“Big cap Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “ย่อสร้างฐาน” ต้าน 1744/1749 จุด รับ 1734/1729จุด หลังตลาดปรับขึ้นแรง 8 วันติด จะปรับฐานในกรอบขาขึ้น และมีปัจจัยกดดันสั้นจากข่าวกระทรวงการคลังมีแนวคิดเก็บภาษีกองทุนรวมถึง LTF ส่วนตลาดต่างประเทศจะหยุดทำการวันนี้ โดยประเด็นลดภาษีสหรัฐได้รับการเซ็นอนุมัติจากปธน.ทรัมป์แล้ว มองตลาดที่ย่อ สะสม “Big cap play” : KBANK STEC ERW
Nomura : Key Factors
- (+) US: ปธน.ทรัมป์เซ็นอนุมัติการลดภาษีจาก 35% เหลือ 21% มีผลต้นปี 2018
- (+) US: ยอดขายบ้านเดือนล่าสุด 7.3 แสนยูนิต สูงสุดรอบ 10 ปี
- (-) US: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนล่าสุด 95.9 ต่ำกว่าคาดที่ 97.2
- (+) TH: พาณิชย์เผยส่งออกเดือน พ.ย.60 โต 13.4% และคาดทั้งปีจะขยายตัวเกิน 10%
- (+) TH: ดุลการค้าพ.ย. เกินดุล 1.7 พันล้านเหรียญ
- (+) TH : มาตรการช่วยผู้มีรายได้ต่ำ เฟส 2 เน้นเพิ่มทักษะ คาดเข้า ครม. 3 ม.ค. 2018
- (+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +0.19% สู่ $58.47/bbl / BRT +0.54% สู่ $65.25/bbl
- (*) Fund Flow: ล่าสุดซื้อหุ้น+793 ลบ.,Short Future -6,235สัญญา,ซื้อBond+6,241ลบ.
Nomura Daily Top Picks: KBANK STEC ERW
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “ย่อสร้างฐาน” แนวต้าน 1744/49 จุด แนวรับ 1734/29 จุด หลังปรับขึ้นมา 8 วันติดกัน (40 จุด) แต่เป็นลักษณะสร้างฐานในกรอบขาขึ้น ไม่ได้น่ากังวล โดยตลาดต่างประเทศจะปิดทำการเนื่องในวันคริสต์มาส ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐมีทั้งบวกและลบ คือ 1)ดัชนีความเชื่อมั่นสหรัฐเดือนล่าสุด 95.9 ต่ำกว่าคาดที่ 97.2 แต่ 2) ตัวเลขยอดขายบ้านเดือนล่าสุด 7.3 แสนยูนิต สูงสุดในรอบ 10 ปี และ 3) ปธน.ทรัมป์เซ็นอนุมัตินโยบายภาษีสหรัฐลดจาก 35% เหลือ 21% มีผลต้นปี 2018 โดยรวมยังเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงโลก ขณะที่ ในประเทศยังเป็นภาพของสภาพคล่องลดลง แต่ทั้งนี้ จะกดดันระยะสั้น จากข่าวกระทรวงการคลังมีแนวคิดเก็บภาษีกองทุน รวมถึง LTF แต่โดยภาพรวมยังมองภาพตลาดยังเป็นขาขึ้น หนุนโดยปัจจัยพื้นฐานในประเทศ ภาวะเศรษฐกิจ 2018F ดีขึ้นแบบกระจายตัวขึ้นทั้ง การบริโภคและการลงทุนจะมีมากขึ้น หนุน EPS ตลาด 2018F +14.5% ที่ 112 บาท/หุ้น อิง PER 16.5x เป้าดัชนี 1848 จุด รวมถึง Fund flow ที่ยังเป็นบวกต่อตลาด Emerging market
Asset allocation : ถือหุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : กลยุทธ์กลุ่ม Big cap เน้น PTTEP, KBANK, MINT, STEC ผสาน 8 Theme เด่น
Portfolio Top Picks DEC 2017 : KBANK, MINT, STEC, FN, MM, PSTC
Top picks 2018 : CK STEC HMPRO TOA KBANK AOT MONO FN PTTEP IRPC
Tourism play : จีนเพิ่มความเข้มข้นแบนการท่องเที่ยวไปเกาหลีใต้ + การเพิ่มจุดขอคืนภาษี (Tax refund) และลุ้นมาตรการภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง (+MINT ERW) และ consumer +ROBINS FN MM PM JUBILE
Div play : เข้าสู่ช่วงใกล้จ่ายปันผล 2H17F ประกาศก.พ. เน้น SNC (คาด 0.45 บาท/yield 3.2%), PM (คาด 0.45 บาท/Yield 3.7%), NYT (จ่ายครั้งเดียว คาด0.29 บาท/Yield 4.9%), TK (จ่ายครั้งเดียว คาด 0.5 บาท/ Yeild 3.1%)
Election & Investment spending : เน้น BBL, KBANK, TMB, STEC, CK
Consumer Play : แนะนำ MM(TP6.5), FN(TP8.5) , KAMART, JUBILE, PM ส่วน Big Cap. ROBINS, CPALL, HMPRO แนะนำถือลงทุน
ตลาดประกาศหุ้นเข้า SET50/100 หุ้นเข้า SET50 : BCP, BEAUTY, CENTEL, TPIPP, SAWAD & WHA/หุ้นหลุด SET50 : BLA, DELTA, GLOW, RATCH, SCCC & TPIPL หุ้นเข้า SET100 : ESSO, GGC, HANA, JMART, JWD, MC, ORI, PSL, SGP, STA, TPIPP, UV & WHAUP หุ้นหลุด SET100 : BLA, DELTA, GLOW, LHBANK, MALEE, PLANB, PTL, RATCH, S, SCCC, STPI, THANI & VGI กลยุทธ์เน้น หุ้นพื้นฐานดีเข้า SET50/100 เพื่อเก็งกำไรแนะนำ SAWAD, WHA/SGP, UV
