกเป็นกำไร y-y ทรงตัว q-q จากมีค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาทางการเงินทำดีล แต่คาดจะได้อานิสงส์บวกจากบันทึกรายได้ BIGGAS เข้ามาราว 2 เดือนในไตรมาสนี้ และฐานกำไรจะเร่งตัวขึ้นอีกครั้งในช่วง 1H18 โดยเตรียมรับรู้โรงไฟฟ้าชีวภาพ 4 แห่งใหม่ +11.1 MW (SPN, ARN, NWR, SYS) หนุนกำไรสุทธิ 2018F เติบโตแตะ 199.7 ลบ. เพิ่มขึ้นกว่า +285% y-y
- Valuation : ปรับราคาเป้าหมาย 18F ขึ้นที่ 1.27 บาท (เดิม 1.0 บาท) หรือเพิ่มขึ้น +27% คำนวณแบบ Fully diluted มาจาก i) โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 17 โรง รวม 69.7 MW มูลค่า 0.96 บาท ii) เงินสด 1.44 พันลบ. จากการเพิ่มทุนหุ้น PP มูลค่า 0.22 บาท iii) ธุรกิจติดตั้งระบบไฟฟ้า อิง PER18F ที่ 16x เท่ากับ 0.09 บาท อย่างไรก็ดี เรายังไม่ได้รวมมูลค่าที่แท้จริงของ BIGGAS & ท่อน้ำมัน TPN เข้าไว้ในราคาเป้าหมายครั้งนี้
- Catalyst : วันนี้ (18 ธ.ค.17) ลูกหุ้นเพิ่มทุน PP ล็อตที่ 2 จำนวน 1 พันล้านหุ้นจะเข้าซื้อขายในกระดาน หากราคาปรับตัวลงมาจาก Sentiment เชิงลบหุ้นใหม่เข้า แนะนำเป็นจังหวะเข้าสะสมเพิ่ม รอสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของ BIGGAS และท่อน้ำมัน TPN
SNC (TP18F 19.3): Support: 13.8/13.3 Resistant: 15.0/15.4
- Theme : Bottom Play
- Earnings Outlook : หลังการย้ายโรงงานมารวมศูนย์ตั้งแต่ปลายปีก่อน เริ่มทยอยส่งผลต่อรประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น ผสานกลยุทธ์ด้าน cost saving เข้มข้น จะเริ่มเห็นผลชัดเจนใน 4Q17 คาดกำไร 90 ลบ. (+31% q-q, 18% y-y) สูงกว่าตลาดและเราคาด และเด่นต่อเนื่อง ที่จะเข้าช่วง peak ใน 1Q18F คาดกำไรยังเพิ่มทั้ง y-y, q-q
- Valuation : ณ ระดับราคาปัจจุบันถือว่ามี Downside จำกัด ทั้งจากประมาณการ Consensus (ความคาดหวังต่ำ) และ Valuation ดึงดูดทั้งมิติ PER 10.1x, P/CFO 5.4x, Div yield 6.4%, ROE 15% + ฐานะการเงินแข็งแกร่ง
- Catalyst : เข้าสู่ช่วงใกล้จ่ายปันผล คาด 2H17 ที่ 0.45 บาท/หุ้น (Yield 3.2%)(ประกาศ ก.พ.) + Consensus มีโอกาสปรับประมาณการขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 ปี
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
ข่าวเด่น