Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,720 จุด ผลักดันจากแรงซื้อในกลุ่มพลังงานอย่าง PTTEP, PTT, GULF และกลุ่ม ICT อย่าง ADVANC , DTAC, TRUE และโรงกลั่นอย่าง TOP, IRPC, ESSO อย่างไรก็ตามเราเห็นแรงขายทำกำไรในกลุ่มโรงแรม ERW, CENTEL ภายหลังปรับตัว outperform ตลาดมาเป็นเวลานาน ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,724 จุด (+6.8 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.5 หมื่นลบ. ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.2 หมื่นล้านบาท (มี Biglot SQ 57 ล้านหุ้น)
นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 ที่ 431 ล้านบาท และคงสถานะ Short SET50 Index Future ที่ 7,900 สัญญา
Investment theme
2 สัปดาห์สุดท้ายของปี จับตาสถาบันดัน SET ทดสอบแนวต้าน 1730 : อ้างอิงจากสถิติ 8 ปีที่ผ่านมา (ภายหลัง Subprime crisis) พบว่าในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปี นักลงทุนต่างประเทศจะเริ่มลดสัดส่วนการขาย ในขณะที่นักลงทุนสถาบันจะเพิ่มสัดส่วนการซื้อ โดยในปีนี้ เราเริ่มเห็นสัญญาณที่สอดคล้องกับสถิติในอดีต โดยในสัปดาห์ทีผ่านมา เราเริ่มเห็นนักลงทุนต่างประเทศ ลดสัดส่วนการขายหุ้นอย่างชัดเจน (ล่าสุดพลิกมาซื้อ 2 วันติด) ในขณะที่นักลงทุนสถาบันซื้อสะสมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เราคาด SET มีโอกาส Break กรอบสามเหลี่ยมในช่วงปลายธันวาคม และจะได้รับแรงสนับสนุนจากการ Rotate เงินจากพันธบัตรกลับเข้าซื้อในตลาดหุ้นต่อเนื่องในช่วงเดือนมกราคม ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังดูมีความเสี่ยงในช่วงต้นปี ส่งผลให้เรามองว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคบ้านเราดูมีความน่าสนใจในการลงทุน แนะนำนักลงทุนถือหุ้นกลุ่มค้าปลีก (BJC) , กลุ่ม Logistic (WICE), พลังงาน (PTTEP) และสำหรับกลุ่มโรงแรม แนะนำทยอยขายทำกำไรในช่วง 1Q61
Investment theme: คาด SET ใกล้จบการแกว่งตัวในกรอบสามเหลี่ยม บริเวณ 1,680-1,720 และมีโอกาส Break กรอบสามเหลี่ยมในช่วงปลายเดือนธันวาคม-ต้นเดือนมกราคม โดยต้านถัดไปประเมินที่ 1730 จุด เน้นสะสม Big Cap (ENERG, PETRO, BANK, COMMERCE)
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ ทั้ง 3 ตลาด (Dow Jones, S&P, Nasdaq) ดีดขึ้นทำ All Time High ขานรับความคืบหน้ากฎหมายปฎิรูปภาษี / ดัชนี Housing Market US ธค. ขึ้นสู่ 74 จุด จาก 70 ดีกว่าคาดที่ 70
IRPC : ปรับขึ้นเป็น “ซื้อ” ปรับเป้าหมายสู่ 7.5 บาท
EGCO : ซื้อ เป้าหมาย 246 บาท มุมมองกลาง-บวก ต่อการขายสัดส่วน 49% ใน MPPCL
Stock pick : BJC
BJC : ทยอยสะสม เป้าหมาย 68.00 บาท
คาดกำไร 4Q60 เติบโต YoY, QoQ สนับสนุนจากการเติบโต 3 ธุรกิจหลัก ( ขวดแก้ว, กระป๋อง และ สินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าเวชภัณฑ์ ) และการขยายกำลังการผลิตธุรกิจขวดแก้วเพิ่มขึ้น 10% เป็น 3,000 ตันต่อวัน รวมถึงธุรกิจ BIGC ที่คาดว่าจะมีรายได้เฉลี่ยต่อสาขา (SSSG%) ไม่ต่ำกว่า 5% อีกทั้งมีโอกาส book กำไรพิเศษจากเครดิตภาษีจากการปรับโครงสร้างบริษัทลูก
เรามีมุมมองเชิงบวกจากโมเดลธุรกิจ B2B ในการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Horeca (โรงแรม และร้านอาหาร) และการขยายสาขาเชิงรุกของ BIGC ที่ปรับขนาดพื้นที่สาขาให้เล็กลง และเร่งการขยายสาขา ซึ่งถือเป็นโมเดลที่เพิ่มความคล่องตัวในการขยายสาขา และอัตรากำไร และระยะเวลาคืนทุนที่ดี
Trading idea – – สะสม IRPC (7.50) มุมองบวกโครงการ UHV / เก็งกำไร PTTEP (upside จากการปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบ) ทยอยสะสมกลุ่ม Out of home media อย่าง VGI (7.00) , MACO (2.42) และกลุ่ม Logistic (WICE)
Technical View
ทดสอบแนวต้าน High ของปีที่ 1730 : ดัชนีมีแรงซื้อส่งหลักจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ทำให้สามารถ Break กรอบสามเหลี่ยม (Symetry Triangle) ได้สำเร็จ ระยะสั้นมีแนวต้าน High ของปีที่ 1730 เป็นจุดวัดใจ หากผ่านได้จะเป็น Buy Signal ในระยะยาว โดยดัชนีจะกลับไปแกว่งในกรอบ Uptrend Channel มีแนวต้านระยะกลางถึงยาวที่ 1750 จังหวะอ่อนตัวระหว่างวันยังมองเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นตามแนวรับ
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: Let Profit Run และพิจารณาแรงขายที่แนวต้าน 1730 2) ไม่มีหุ้น: หากอ่อนตัวสู่แนวรับ มองเป็นโอกาสสะสมหรือ Trading ระหว่างวัน
แนวรับ : 1713, 1710 แนวต้าน : 1720, 1730
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : จับตาส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว-สั้นของสหรัฐปรับตัวลงอย่างมาก (Flattening yield curve) / จับตาการหารือประเด็นภาษีระหว่าง ส.ว. และ ส.ส. สหรัฐ
ปัจจัยในประเทศ : จับตากระทรวงพาณิชย์เร่งแก้ปัญหาปาล์ม / จับตาปัญหาการประมงไทย / ประชุมกนง วันที่ 20 ธ.ค. คาดคงที่ 1.5% /
หุ้นเทคนิค:
PTTEP (B 96.00-97.00, Tp 99.00//102.00, Cut 94.50)
PTT (B 432.00, Tp 440.00, Cut 428.00)
ข่าวเด่น