Investment Theme:
1H18F : Domestic - Infrastructure Related Play : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK, AOT, MONO, PTTEP, IRPC, FN
1) Investment Related : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK
2) Tourism & Consumer : AOT, MONO, FN
3) Global Play : PTTEP, IRPC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
ERW (TP18F 9.00*): Support: 7.6/7.4 Resistant: 8.25/8.5
- Theme : Earnings Play
- Earnings Outlook : คาดกําไร 4Q17F จะโตเด่น รวมถึงในช่วง 2017 – 19F ยังโตต่อเนื่อง +28% CAGR ประกอบกับ ERW ยังขยายธุรกิจ ต่อเนื่อง โดยมี model Hop Inn ที่ประสบความสําเร็จมาก ซึ่งเราคาดจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยผลักดันการเติบโตของ ERW ในอนาคต
- Valuation : ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2017-19F ขึ้น 3-7% และราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9 บาท จากราคาซื้อขาย PER18F 28.1x เท่า ต่ำกว่ากลุ่มฯ 31.4 เท่า และค่าเฉลี่ยอดีต 37.5 เท่า ในขณะที่ฐานกำไร 18F เติบโตต่อเนื่อง +16% y-y vs กลุ่ม 13.6% y-y
- Catalyst : คาดประเด็นการคว่ำบาตรของจีน โดยแบนทัวร์จีนไปเกาหลีใต้ที่เริ่มเข้มข้นมากขึ้นจากปัญหาการเมืองระหว่างประเทศจะเป็นโอกาสต่อภาคการท่องเที่ยวไทย + ททท.คาดยื่นมาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเมืองรองเข้าครม.ได้สิ้นปีนี้
STEC (TP18F 33.50*): Support: 23.0/22.6 Resistant: 24.1/24.4
- Theme : Infrastructure spending
- Earnings Outlook : คาดกำไรปกติ 4Q17F เติบโตทั้ง y-y และ q-q จากรายได้ก่อสร้างงานภาครัฐส่งมอบมากขึ้น ชดเชยงานเก่า ประกอบกับ คาดกำไรปี 2018F เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำในปีนี้ จากเริ่มรับรู้รายได้งานก่อสร้างและอัตรากำไรที่ปรับตัวดีขึ้น หนุนแตะระดับ 1.8 พันลบ. +97% y-y โดย Backlog สูงระดับแสนลบ. เป็นจุดสูงสุดในประวัติการณ์ และ Secured รายได้ 3-4 ปีข้างหน้า
- Valuation : ราคาที่ปรับลงมา มองเป็นจุดน่าซื้อสะสมรับการลงทุนรอบใหม่ โดยปัจจุบันซื้อขาย P/BV18F 2.8 เท่า แม้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มฯ(1.9เท่า) แต่ยังเหมาะสมจากความสามารถในการทำกำไรสูง, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง รวมถึงเป็นผู้ได้รับประโยชน์ลำดับต้นๆจากการรับงานลงทุนรอบใหญ่ในช่วงถัดไป
- Catalyst : การรถไฟแห่งประเทศไทยหรือรฟท. เตรียมลงนามโครงการรถไฟทางคู่เฟสแรก 5 สาย วงเงินทั้งหมด 9.8 หมื่นลบ. แบ่งเป็น 13 สัญญา วันที่ 28 ธ.ค.17 นี้ ซึ่งคาดเริ่มก่อสร้างได้ใน 1Q18F เริ่มรับรู้รายได้ หนุนผลประกอบการปี18F โดดเด่น
KBANK (TP18F 256*): Support: 232/230 Resistant: 236/240
- Theme : Earnings Play
- Earnings Outlook : เป็น Top pick จากคาดผลประกอบการเติบโตโดดเด่นใน 2018F ที่ +23% y-y (กลุ่มอยู่ที่ 14%y-y) กอปรกับคาดปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารจะค่อยๆ ดีขึ้น และหากปัญหา NPL จบลงได้เราคาด KBANK จะเป็นธนาคารที่มีการเติบโตแบบยั่งยืนได้ดีที่สุด จากการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ทำมาอย่างต่อเนื่องรวมถึงกลยุทธ์ customer centric ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ และสามารถเป็น main bank ของลูกค้าเกือบทุกกลุ่ม
- Valuation : KBANK จะเป็นผู้นำกลุ่มฯที่มีแนวโน้มกำไรปีหน้าเด่น โดยมี PBV ปี 2018F ต่ำเพียง 1.50x (Mean 1.77x)
- Catalyst : GDP Growth เติบโตต่อเนื่อง เข้าสู่ช่วงลงทุนรอบใหญ่ + คาดตลาดจะเริ่มมองไปที่ผลประกอบการปีหน้า ซึ่ง KBANK จะโดดเด่นสุดในกลุ่มฯ
-
ข่าวเด่น