Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นทะลุกรอบ 1,730 ทำระดับสูงสุดในรอบ 23 ปี โดยมีแรงซื้อเด่นใน BANPU ภายหลังราคาถ่านหินดีดตัวขึ้นแตะระดับ 100 เหรียญ และ BDMS ซึ่งถือเป็นหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ ที่ Laggard กลุ่มอยู่พอสมควร ในขณะที่มีแรงซื้อในกลุ่มธนาคาร (SCB, KBANK, BBL) ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,732 จุด (+8.6 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.5 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.5 หมื่นล้านบาท (มี Biglot JAS-W3 650 ล้านหุ้น)
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นไทยอีกครั้งที่ 2,750 ล้านบาท แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future อีก 1,146 สัญญา
Investment theme
กลุ่มพลังงานมี Upside จากสมมติฐานราคาน้ำมัน ในขณะที่กลุ่มค้าปลีก ยัง Trading ได้ : ในระยะสั้นเรามีมุมมองเชิงบวกกับราคาน้ำมันดิบ สะท้อนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกพร้อมๆกันทั้งจากสหรัฐอเมริกา , ยุโรป, และฝั่งเอเชียอย่างจีน และญี่ปุ่น ส่งผลบวกทางอ้อมต่อกลุ่มพลังงาน (PTT,PTTEP) อีกทั้งเรามองว่ากลุ่มพลังงานยังมี Upside จากสมมติฐานราคาน้ำมันดิบ ซึ่งปัจจุบันนักวิเคราะห์ให้เป้าหมายราคาน้ำมันดิบ Dubal ปี 2561 เฉลี่ยบริเวณ 53-55.0 เหรียญ/บาร์เรล (หากเทียบกับ Brent ประมาณ 55-57 เหรียญ/บาร์เรล) ซึ่งปัจจุบันอยู่ทีบริเวณ 63.5 เหรียญ /บาร์เรล โดย 1เหรียญของการปรับขึ้น คิดเป็นกำไรในตัว PTT, PTTEP ประมาณ 2.5พันล้านบาท ถือเป็น Upside risk ที่อาจส่งผลต่อกลุ่มพลังงาน (consensus คาดกำไรกลุ่มพลังงานเติบโต 5.5% ในปี 2561) และ SET ได้ในทางอ้อม
Investment theme: ภายหลัง SET สามารถปรับตัวทะลุกรอบสามเหลี่ยมบริเวณ 1,680 - 1,720 ได้ ส่งผลให้ภาพรวมกลับมาดูดีอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเราแนะนำให้นักลงทุน Let profit run ในหุ้นกลุ่มพลังงาน , logistic, อสังหา และสำหรับคนไม่มีหุ้น เราแนะนำรอซื้อบริเวณกรอบแนวรับ 1,720 โดยเลือกหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ ในการทยอยสะสม
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา นายกเตรียมพิจารณาใช้ม.44 แก้ไขกฎหมายลูกเพื่อขยายเวลาที่กำหนดไว้ในพรบ.พรรคการเมือง / ครม.เห็นชอบกรมทางหลวงดำเนินโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง กทม.-หนองคาย และ เห็นชอบมาตราการแก้ปัญหาราคายาง และปาล์ม / ราคาปาล์ม (CPO) ปรับขึ้น 5.5% เป็น 2,470 ริงกิต/ตัน / ส.ส. โหวตผ่านกฎหมายปฎิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 227:203 (ติดตามการโหวตจากส.ว.)
บทวิเคราะห์ PTTEP
Stock pick : PTTEP
PTTEP : ปรับเป้าราคาเหมาะสมเป็น 105 บาท/หุ้น
เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 61/62 ขึ้น 16% และ 10% ตามลำดับ สนับสนุนจากการปรับสมมติฐานต้นทุนผลิตต่อหน่วยลงประมาณ 3.5% เป็น 30.8 เหรียญต่อ BOE พร้อมปรับสมมติฐานน้ำมันดิบดูไบขึ้นเป็น 55เหรียญ/บาร์เรล ส่งผลให้เราปรับใช้ราคาเหมาะสมปลายปี 2561 ที่ 105 บาท/หุ้น โดยทุกๆ 1เหรียญ ของการปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบขึ้น จะส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิปี 2561 ประมาณ 3.2% หรือคิดเป็นราคาเป้าหมาย 2 บาท/หุ้น
เรามีมุมมองเชิงบวกจากการแจ้งแผนการลงทุน 5ปี (61-65) รวม 15.5ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนประมาณ 4%) จากโครงการ S1, Southwest Vietnam และเพิ่มอัลจีเรีย HSB
Trading idea – – เก็งกำไร UVAN บริเวณ 8.00-8.50 จากประเด็นรัฐออกมาตราการเร่งแก้ไขปัญหาราคาปาล์ม และเกิด Technical rebound ในราคาปาล์ม / ทยอยสะสม BDMS
Technical View
ผ่าน 1730 เกิดสัญญาณซื้อในเทรนใหญ่ : แรงส่งจากหุ้นกลุ่ม Big Cap. ผลักดันดัชนีให้ผ่านแนวต้าน High ของปีที่ 1730 ทำให้เกิด Buy Signal ในเทรนใหญ่ แม้ในช่วงท้ายตลาดจะโดนแรงขายแต่ยังคงปิดยืนเหนือ 1730 มองว่าระยะกลางหากอ่อนตัวไม่หลุด 1720 จะยังคงมีโมเมนตัมเชิงบวกต่อเนื่องให้แกว่งขึ้นในกรอบ Uptrend Channel มีแนวต้านระยะยาวที่ 1750 จังหวะอ่อนตัวระหว่างวันยังมองเป็นโอกาสสะสมหุ้น
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: Let Profit Run หลังเกิด Buy Signal ในเทรนใหญ่ 2) หากอ่อนตัวสู่แนวรับ มองเป็นโอกาสสะสมหรือ Trading ระหว่างวัน
แนวรับ : 1730, 1725 แนวต้าน : 1736, 1740
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : จับตาส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว-สั้นของสหรัฐปรับตัวลงอย่างมาก (Flattening yield curve) / จับตาการหารือประเด็นภาษีระหว่าง ส.ว. และ ส.ส. สหรัฐ
ปัจจัยในประเทศ : จับตากระทรวงพาณิชย์เร่งแก้ปัญหาปาล์ม / จับตาปัญหาการประมงไทย / ประชุมกนง วันที่ 20 ธ.ค. คาดคงที่ 1.5% /
หุ้นเทคนิค:
BDMS (B 21.60, Tp 22.70, Cut 21.20)
SCB (B 149.00, Tp 153.00, Cut 148.00)
ข่าวเด่น