CNS Daily Strategy : คาดตลาด “พักฐาน” ต้าน 1759/1762 จุด รับ 1743/1736จุด การทำ Rollover ในสัญญา S50Z17 ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันสุดท้าย สู่สัญญา S50H18 น่าจะสร้างความผันผวน แนะชะลอการเก็งกำไร ขณะที่นักลงทุนระยะกลาง-ยาว รอตลาดย่อเป็นจังหวะซื้อลงทุน รับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่เติบโตเด่น โดยล่าสุด รัฐเร่งดัน 5 โครงการ EEC มูลค่ารวมกว่า 6 แสนล้านบาท พร้อมเปิดประมูลช่วง 2Q18 กระตุ้นเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง ดังนั้น วันนี้แนะนำ Theme “EEC Play” : AMATA, WHA, ADVANC
Nomura : Key Factors
- (*) TH: Rollover สัญญา S50Z17 ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันสุดท้าย อาจทำให้ตลาดปรับฐานได้
- (+) TH: รัฐเร่งดัน 5 โครงการ EEC มูลค่ารวมกว่า 6 แสนลบ. พร้อมเปิดประมูลช่วง 2Q18
- (+) TH: กสทช.เห็นชอบร่างสัญญาคลื่น 2300 MHz และขยายอายุจ่ายค่างวด 900 MHz
- (+) Currency : ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าต่อเนื่อง หนุนค่าเงินเอเชียแข็งค่าในเชิงเปรียบเทียบ
- (*) Fund Flow: ล่าสุดขายหุ้น -514 ลบ.,Long Future+7,058สัญญา,ซื้อBond+1,160ลบ.
- (-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -0.55% สู่ $59.64/bbl / BRT -0.87% สู่ $66.44/bbl
Nomura Daily Top Picks: AMATA, WHA, ADVANC
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “พักฐาน” แนวต้าน 1759/1762 จุด แนวรับ 1743/1736 จุด การทำ Rollover ในสัญญา S50Z17 ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันสุดท้าย สู่สัญญา S50H18 อาจทำให้ตลาดปรับฐานได้ ดังนั้น สำหรับนักเก็งกำไร แนะนำชะลอการเก็งกำไร ขณะที่สำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว เรามองว่าในช่วงที่ตลาดปรับฐานเป็นจังหวะในการซื้อลงทุน เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศยังคงเป็นบวก จากภาคการส่งออกที่เติบโตโดดเด่น ผสานกับการบริโภค และมาตรการภาครัฐฯที่ทยอยออกมากระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง โดยล่าสุด บอร์ดระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เร่งดัน 5 โครงการ ได้แก่ สนามบินอู่ตะเภา ศูนย์ซ่อมบำรุง รถไฟความเร็วสูง ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และท่าเรือมาบตาพุดระยะ 3 มูลค่ารวมกว่า 6แสนล้านบาท โดยจะเปิดประมูลในช่วง 2Q18 หนุนเศรษฐกิจไทยเด่น นอกจากนี้ ทิศทางค่าเงินดอลล่าร์ยังคงเป็นภาพของการอ่อนค่า จากคาดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ Trump จะทำให้สหรัฐฯขาดดุลทางการค้าต่อเนื่อง โดย Nomura มองค่าเงินดอลล่าร์จะอ่อนค่าลงสู่ 87.0 จุดในปี 2018 และ 79.8 จุดในปี 2019 เป็นปัจจัยหนุนสินทรัพย์เสี่ยงในระยะกลาง-ยาว
Asset allocation : ถือหุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : กลยุทธ์กลุ่ม Big cap เน้น PTTEP, KBANK, MINT, STEC ผสาน 8 Theme เด่น
EEC Play : AMATA, WHA
Consumer Recovery Play : FN, JUBILE, ROBINS
Investment spending : คมนาคมจะเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-ญี่ปุ่น ช่วง กรุงเทพฯ – พิษณุโลก ภายในต้นปี 2018 หนุน BBL, KBANK, TMB, STEC, CK
ครม. มีมตินำค่ากินเที่ยวลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 1.5หมื่นบาท สำหรับการท่องเที่ยวจังหวัดรอง หนุน MINT, ERW, FN, ROBINS
Portfolio Top Picks DEC 2017 : KBANK, MINT, STEC, FN, MM, PSTC
