ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน (21/12/60)


 กลยุทธ์วันนี้

          Commodity Play

Smart Pick
1. สะสม PTT : ราคาปิด 440.00 บาท ราคาเหมาะสม 482.00 บาท 
          a) Yuanta คาดว่าหุ้นหลักใน SET50 จะ Outperform ตลาด เนื่องจากได้อานิสงค์เชิงบวกโดยตรงจากการไหลเข้าของเม็ดเงิน LTF, RMF ในช่วงที่เหลือของปี 
          b) น้ำมันดิบ NYMEX ที่ไต่ระดับขึ้น +0.9% dod เป็น US$58.09/barrel เป็นอีกปัจจัยช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน หลัง EIA รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบลดลง 6.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดการณ์ที่ 3.8 ล้านบาร์เรล ลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน เชื่อว่าจะช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ไต่ระดับขึ้นทดสอบ US$60.00/barrel 
          a) Valuation ไม่แพง ที่ระดับ PER2561 ที่ 10.1 เท่า และให้ Dividend Yield 4%

2. เก็งกำไร MILL : ราคาปิด 1.80 บาท ราคาเหมาะสม 2.30 บาท 
          a) ยอดนำเข้าเหล็กลวด เดือน ต.ค.ของไทย เติบโต +0.8% YoY ขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 โดยเหล็กลวดคาร์บอนเติบโตถึง +81% YoY สะท้อนให้เห็นถึง Demand ที่ขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ และเป็น 1 ในผลิตหลักของ KMS บริษัทย่อยของ MILL ซึ่งเป็น JV กับ Kobe Steel
          b) การเข้าถือหุ้น 18% ใน BTC จำนวน 200 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.90 บาท จะช่วยลดต้นทุนด้าน Logistic ให้กับ MILL ไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปี และส่งผลให้ประสิทธิภาพในการบริหารสินค้าคงคลังและการผลิตสูงขึ้นเป็น Upside ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ 
          c) คาดกำไรปกติปี 2561 เติบโต +290% YoY เป็น 444 ล้านบาท จาก KMS ที่ผ่านจุดคุ้มทุนใน 4Q60 และการควบคุมมลพิษในจีนส่งผลให้ราคาเหล็กตลาดโลกทรงตัวในระดับสูง และส่งผลบวกโดยตรงต่อผู้ประกอบการของไทยจากภาวะการแข่งขันที่จะลดลงจากเหล็กจีน

ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          วานนี้ SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.85 จุด ปิดที่ 1738.16 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 4.8 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อยราว 257 ล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน ธ.ค. อีกราว 308 ล้านบาท รวมกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิเล็กน้อย 487 สัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิ 3.5 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิ 6.8 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิ 2.8 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 อีกราว 3.7 พันล้านบาท รวมกว่า 2.8 หมื่นล้านบาท

กลยุทธ์วันนี้
          คาด SET INDEX ช่วงที่เหลือของปีจะมี upside จำกัด และเกิดภาพเปลี่ยนกลุ่มเก็งกำไร (Sector Rotation) เมื่อเข้าใกล้แนว 1740 จุด พร้อมมูลค่าการซื้อขายชะลอตัว ประเมินกรอบแกว่งวันนี้ระหว่าง 1730-1745 จุด 
          ด้านร่างภาษีสหรัฐฯ สองสภามีมติเห็นชอบแล้ว รอเพียงการลงนามรับรองโดยประธานาธิบดี Donald Trump เท่านั้น ขณะที่ประเด็นสำคัญถัดไปคือการพิจารณาร่างงบประมาณปี 2560/61 ที่ใกล้เส้นตายในวันศุกร์นี้ 
          ขณะที่การประชุม กนง. วานนี้คงอัตราดอกเบี้ยตามคาด แต่ปรับประมาณการ GDP สำหรับปี 2560-61 จาก 3.8% เป็น 3.9% ทั้งสองปี โดยปรับเพิ่มคาดการณ์ส่งออกขึ้นเป็นสำคัญ ปีนี้ปรับจาก 8% เป็น 9.3% และปีหน้าจาก 3.2% เป็น 4.0% เพราะการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกมีความเข้มแข็งมากขึ้น สอดคล้องกับมุมมองของเรา
          สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ ผู้เล่นหลักในช่วงที่เหลือของปีนี้ คือ กองทุนในประเทศ ด้วยผลฤดูกาลจากเม็ดเงินลงทุนในกองทุน LTF/RMF และแรงซื้อเพื่อปิดงวดบัญชี (Window Dressing) ขณะที่เรามองว่า Upside เริ่มจำกัดมากขึ้น กลยุทธ์รอบสั้น เราแนะนำให้นักลงทุนเริ่มพิจารณาขายทำกำไรในหุ้นหลักที่ขึ้นมาแรงก่อนหน้านี้ เพื่อหมุนเข้าเก็งกำไรหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์เป็นหลัก ทั้งกลุ่มน้ำมัน / โรงกลั่น (PTT / PTTEP/ PTTGC) ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบและค่าการกลั่นที่กลับมายืนเหนือ US$7/barrel อีกครั้ง กลุ่มน้ำตาลที่ล้อไปกับราคาน้ำตาลล่วงหน้าที่ดีดตัวขึ้นแรงเกือบ 5% วานนี้ (KSL) และกลุ่มเหล็กที่ได้อานิสงค์จากราคาเหล็กในจีนสูงกว่าราคาเหล็กในตลาดโลก รวมถึงไทย (MILL)

ปัจจัยสำคัญวันนี้

  • ส.ส. และ ส.ว. มีมติเห็นชอบต่อการร่างกฏหมายภาษี โดยในขั้นตอนต่อไปจะส่งต่อให้ Trump ลงนามเพื่อให้มีผลบังคับใช้
  • นายกฯเยอรมันเผยจะเจรจากับพรรค SPD เพื่อจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ 7 ม.ค.
  • EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 6.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 3.8 ล้านบาร์เรล
  • กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% เท่าเดิม พร้อมทั้งปรับประมาณการ GDP ไทยปี 2560 และ 2561 ขึ้นเป็น 3.9% จากเดิมที่ 3.8% ทั้ง 2 ปี
  • สมคิด รองนายกฯ เผยส่งออกไทย เดือน พ.ย. โต 13.36% ส่งผลให้ 11M60 ขยายตัว 10.1% และมั่นใจว่าปีนี้การส่งออกจะขยายตัวกว่า 10%
  • ติดตาม GDP 3Q60 สหรัฐฯ ครั้งที่ 3 และการประชุม BoJ วันที่ 21 ธ.ค. 
  • ติดตามการรายงานการนำเข้า ส่งออก ไทย เดือน พ.ย. วันนี้ ตลาดคาดส่งออกขยายตัว 7.15% ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 13.1%
  •  

บันทึกโดย : วันที่ : 21 ธ.ค. 2560 เวลา : 10:06:04

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:51 am