คำแนะนำ
ถ้ารับความเสี่ยงได้อาจเปิดสถานะขายเมื่อราคาดีดตัวขึ้นมาใกล้ 1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,271ดอลลาร์ต่อออนซ์) หรือหากรับความเสี่ยงได้ไม่มากอาจเลือกเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,251 1,243 1,236
แนวต้าน 1,271 1,282 1,294
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.93 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังยอดการสมัครขอกู้จำนอง(mortgage applications)ลดลงในสหรัฐ อีกทั้งยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการที่สภาคองเกรสของสหรัฐยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายชั่วคราวก่อนถึงกำหนดเส้นตายในเวลาเที่ยงคืนของวันเสาร์ที่ 23 ธ.ค. ตามเวลาสหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงการ "ชัตดาวน์" ของหน่วยงานรัฐบาลได้ อย่างไรก็ดีการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำถูกสกัดไว้จากความคืบหน้าในการผลักดันกฏหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐหลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและวุฒิสภาสหรัฐได้ทำการอนุมัติต่อร่างกฏหมายการปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเหลือเพียงการส่งต่อร่างกฏหมายดังกล่าวให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามเป็นกฏหมายเท่านั้น ขณะที่วันนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)คาดยังคงนโยบายการเงินตามเดิม และติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ ประมาณการครั้งสุดท้ายจีดีพีไตรมาส 3/2017, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ จาก CB
ปัจจัยทางเทคนิค
โดยรวมราคายังคงเคลื่อน ไหวในกรอบ ดังนั้นคาดว่าจะเกิดการดีดตัวกลับ โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถทะลุขึ้นมายืนได้ อาจมีแรงขายสลับออกมา ขณะที่แนวรับนั้นอยู่บริเวณ 1,251-1,243 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เสี่ยงเปิดสถานะขายในบริเวณ 1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ลดพอร์ตการลงทุนหากราคาผ่าน 1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ขณะที่หากราคาอ่อนตัวลงให้พิจารณาเข้าซื้อในโซนแนวรับ 1,251-1,243 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น