Top picks 2018 : CK STEC HMPRO TOA KBANK AOT MONO FN PTTEP IRPC
Div play : เข้าสู่ช่วงใกล้จ่ายปันผล 2H17F ประกาศก.พ. เน้น SNC (คาด 0.45 บาท/yield 3.2%), PM (คาด 0.45 บาท/Yield 3.7%), NYT (จ่ายครั้งเดียว คาด0.29 บาท/Yield 4.9%), TK (จ่ายครั้งเดียว คาด 0.5 บาท/ Yield 3.1%)
Consumer Play : แนะนำ MM(TP6.5), FN(TP8.5) , KAMART, JUBILE, PM ส่วน Big Cap. ROBINS, CPALL, HMPRO แนะนำถือลงทุน
SET50/100 Play ให้เก็งกำไรหุ้นพื้นฐานดีเข้า SET50/100 แนะนำ SAWAD, WHA/SGP, UV
Investment Theme:
1H18F : Domestic - Infrastructure Related Play : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK, AOT, MONO, PTTEP, IRPC, FN
1) Investment Related : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK
2) Tourism & Consumer : AOT, MONO, FN
3) Global Play : PTTEP, IRPC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
AMATA (Consensus TP 27): Support: 25.0/24.4 Resistant: 27.0/28.0
- Theme : EEC Play
- Earnings Outlook : คาดกำไรจะกลับสู่รอบการเติบโตโดดเด่นอีกครั้งช่วง 2 ปีนี้ เฉลี่ย 25% ต่อปี จากทั้งรายได้โรงไฟฟ้าและยอดขายที่ดิน โดยนโยบาย EEC ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ต่อพื้นฐานบริษัท ซึ่ง AMATA เป็นบริษัทที่มียอดขายที่ดินฟื้นตัวมากที่สุดในกลุ่มและเป็นผู้มีแนวโน้มได้ประโยชน์จาก EEC มากที่สุด
- Valuation : ราคาหุ้นปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ซื้อขายที่ระดับ PER18F 14.5 เท่าต่ำกว่า WHA ซื้อระดับ 18.3 เท่า
- Catalyst : ได้รับอานิสงส์บวกจากคลังจัดทำระเบียบ "PPP EEC Track" เร่งลงทุน 5 โครงการลงทุนใหญ่ 6.08 แสนล้าน เพื่อเร่งเปิดประมูลภายใน 8 เดือน จากปกติใช้เวลา 20-40 เดือน
WHA (Consensus TP 4.37): Support: 3.96/3.90 Resistant: 4.12/4.20
- Theme : EEC play
- Earning Outlook : คาดผลประกอบการ 4Q17F เติบโต q-q จะดีที่สุดของปี 2017 จากมีบันทึกขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT มูลค่าราว 4.7 พันลบ.ต่อเนื่องถึงปี 2018F คาดขายที่ดินได้ที่ระดับ 1.1 พันไร่ หนุนกำไรสุทธิเติบโตสูง 21% แตะระดับ 3.17 พันลบ. หลังความต้องการเข้ามาต่อเนื่องจาก พ.ร.บ. EEC บังคับใช้ต้นปี18
- Valuation : ราคาซื้อขายปัจจุบันอิง PER18F ที่ 18.3x ราคา YTD ปรับขึ้นมาเพียง 36% ในขณะที่ยัง Laggard AMATA ที่ราคา YTD เพิ่มขึ้นมากว่า +126%
- Catalyst : ได้รับอานิสงส์บวกจากคลังจัดทำระเบียบ "PPP EEC Track" เร่งลงทุน 5 โครงการลงทุนใหญ่ 6.08 แสนล้าน เพื่อเร่งเปิดประมูลภายใน 8 เดือน จากปกติใช้เวลา 20-40 เดือน
ADVANC (TP18F 215*): Support 184.5/183 Resistant 188/190
- Theme : ICT Play
- Earnings Outlook : คาดกำไรสุทธิ 4Q17F ที่ 7,512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +16%y-y, +1% q-q ผลักดันจากรายได้ให้บริการ (ไม่รวม IC) ที่ยังโตตามเป้าและรายจ่าย Handset subsidy (แจกเครื่อง) ไม่สูงเท่า 4Q16 และคาดแนวโน้มกำไรปี 18F จะกลับมาโต +19%y-yตามรายได้,การลงทุนที่ผ่าน Peak ไปแล้ว+ CSL
- Valuation : ซื้อขายที่ PER18F 15.4x ต่ำกว่ากลุ่มที่ 20.3x จ่ายปันผลสม่ำเสมอ 4-5%ต่อปี คาด 2H17F จ่าย 3.7 บาท/หุ้น
- Catalyst : กสทช.มีมติเห็นชอบการขยายเวลาผ่อนชำระค่า License งวดสุดท้ายของคลื่น 900 MHz ช่วยผ่อนคลายความตึงตัวทางการเงิน เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มสื่อสาร ADVANC เด่นสุดจากแนวโน้มกำไรโต y-y สูงสุด
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
ข่าวเด่น